
ผู้เขียน | สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ทูลกระหม่อม สมเด็จ และเสด็จ เป็น 3 คำที่คนไทยส่วนใหญ่พอจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ทั้ง 3 คำนี้เป็นการขานพระนามพระบรมวงศานุวงศ์อย่างลำลอง โดยใช้แตกต่างกันตาม “สกุลยศ”
ทูลกระหม่อม สมเด็จ และเสด็จ
ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ อธิบาย “สกุลยศ” ไว้ว่า คือพระยศที่ได้มาตั้งแต่ประสูติ หากพระราชโอรสหรือพระราชธิดาประสูติแต่พระมารดาที่เป็นเจ้า จะได้พระยศชั้น “เจ้าฟ้า”
พระยศชั้นเจ้าฟ้า ยังแบ่งเป็น “เจ้าฟ้าชั้นเอก” และ “เจ้าฟ้าชั้นโท” ซึ่งการแบ่งเช่นนี้พิจารณาจากพระยศของ “แม่” ว่า มีสายสัมพันธ์อะไรกับพระมหากษัตริย์
ทูลกระหม่อม
หากแม่เป็น “ลูก” ของพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆ จะจัดเป็น “พระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวง” เช่น สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ทั้ง 2 พระองค์ทรงเป็นพระภรรยาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา
เมื่อพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวงทรงให้กำเนิดพระราชโอรสหรือพระราชธิดา “ลูก” ที่เกิดมานี้ก็จะจัดเป็น “เจ้าฟ้าชั้นเอก” เรียกขานว่า “ทูลกระหม่อม”
ตัวอย่างเช่น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ที่ชาววังขานพระนามพระองค์ว่า “ทูลกระหม่อมโต”, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิราภรณ์โสภณ พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี

สมเด็จ
หากแม่เป็น “หลาน” ของพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆ จะจัดเป็น “พระภรรยาเจ้าชั้นหลานหลวง” เช่น พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์, พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค, พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ ซึ่งทั้ง 3 พระองค์ทรงเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
“ลูก” ที่เกิดจากพระราชมารดาที่เป็นพระภรรยาเจ้าชั้นหลานหลวง จะจัดเป็น “เจ้าฟ้าชั้นโท” เรียกขานว่า “สมเด็จ”
ตัวอย่างเช่น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามาลินีนภดารา พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ

เสด็จ
ส่วนอีกคำคือ “เสด็จ” ที่หากใครอ่านวรรณกรรมเรื่อง “สี่แผ่นดิน” ที่ประพันธ์โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็อาจจำประโยคคลาสสิกนี้กันได้เป็นอย่างดี “เสด็จให้มาทูลถามเสด็จว่าจะเสด็จหรือไม่เสด็จ ถ้าเสด็จจะเสด็จ เสด็จจะเสด็จด้วย เสด็จตรัสตอบให้กลับไปทูลเสด็จว่าเสด็จจะเสด็จ ถ้าเสด็จจะเสด็จด้วย เสด็จก็จะดีพระทัยมาก”
หากพระราชโอรสหรือพระราชธิดาประสูติแต่เจ้าจอมมารดา ซึ่งเป็นสตรีสามัญชน “ลูก” ก็จะได้พระยศชั้น “พระองค์เจ้า” เรียกขานพระนามว่า “เสด็จ”
ตัวอย่างเช่น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย-พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาส พระราชธิดาแฝดในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาพร้อม, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุฑารัตนราชกุมารี พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดามรกฎ
ที่กล่าวมาเป็นหลักกว้างๆ ในการขานพระนามว่า ทูลกระหม่อม สมเด็จ และเสด็จ ทั้งนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยเรื่องสกุลยศ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามพระบรมราชวินิจฉัยของพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์
อ่านเพิ่มเติม :
- “พระภรรยาเจ้า” ในรัชกาลที่ 5 มีกี่พระองค์ และพระองค์ใดบ้าง?
- ทำไม “สมเด็จพระพันปีหลวง” พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 5 ทรงนอนตอนเช้า และทรงตื่นในเวลาค่ำ?
- สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า กับ “คำฝากฝัง” ที่ไม่มีผู้ใดสนองแม้สักคน เพราะเหตุใด?
- “ประภาพรรณพิไลย-ประไพพรรณพิลาส” พระราชธิดา “ฝาแฝด” คู่เดียวในรัชกาลที่ 5
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
สกุลยศ “เจ้าฟ้า” และ “พระองค์เจ้า” ต่างกันอย่างไร?
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 13 กรกฎาคม 2567