ผู้เขียน กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568
ย้อนประวัติอีสป ผู้แต่งนิทานอมตะ กับคติสอนใจ “ทรราชย่อมหาเหตุแห่งการทรราชได้เสมอ”
อีสป (Aesop) เป็นทาสชาวกรีกผู้แต่งนิทานอีสป ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมา หลายยุคหลายสมัยยาวนานนับพั นปี ประวัติของเขามีความคลุมเค รือในหลายประเด็น เพราะขาดการบันทึกที่แน่ชัด และมีหลายทฤษฎีด้วยกัน
ชีวประวัติอีสป
บ้านเกิดและปีเกิดของอีสปยังเป็นเรื่องที่ต้องหาหลักฐานและคำตอบกันอยู่ แต่นักวิชาการลงความเห็นกัน ว่าเขาน่าจะเกิดในช่วง 620 ก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิด
นายทาสของอีสปเป็นชาวเกาะซา โมส (Samos) คนแรกชื่อ Xanthus และคนที่สองชื่อ Jadmon ซึ่ง Jadmon เป็นผู้ที่ให้อิสรภาพเป็นรา งวัลแก่อีสป โดยเห็นแก่ความเป็นผู้ที่มี ไหวพริบและสติปัญญาล้ำเลิศ
บ้านเกิดของอีสป ก็มีหลายสันนิษฐานที่เป็นไป ได้คือ
1. เมืองซาร์ดิซ (Sardis) เมืองหลวงของราชอาณาจักรลีเ ดีย (Lydia) บนแผ่นดินใหญ่ด้านตะวันตกของดินแดนอนาโตเลีย หรือที่เรี ยกว่าเอเชียไมเนอร์
2. เกาะซาโมส ในทะเลอีเจียน ปัจจุบันอยู่ใกล้กับชายฝั่ง ตุรกี
3. เมือง Mesembria ในเขตเทรซ (Thrace) บริเวณชายฝั่งของบัลแกเรียใ นปัจจุบัน
4. เมือง Cotiaeum ในจังหวัด Phrygia บนดินแดนอนาโตเลีย
ภาพวาดอีสป โดยศิลปิน Velázquez
แม้จะไม่สามารถระบุได้ชัดว่ าที่ใดคือบ้านเกิดของอีสป แต่ดินแดนที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนแต่เป็นดินแดนที่ได้รับ อิทธิพลจากอารยธรรมกรีก ในช่วงชีวิตของอีสปนั้นคาดว ่าตรงกับยุคอาร์เคอิก และเป็นช่วงที่การปกครองระบ อบกษัตริย์เริ่มเสื่อมสลาย ขณะที่การปกครองแบบนครรัฐเร ิ่มพัฒนามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะค ่อย ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุค กรีกถัดมาคือยุคคลาสสิก
ช่วงขณะนั้นเมืองต่าง ๆ อยู่ใต้อำนาจปกครองของผู้นำ แบบผูกขาดอำนาจไว้คนเดียว เรียกว่า “ทรราช” หมายถึงผู้ปกครองที่โหด ร้ายกดขี่ประชาชน หรือผู้ปกครองที่ยึดอำนาจโด ยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือสืบทอ ดอำนาจ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกร ีกจึงมีพัฒนาการด้านประชาธิ ปไตยไปเป็นแบบนครรัฐ
ในนครรัฐกรีกจะให้สิทธิพิเศ ษแก่เสรีชนคือ อนุญาตให้มีส่วนร่วมในกิจกร รมสาธารณะได้อย่างเสรี นั่นจึงทำให้อีสปใช้ความรู้ ความสามารถในการช่วยเหลือผู ้คน อีสปกลายเป็นผู้มีชื่อเสียง เพราะเขาเล่านิทานอันเป็นที่ ่เล่าขานไปทั่วดินแดน อีสปต้องการสั่งสอนผู้คนและ ต้องการถูกสอนสั่งด้วยเช่นก ัน เขาจึงเดินทางผจญภัยท่องไปท ั่วดินแดนต่าง ๆ
