หม่อมเจ้าเราหินาวดี ต้นตำรับ “ขนมเค้กท่านหญิงเป้า” ขนมยอดฮิตช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

หม่อมเจ้าเราหินาวดี ดิศกุล ขนมเค้กท่านหญิงเป้า
หม่อมเจ้าเราหินาวดี ดิศกุล (ภาพ : Wikimedia Commons)

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้เป็นยุคข้าวยากหมากแพง แต่ก็ยังพอมีของกินอร่อยๆ ช่วยให้ชีวิตไม่ห่อเหี่ยวจนเกินไปนัก อย่าง “ขนมเค้กท่านหญิงเป้า” ฝีมือของหม่อมเจ้าเราหินาวดี ดิศกุล หรือ “ท่านหญิงเป้า” ที่เมื่อหลายคนได้ชิมแล้วต่างติดอกติดใจในรสชาติ

เชื้อพระวงศ์สตรีผู้แต่งงานกับสามัญชน

หม่อมเจ้าเราหินาวดี ดิศกุล (พ.ศ. 2455-2527) ทรงเป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กับหม่อมแสง ศตะรัตน์ (บ้างสะกด ศตะรัต) เมื่อแรกประสูติ แก้มของหม่อมเจ้าเราหินาวดีดูพองๆ และปากห่อ เจ้าพี่องค์หนึ่งจึงทรงเรียกเล่นๆ ว่า “ปลาปักเป้า” เป็นที่มาของพระนามลำลองว่า “ท่านหญิงเป้า”

หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม ดิศกุล พระธิดา กรมดำรง อาหารฝรั่งสมัยรัชกาลที่ 5 หม่อมเฉื่อย หม่อมในกรมดำรง พี่สาว หม่อมเจ้าเราหินาวดี ขนมเค้กท่านหญิงเป้า
หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม ดิศกุล

เมื่อท่านหญิงเป้าทรงเจริญวัยได้ไม่กี่ปี หม่อมแสงก็สิ้น จึงทรงอยู่ในความดูแลของ หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล หรือ “ท่านหญิงจง” พระธิดาในกรมดำรงกับหม่อมนวม

ท่านเริ่มเรียนหนังสือที่วังบางขุนพรหม เนื่องด้วย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร ทรงมีพระเมตตาให้ความอุปถัมภ์ จากนั้นทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยและโรงเรียนมาแตร์เดอี

ท่านหญิงเป้าทรงเคยเป็นเลขานุการให้พระบิดา 3 ปี ขณะทรงลี้ภัยทางการเมืองที่ปีนัง ต่อมาทรงกลับประเทศไทย และได้ฝึกปรือทักษะการปรุงอาหารจาก หม่อมเจ้าสิบพันพารเสนอ โสณกุล รวมถึงท่านหญิงจง

ต่อมา ท่านทรงมีความรักกับสามัญชน คือ หม่อมหลวงฉายชื่น กำภู ซึ่งกรมดำรงก็ทรงยินยอมให้พระธิดาแต่งงาน ตามที่ทรงมีพระดำริว่า

“ฉันไม่บังคับลูกให้แต่งงานกับใคร เพราะเห็นว่าการแต่งงานเป็นมูลซึ่งจะนำความสุขทุกข์ดีชั่วให้แก่ตัวเขาทั้ง 2 ไปตลอดชีวิต ตัวเขาควรเป็นผู้รับผิดชอบเองในการเลือกคู่ พ่อแม่ควรแต่แนะนำตักเตือน… เพราะฉะนั้นเมื่อมีผู้มาสู่ขอลูกสาวฉัน ฉันถามลูกสาวก่อนเสมอ ว่าสมัครจะแต่งงานกับชายคนนั้นหรือไม่ ตอบสมัครจึงให้แต่งงาน…

ในเรื่องเจ้าหญิงแต่งงานกับชายต่ำศักดิ์กว่าเจ้า แม้ตามประเพณีโบราณห้ามกวดขันถึงรัชกาลที่ 7 ก็โปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แต่งได้แล้ว เป็นแต่ให้เจ้าหญิงผู้แต่งงานเวนคืนยศเจ้า มีตัวอย่างมาแล้วหลายราย ข้อนี้ถ้าหญิงเป้าเวนคืนยศเจ้า ฉันก็ไม่ขัดขวาง”

ขนมเค้กท่านหญิงเป้า หม่อมเจ้าเราหินาวดี ดิศกุล
ขนมเค้กที่ท่านหญิงเป้าทรงทำขึ้น

ขนมเค้กท่านหญิงเป้า

เมื่อท่านหญิงเป้าทรงแต่งงานสร้างครอบครัวกับหม่อมหลวงฉายชื่น ก็ทรงนำทักษะการปรุงอาหารโดยเฉพาะขนมหวานมาประกอบอาชีพ ด้วยการทำขนมเค้กขายให้ห้องน้ำชาบริษัทไทยนิยม ขนมที่ผู้คนนิยม คือ ขนมเค้กสำหรับวันเกิดและขนมงานเลี้ยงน้ำชา เป็นที่รู้จักในชื่อ “ขนมเค้กท่านหญิงเป้า”

