ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
การทดลองทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ไม่ได้มีแต่ “หนูทดลอง” เท่านั้น หลายครั้งก็ต้องมีการใช้ “มนุษย์ทดลอง” เช่นกัน เช่นที่พวก นาซี ทำการทดลองอย่างสยดสยองกับบรรดานักโทษใน “ค่ายกักกัน” ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
กิจกรรมที่โหดร้ายนี้เริ่มต้นใน ค.ศ. 1939-1945 ซึ่งตลอดเวลา 7 ปีมีการเน้นย้ำให้เชื่อว่า คนบางเชื้อชาติและบางกลุ่ม เช่น คนยิว ยิปซี คนพิการ คนที่ป่วยเรื้อรังที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ ฯลฯ ในทางการแพทย์ เป็นเพียง “กลุ่มคนไร้ค่าทางการแพทย์”
ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม เพื่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของทหารเยอรมันที่อยู่ในสนามรบ พวก “นาซี” การใช้กลุ่มคนดังกล่าวในการทดลอง จึงไม่ต้องคำนึงถึงความยินยอม ความเจ็บปวด และความเสี่ยงต่อชีวิตของพวกเขาแต่อย่างใด
คาดการณ์กันว่า ช่วงนั้นมีอาจารย์แพทย์และนักวิชาการในมหาวิทยาลัยราว 350 คน มีส่วนในการใช้นักโทษ “มนุษย์ทดลอง” ใน “ค่ายกักกัน” ตัวอย่างเช่น
ศาสตราจารย์ไฮน์ริช แบร์นนิ่ง จากมหาวิทยาลัยฮัมบวร์ก ทดลองเรื่องการอดอาหาร โดยใช้เชลยศึกรัสเซีย เขาเฝ้าสังเกตการณ์บันทึกอาการ ตั้งแต่แรกเริ่มอดอาหาร จนถึงลมหายใจสุดท้าย
ศาสตราจารย์ยูลิอุสซ์ ฮาเลอร์ฟอร์เดน จากสถาบันไกเซอร์ วิลเฮล์ม สาขาการวิจัยสมอง เก็บตัวอย่างสมองหลายร้อยก้อนจากเหยื่อการุณยฆาต เพื่อให้นักวิจัยประสาทพยาธิวิทยาได้ศึกษา
ดร.เคลาส์ ชิลลิง ศาตราจารย์กิตติคุณ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเบอร์ลิน กับโครงการการทดลองเกี่ยว “โรคมาลาเรีย” ในค่ายกักกันดาเชา เพราะมาลาเรียสร้างปัญหาให้กับกองทัพเยอรมันในแอฟริกา เขาใช้นักโทษ 1,200 คน ที่ได้รับเชื้อมาลาเรีย หรือฉีดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย หลังจากนั้นพวกเขาจะได้รับยาแรงในการรักษา เช่น ควินิน, นีโอซาลวาร์ซาน, ไพรามิเดียน หรือยาหลายอย่างผสมกัน ทำให้นักโทษเสียชีวิต 30 คน และอีก 300-400 คนเสียชีวิตภายหลังจากภาวะแทรกซ้อน
ศาสตราจารย์คาร์ล บรานด์ต แพทย์ประจำตัวฮิตเลอร์ ผู้ตรวจการใหญ่สาธารณสุขไรช์ ทดลองโรคดีซ่านที่ค่ายกักกันซักเคนเฮาเซน และนาตซ์ไวเลอร์ เพราะดีซ่านเป็นโรคที่รบกวนทหารในสนามรบ โดยนำนักโทษที่เป็นยิวโปแลนด์มาเป็นมนุษย์ทดลอง
ดร.ออยเกน ฮาเกน ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยสตราบูร์ก ทดลองวัคซีนต้านไข้รากสาดใหญ่ โดยฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับนักโทษ จากนั้นก็ปล่อยให้รวมกลุ่มกับนักโทษที่ได้รับเชื้อ และนักโทษบางกลุ่มจะทำให้ติดเชื้ออย่างจงใจ เพื่อใช้เป็นแหล่งเพาะเชื้อไวรัสสำหรับนำไปใช้งาน
ฯลฯ
แพทย์และนักวิจัยในค่ายนาซี หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่มีต่อ “มนุษย์ทดลอง” โดยอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง และพวกเขาก็ทราบดีว่า ในช่วงที่พรรคนาซีปกครองประเทศ และสถานการณ์สงคราม กฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญาในเยอรมนีละเว้นการบังคับทั่วเยอรมนี การกระทำเรื่องเหล่านี้จึงไม่มีการลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น
อ่านเพิ่มเติม :
- “ฮิตเลอร์” เอาแนวคิดต่อต้านยิวมาจากไหน เจาะ 3 นักคิดทรงอิทธิพลต่อผู้นำนาซีเยอรมัน
- Monuments Men กับการทวงคืนมรดกโลกทางศิลปะจากปีศาจนาซี
- จอห์น ราเบ้ นาซีเปี่ยมน้ำใจ พ่อพระของชาวนานกิง
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
ข้อมูลจาก :
จอห์น คอร์นเวลล์ เขียน, นพดล เวชสวัสดิ์ แปล. นักวิทยาศาสตร์ของฮิตเลอร์, สำนักพิมพ์มติชน สิงหาคม 2554.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 21 กรกฎาคม 2564