เมื่อมาถึงเมืองซาร์ดิซ เมืองหลวงของราชอาณาจักรลีเ ดีย เขาได้รับเชิญให้ไปทำงานในร าชสำนักของกษัตริย์โครซุส (Croesus)
อีสปได้รับมอบหมายให้เป็นรา ชทูตปฏิบัติหน้าที่แทนกษัตร ิย์ในเมืองเล็กเมืองน้อยที่ เป็นเมืองขึ้นในราชอาณาจักร อีสปไปที่ใดก็มักใช้นิทานเล ่าเรื่องกระตุ้นความคิดของช าวเมืองได้อย่างเฉลียวฉลาด และยังใช้นิทานในการประนีปร ะนอมความขัดแย้งในเมืองต่าง ๆ อีกด้วย
ยกตัวอย่างนิทานอีสป 3 เรื่อง ตามสำนวนแปลภาษาอังกฤษของ George Fyler Towsend มีเนื้อความดังนี้
ชาวนากับงู (The Farmer and the Snake)
ในฤดูหนาวที่แสนเยือกเย็นปี หนึ่ง ชาวนาคนหนึ่งพบงูนอนตัวแข็ง ทื่อด้วยความน่าสงสาร ชาวนารู้สึกเห็นอกเห็นใจจึง หยิบงูขึ้นมาวางไว้ในอก แล้ว จึงกอดคลายหนาวให้มัน เมื่อได้รับความอบอุ่นทำให้ งูฟื้นขึ้นตัวมาอย่างรวดเร็ ว งูกลับมามีสัญชาตญาณตามธรรม ชาติของมันอีกครั้ง เพียงชั่วขณะมันก็กัดผู้มีพ ระคุณของมัน ชาวนาได้รับบาดเจ็บสาหัสและ ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ในวาระสุดท้ายแห่งชีวิตชาวน าก็ร้องออกไปด้วยความโศกเศร ้าว่า “ข้าสมควรตายที่ดันไปเมตตาส งสารสัตว์ร้ายเช่นนั้น”
ความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จะไม่ผูกมัดคนเนรคุณ (The greatest kindness will not bind the ungrateful)
หมาป่ากับนกกระสา (The Wolf and the Crane)
หมาป่าตัวหนึ่งมีก้างติดคอข องมันอยู่ มันจึงขอร้องให้นกกระสาช่วย เพื่อแลกกับค่าตอบแทน โดยจะให้ใช้ปากอันแหลมยาวขอ งมันดึงเอาก้างออกมา นกกระสาจึงยอมช่วยแล้วมุดเข ้าไปในปากหมาป่าเอาก้างออกม าได้สำเร็จ นกกระสาเรียกร้องให้หมาป่าจ ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญา หมาป่ายิ้มกว้างพร้อมกับบดเ ขี้ยวของมันแล้วพูดว่า “ทำไมล่ะ เจ้าได้รับรางวัลอย่างเหมาะ สมแล้ว เพราะเจ้าได้รับอนุญาตให้ดึ งหัวของเจ้าออกมาจากปากและข ากรรไกรของข้าอย่างปลอดภัย”
“การรับใช้คนชั่ว อย่าคาดหวังจะได้รางวัลใดตอ บแทน” (In serving the wicked, expect no reward)
หมาป่ากับลูกแกะ (The Wolf and the Lamb)
หมาป่าตัวหนึ่งได้พบลูกแกะห ลงฝูงตัวหนึ่งจึงตั้งใจว่าต นจะไม่ใช้กำลังจัดการ แต่จะต้องหาเหตุสักอย่างอ้างสิทธิที่จะกินเจ้าลูกแก ะ หมาป่ากล่าวว่า “เจ้าเด็กน้อย ปีที่แล้วเจ้าเคยดูหมิ่นข้า อย่างสาดเสียเทเสีย” ลูกแกะได้ยินดังนั้นก็กล่าว ตอบไปว่า “จริง ๆ แล้ว ตอนนั้นข้ายังไม่เกิดเลยท่า น” หมาป่าจึงกล่าวต่อไปว่า “งั้นเจ้าก็เคยมากินหญ้าในท ุ่งหญ้าของข้า” ลูกแกะตอบว่า “เปล่าเลยท่าน ตั้งแต่เกิดมาข้ายังไม่เคยไ ด้กินหญ้าเลย” หมาป่าไม่ยอมแพ้จึงกล่าวหาลูกแกะว่า “เจ้ามาดื่มน้ำในบ่อน้ำของข ้า”