ขนมของท่านหญิงเป้าเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้กิน เกิดการบอกกันปากต่อปากเป็นที่เลื่องลือในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้วัตถุดิบหลายอย่างจะหายาก แต่ท่านหญิงเป้าก็ทรงดัดแปลงและพลิกแพลงวัตถุดิบให้ออกมาเป็นขนมแสนอร่อย ขายดีถึงขั้นที่ทรงออกปากว่า “จนแทบจะทำไม่ไหว” เลยทีเดียว

ความที่การทำขนมเป็นงานที่เหนื่อยและหนัก จึงมีผู้แสดงความเป็นห่วงอยากให้ท่านหญิงเป้าทรงหยุดทำงานหรือขายขนม แต่ท่านก็ยังคงทำขนมต่อไป ด้วยเหตุผลว่า พอเห็นลูกสองคนได้นอนหลับสบายแล้วก็รู้สึกว่ายังหยุดทำไม่ได้ เลยต้องทำต่อไป

หม่อมเจ้ากุมารีเฉลีมลักษณ์ ดิศกุล พระธิดา กรมดำรง ญาติ ท่านหญิงเป้า ผู้ทำ ขนมเค้กท่านหญิงเป้า และ หม่อมเจ้าเพลารถ จิตรพงศ์
หม่อมเจ้ากุมารีเฉลีมลักษณ์และหม่อมเจ้าเพลารถ (ภาพ : Wikimedia Commons)

กล่าวได้ว่าพระธิดาในกรมดำรงหลายพระองค์ทรงมีความสามารถด้านอาหารก็ไม่เกินจริงไปนัก อย่างท่านหญิงจงทรงมีฝีมือปรุงอาหาร เช่น “กะปิพล่า” ที่เมื่อรัชกาลที่ 5 เสวยแล้วทรงพอพระราชหฤทัยมาก ถึงกับทรงมีพระราชหัตถเลขามาทรงชม ส่วนท่านหญิงเป้าทรงมีฝีมือการทำขนมเค้ก

รวมถึง หม่อมเจ้ากุมารีเฉลีมลักษณ์ ดิศกุล พระธิดาในกรมดำรงกับหม่อมเจิม ที่เมื่อทรงเสกสมรสกับหม่อมเจ้าเพลารถ จิตรพงศ์ ก็ทรงทำขนมขาย และรับขนมเค้กท่านหญิงเป้าไปขายด้วยเช่นกัน

หม่อมราชวงศ์กัลยา ติงศภัทิย์ อดีตคณบดีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธิดาในหม่อมเจ้ากุมารีเฉลีมลักษณ์ เล่าถึงกิจการของพระมารดาว่า

“ท่านสร้างโรงทำขนมขึ้นข้างๆ ศาลาน้ำ มีข้าหลวงมหาดเล็กที่จ้างมาเพื่อทำขนมหลายคน กลุ่มหนึ่งจะตื่นเช้าประมาณตี 4 ทำกะหรี่ปั๊บ รังนก กรอบเค็ม ทอฟฟี่นม เป็นต้น บนตำหนักไทยก็จะมีส่วนที่ต่อออกไปเป็นห้องตั้งตู้เย็นหลายตู้ไว้ทำหวานเย็น ทำหวานเย็นรสต่างๆ และใส่กระติกไปขาย ท่านแม่ทำขนมปังไส้ไก่ขายด้วย ทำกันบนตำหนักไทย นอกจากขนมท่านแม่ยังขายก๋วยเตี๋ยว ขายทอฟฟี่ต่างๆ วางเรียงรายกันเต็มโต๊ะใหญ่ และยังรับขนมเค้กท่านป้าเป้าไปขายด้วย ท่านป้าเป้าทำขนมเค้กเก่งมาก”

ขนมเค้กท่านหญิงเป้า จึงไม่ได้เป็นเพียงของอร่อยแห่งยุคสมัย แต่ในแง่หนึ่งยังเป็นหลักฐานการปรับตัวของเชื้อพระวงศ์สตรีหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่นำทักษะความรู้มาสร้างอาชีพและรายได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบุรุษเสมอไป

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

นริศ จรัสจรรยาวงศ์. ตำรับสร้าง(รส)ชาติ. กรุงเทพฯ: มติชน, 2567.

เสมียนอารีย์. “เจ้านายสตรีไทยทำมาค้าขายอะไรหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475”.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 9 เมษายน 2568