Monuments Men กับการทวงคืนมรดกโลกทางศิลปะจากปีศาจนาซี

Monuments Man หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน
คลังสมบัติที่กองทัพเยอรมันนำมาเก็บไว้ที่ปราสาทเออร์ลิงเงิน แคว้นบาวาเรีย, 24 เมษายน 1945 (ภาพจาก Wikimedia Commons)

ภารกิจกอบกู้สมบัติมรดกโลกจากนาซี ระหว่างปี 1943-1945 โดย “Monuments Men” หรือ หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวความกล้าหาญและการเสียสละที่สร้างแรงบันดาลใจในหน้าประวัติศาสตร์ การอุทิศตนเพื่ออนุรักษ์ผลงานสำคัญ อันประกอบด้วย อนุสรณ์สถาน งานวิจิตรศิลป์ เอกสารจดหมายเหตุ ซึ่งล้วนเป็นมรดกทางภูมิปัญญา ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของโลก

ชาย – หญิง ผู้กล้าหาญเหล่านี้เสี่ยงชีวิตเพื่อรักษาและติดตามงานศิลปะล้ำค่าจำนวนนับไม่ถ้วนจากเงื้อมมือของกองทัพนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นับเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวง แต่พวกเขาหาได้สะทกสะท้าน ตระเวนไปทั่วทวีปยุโรปที่บอบช้ำจากมหาสงคราม ในภารกิจกอบกู้สมบัติเหล่านั้น ความทุ่มเทอย่างไม่ย่อท้อของพวกเขาเป็นคุณูปการต่อโลกศิลปะและอารยธรรมตะวันตก ทำให้คนรุ่นหลังยังมีโอกาสได้เห็นงานศิลปะแห่งอดีตกาล ไม่ถูกทำลายหรือสูญสลายหายไประหว่างสงคราม 

หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน เกิดจากโครงการที่ก่อตั้งเมื่อปี 1943 ในชื่อเต็มว่า “โครงการอนุสรณ์สถาน วิจิตรศิลป์ และเอกสารจดหมายเหตุ” หรือ MFAA (the Monuments, Fine Arts, and Archives program) สังกัดหน่วยงานกิจการพลเรือนและรัฐบาลทหารแห่งกองกำลังสัมพันธมิตร ประกอบด้วยตัวแทนจาก 13 ประเทศ และสมาชิกรวมกัน 345 ชีวิต ที่สำคัญคือ พวกเขาทั้งหมดเป็น “อาสาสมัคร”

ภารกิจดังกล่าวจำเป็นต้องมีภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ นักประวัติศาสตร์ศิลปะ และผู้เชี่ยวชาญที่รับการฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือเป็นมืออาชีพด้านการดูแลงานศิลปะ ทักษะข้างต้นทำให้พวกเขาสามารถระบุตัวตนหรือผลงาน และสามารถดูแลงานศิลปะที่กระจัดกระจายย้ายถิ่นไปทั่วทวีปยุโรป หรือแม้แต่สมบัติที่เสี่ยงสูญหายและอาจถูกทำลายท่ามกลางภาวะสงคราม

ระหว่างที่กองกำลังอเมริกันและสัมพันธมิตรค้นพบขุมทรัพย์จำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้ ในจำนวนนี้มาจากการปล้นสะดมและการเคลื่อนย้ายโดยกองทัพของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ The Monuments Men คือหน่วยงานที่เข้าไปดูแลปกป้อง จัดแจงบัญชีรายการ ดูแลการเคลื่อนย้าย และจัดเก็บชิ้นงานทั้งหมดอย่างเป็นระบบ

ในอิตาลี เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ส่งทรัพย์สินในรับผิดชอบของพวกเขาไปยังชนบทห่างไกลแนวรบหลัก เมื่อกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรรุกคืบเข้าปลดปล่อยอิตาลี กองทัพเยอรมันที่ถอยร่นไปทางเหนือก็ขโมยภาพวาดและประติมากรรมจากคลังเหล่านี้ติดไปด้วยระหว่างที่พวกเขาหลบหนี แต่เมื่อเข้าใกล้ชายแดนออสเตรีย พวกเยอรมันถูกบีบให้ต้องซ่อนสมบัติที่ปล้นมาส่วนใหญ่ไว้ตามจุดหลบซ่อนต่าง ๆ เช่น ปราสาทเทาเฟอร์ และเรือนจำในซาน เลโอนาร์โด

ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝั่งยุโรป ปลายเดือนมีนาคม ปี 1945 กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มติดตามและพบพิกัดของแหล่งเก็บซ่อนสมบัตินาซี ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเยอรมนี ออสเตรีย และอิตาลี นำไปสู่เหตุการณ์ที่เรียกว่า “greatest treasure hunt in history” หรือการล่าขุมทรัพย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

เฉพาะในพื้นที่ของประเทศเยอรมนี กองกำลังสหรัฐฯ ฝ่ายสัมพันธมิตร กองทัพโซเวียต รวมถึงหน่วย The Monuments Men ค้นพบคลังเก็บวัตถุโบราณ งานศิลปะ และมรดกทางวัฒนธรรมกว่า 1,500 แห่ง ซุกซ่อนผลงานล้ำค่าที่ถูกปล้นชิงมาจากสถาบันและบุคคลต่าง ๆ ทั่วยุโรป รวมถึงงานสะสมของพิพิธภัณฑ์ในเยอรมนีและออสเตรียที่ขนย้ายออกไปตามจุดต่าง ๆ โดยกองทัพนาซี เพื่อความปลอดภัยในช่วงที่ฝ่ายเยอรมันเริ่มเพลี่ยงพล้ำ

ภาพต่อจากนี้ถูกบันทึกไว้ระหว่างห้วงเวลาที่ชะตากรรมของสมบัติหรือมรดกโลกแขวนอยู่บนเส้นด้าย Monuments Men ได้รับมอบหมายภารกิจให้ค้นหาและกู้คืนสิ่งของที่มีความสำคัญต่ออารยธรรมมนุษย์และภูมิปัญญาของโลกตะวันตกกว่า 5 ล้านชิ้น โดยมีตั้งแต่ ภาพวาด ประติมากรรม ต้นฉบับงานเขียน เอกสารจดหมายเหตุ หรือแม้แต่เครื่องราชกกุธภัณฑ์

Monuments Man หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน มงกุฎ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ กษัตริย์ฮังการี
Edith Standen และ Joe Kelleher สมาชิกหน่วย Monuments Man ถ่ายกับมงกุฎและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของกษัตริย์แห่งฮังการี, ปี 1946 (ภาพจาก Wikimedia Commons)
Monuments Man หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน พระเจ้าเฟรเดอริกมหาราช
ดาบ 2 เล่ม ของพระเจ้าเฟรเดอริกมหาราช พบพร้อมโลงพระบรมศพที่ถูกคลุมด้วยธงนาซี ภายในเหมือง Bernterode เยอรมนี, 1 พฤษภาคม 1945 (ภาพจาก Rare Historical Photos / the Monuments Men Foundation)
ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์
นายพลดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมนายพลระดับสูงของฝ่ายสัมพันธมิตร ตรวจสอบงานศิลปะที่ถูกซุกซ่อนใต้เหมืองเกลือในเยอรมนี, 12 เมษายน 1945 (ภาพจาก U.S. National Archives and Records Administration)
Monuments Man หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน มาดอนนา มีเกลันเจโล
งานสลักหินอ่อน “มาดอนนา” ของมีเกลันเจโล ถูกเคลื่อนย้ายออกจากเหมืองเกลือในเยอรมนีกลับสู่เบลเยียม, 10 กรกฎาคม 1945 (ภาพจาก the National Archives and Records Administration)
Monuments Men หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน ภาพศิลปะ ปราสาทนอยชวานสไตน์ เยอรมนี
สมาชิกหน่วย Monuments Men กับภาพศิลปะจากปราสาทนอยชวานสไตน์ ในเยอรมนี, ปี 1945 (ภาพจาก Wikimedia Commons)
Monuments Man หน่วยพิทักษ์อนุสรณ์สถาน Lady with an Ermine เลโอนาร์โด ดาร์วินซี โปแลนด์
สมาชิกหน่วย Monuments Man กับภาพ Lady with an Ermine ผลงานของเลโอนาร์โด ดาร์วินซี ที่กำลังจะเดินทางกลับโปแลนด์, ปี 1946 (ภาพจาก The Monuments Men and Women Foundation.org)

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

Rare Historical Photos. Monuments Men in Pictures: Rescuing the World’s Artistic Heritage from the Nazis, 1943-1945. April 13, 2023. From https://rarehistoricalphotos.com/monuments-men-photos/


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 พฤษภาคม 2566