“ไม่” ลูกแกะร้องตอบ “ข้าไม่เคยดื่มน้ำ เพราะน้ำนมจากแม่ของข้าเป็น ทั้งน้ำและอาหารของข้า” สิ้นเสียงของลูกแกะ เจ้าหมาป่าก็กระโจนเข้าหาลู กแกะเพื่อจับกินเป็นอาหาร และกล่าวว่า “ช่างเถอะ! ข้าคงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองอ ดอาหารเย็น แม้ว่าเจ้าจะไม่ยอมรับเหตุผ ลใด ๆ ของข้าก็ตาม”
“ทรราชย่อมหาเหตุแห่งการทรร าชได้เสมอ” (The tyrant will always find a pretext for his tyranny)
อีสป (ซ้าย) ภาพเขียนเมื่อ ค.ศ. 1687
การตายของอีสป
อีสปเดินทางไปทั่วราชอาณาจั กรในฐานะราชทูต ครั้งหนึ่งเขาถูกส่งไปยังเม ืองเดลฟิ (Delphi) พร้อมกับทองคำจำนวนมากที่ได ้รับคำสั่งให้นำไปแจกจ่ายให ้ประชาชน แต่เกิดเหตุวุ่นวายจน ชาวเมืองจับอีสปมาสำเร็จโทษ ในฐานะอาชญากรสาธารณะ โดยมิไ ด้หวาดกลัวว่าเขามีฐานะเป็น ราชทูต
บางทฤษฎีเสนอว่า อีสปเห็นประชาชนเกิดความโลภ เขาจึงปฏิเสธที่จะแจกจ่ายทอง คำเหล่านั้นและนำทองกลับคืนราชสำนัก ชาวเมืองเดลฟิจึงโกรธแค้นอีสป กล่าวหาว่าเขาไร้ความซื่ อสัตย์ อีกทฤษฎีเสนอว่าอีสปจะนำทองคำเหล่านั้นเก็บไว้กับตัวหรือไม่? สาเหตุการตายของอีสปยังเป็นที่คลุมเครือ
ไม่นานจากการตายของอีสป ชาวเมืองเดลฟี ต้องเผชิญกับวิบากกรรมหายนะ จากภัยต่าง ๆ โทษฐานที่พวกเขาก่ออาชญากรร มที่เรียกเป็นภาษิตว่า “The blood of Aesop” (โลหิตของอีสป) โดยหมายความว่าการกระทำหรือ การตัดสินโทษที่ปราศจากพิจา รณาโทษด้วยกระบวนการยุติธรร ม
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ชีวประวัติของอีสปมีหลายส่วนที่ยังไม่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม นักวิชาการส่วนหนึ่ง และ George Fyler Townsend ผู้รวบรวมนิทานอีสป ฉบับแปลภาษาอังกฤษโดยมหาวิทยาลัยแอดิเลด (Adelaide) ในออสเตรเลีย ให้น้ำหนักกับข้อมูลในเวอร์ชั่นของ M. Claude Gaspard Bachet de Mezeriac นักเขียนชาวฝรั่งเศสซึ่งสืบค้นข้อมูล และเผยแพร่ข้อมูลของอีสปในผลงานที่เรียกว่า “Life of Aesop, Anno Domini 1632” ซึ่งนักวิชาการยุคหลังที่วิเคราะห์ประวัติของอีสปส่วนใหญ่ยืนยันข้อมูลจากการสืบค้นของนักเขียนชาวฝรั่งเศสรายนี้
ส่วนประวัติของอีสปฉบับที่เป็นที่รู้จักกันก่อนหน้าผลงานของนักเขียนฝรั่งเศส คือผลงานโดย Maximus Planudes นักบวชจากคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) แต่นักวิชาการมองว่า ฉบับของนักบวชท่านนี้มีข้อเท็จจริงผสมอยู่น้อยกว่า
อ่านเพิ่มเติม :
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
แก้ไขปรับปรุงในระบบออนไลน์ล่าสุดเมื่อ 30 พฤษภาคม 2563