เปิดที่มา “อาหารชาววัง” 4 วังขึ้นชื่อ มีวังอะไรบ้าง?

พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ห้องเครื่อง พระราชวังดุสิต เจ้าจอมรัชกาลที่ 5 อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ และบรรดาเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ภายในห้องเครื่องพระราชวังดุสิต

“อาหารชาววัง” ขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบที่หลากหลาย นำมาปรุงด้วยกรรมวิธีที่ซับซ้อน มีการตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม ทั้งยังมีรสชาติครบรส ซึ่งหลายตำรับได้รับการสืบทอดมาถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดี อาหารชาววังไม่ได้มีเฉพาะ “พระบรมมหาราชวัง” ซึ่งเป็นวังหลวง แต่ยังมีพระตำหนักในพระภรรยาเจ้าที่มีฝีมือในการปรุงอาหารอีกด้วย แล้วอาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ มีวังไหนบ้าง?

อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ

นริศ จรัสจรรยาวงศ์ นักประวัติศาสตร์อิสระ ที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตำราอาหารเก่าแก่ของไทย เล่าไว้ในผลงานเล่มล่าสุด “ตำรับสร้าง(รส)ชาติ” (สำนักพิมพ์มติชน) ว่า พระตำหนักในอัครมเหสี 4 พระองค์ นับเป็นศูนย์กลางแวดวงเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ และเชื่อมโยงความสัมพันธ์เครือข่ายสมาชิกสตรี ที่เป็นพระธิดา เจ้าจอม บุตรหลานขุนนาง ซึ่งพระตำหนักหรือวังทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย

Advertisement

วังพญาไท ที่ประทับในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วังสระปทุม ที่ประทับในสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

วังบางขุนพรหม ที่ประทับในสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี

วังสวนสุนันทา ที่ประทับในพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา

พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา

นริศ เล่าว่า ในแง่อันดับฐานันดรศักดิ์สูงต่ำสามารถไล่เรียงได้ดังข้างต้น แต่ในแง่ชื่อเสียงด้านอาหารจะเป็นไปในทางกลับกัน คือ วังสวนสุนันทา มีชื่อเสียงเลื่องลือที่สุด ด้วย พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ทรงมีหน้าที่ควบคุมดูแลห้องพระเครื่องต้น ของเสวยคาวหวาน

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์เนื่อง ต้นธาร “ตำหรับสายเยาวภา” ตำนานสูตรอาหารชาววังอันดับ 1 เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ ต้นตำรับน้ำพริกลงเรือ หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ เจ้าของผลงาน “ชีวิตในวัง” และ “ชีวิตนอกวัง” ล้วนฝึกปรือฝีมือการปรุงอาหารจากวังสวนสุนันทาทั้งสิ้น

ถัดมาเป็น วังบางขุนพรหม ที่ประทับ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ซึ่งในวังมีห้องเครื่องขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่ 20-30 คน ใครเชี่ยวชาญการทำอะไรก็ทำอย่างนั้นโดยเฉพาะ เช่น คนตำน้ำพริกก็ตำแต่น้ำพริก คนย่างปลาดุกก็ย่างแต่ปลาดุก ไม่ต้องทำอย่างอื่น

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุไรรัตนศิริมาน อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุไรรัตนศิริมาน

ผู้สืบสายตำรากับข้าวสำนักนี้โดยตรงคือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุไรรัตนศิริมาน พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต (พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ)

เมื่อพระองค์เจ้าจุไรรัตนศิริมานทรงย้ายไปประทับ ณ ประเทศอังกฤษ พร้อมหม่อมเจ้าฉัตรมงคล โสณกุล พระสวามี พระองค์ก็ทรงเปิดร้านอาหารไทยร้านแรกและร้านเดียวในกรุงลอนดอน ชื่อว่า “Siam Rice”

อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ ลำดับถัดมาคือ วังสระปทุม ที่ประทับ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

นริศ ได้ยกเนื้อหาใน “อาหารเสวย” ซึ่งเป็นหนังสืออนุสรณ์งานศพ คุณเพี้ยน อากาศฤกษ์ ข้าหลวงในสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระราชธิดาในสมเด็จพระพันวัสสาฯ ที่ทายาทจัดทำขึ้น มาให้พอเห็นบรรยากาศห้องเครื่องในวังสระปทุมว่า

ตำรับสร้างรสชาติ นริศ ตรัสจรรยาวงศ์ อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ
หนังสือ “ตำรับสร้าง(รส)ชาติ)” โดย นริศ จรัสจรรยาวงศ์

“ท่าน (คุณเพี้ยน-กอง บก. ศิลปวัฒนธรรม) ตื่นแต่เช้ามืดดำเนินการจัดทำน้ำสะต๊อกไก่ อัดไก่สดเข้าหม้อต้มกลั่นวันละ 2 ตัว เพื่อเอาน้ำซุบที่สะกัดแล้วมาปรุงเครื่องเสวย เครื่องเสวยทุกอย่างต้องมีคุณภาพและปราณีต…”

ท้ายสุดคือ วังพญาไท ที่ประทับ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีความพิถีพิถันในการปรุงอาหารเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน

วังนี้ต่อมาคือ พระราชวังพญาไท ที่ประทับในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์สวรรคตใน พ.ศ. 2468 มีการปรับปรุงวังนี้ให้เป็น “โฮเต็ลพญาไท” ซึ่งพ่อครัวของโฮเต็ลพญาไทเคยเป็นพ่อครัวในรัชกาลที่ 6 ได้ตามเสด็จเมื่อครั้งพระองค์ประพาสสิงคโปร์

เป็นอันได้คำตอบกันเรียบร้อยว่า อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ ได้แก่ วังสวนสุนันทา วังบางขุนพรหม วังสระปทุม และวังพญาไท นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

นริศ จรัสจรรยาวงศ์. ตำรับสร้าง(รส)ชาติ. กรุงเทพฯ: มติชน, 2567. (สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่นี่)


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2567