ผู้เขียน | เสมียนอัคนี |
---|---|
เผยแพร่ |
โบราณสถานหลุมเมือง เป็นโบราณสถานที่แปลกประหลาด ซึ่งยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้แน่ชัดว่า “หลุมเมือง” โบราณสถานปริศนานี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออะไร?
ลักษณะเป็นหลุมเจาะลึกลงไปในพื้นศิลาแลงธรรมชาติ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.40 เมตร ลึกประมาณ 0.50 เมตร เรียงกันเป็นแนวคล้ายเตาขนมครก โดยแต่ละหลุมห่างกันประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่ในเขตเมืองนางอมรเทวีหรือที่บ้านโคกขวาง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีพระราชหัตถเลขาถึงโบราณสถานหลุมเมืองเมื่อคราวเสด็จทอดพระเนตรระหว่างการเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี พ.ศ. 2451 ไว้ว่า
“มีอีกแห่งหนึ่ง พื้นเป็นลานศิลาแลง กว้างสัก 10 ศอก ยาวสัก 3 วา ขุดเป็นหลุมกลมๆ ปากกว้างสักคืบเศษ ลึกสักศอกหนึ่ง เจาะชิดกันบ้างห่างกันบ้าง ไม่เป็นจังหวะในหลุมพื้นเกลี้ยง เดากันอยู่ว่าจะเป็นอะไร เดี๋ยวนี้กำลังกุกันว่าที่จะเป็นหลุมสำหรับโขลกปูนที่จะปั้นลวดลายเครื่องประดับปรางค์ปราสาทศิลาแลงนั้น”
จากพระราชหัตถเลขา รัชกาลที่ 5 ก็ยังไม่ทรงแน่พระทัยว่าเป็นอะไร
และเหตุที่ได้ชื่อว่า “หลุมเมือง” คนรุ่นเก่าเชื่อว่าเป็นหลุมสำหรับเล่นกีฬาพื้นบ้านของคนสมัยก่อนที่เรียกว่าการเล่นหลุมเมือง ซึ่งนิยมเล่นในเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลสงกรานต์
ส่วนวิธีเล่นหลุมเมือง ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่คนละข้างหลุม (จำนวนหลุมมีไม่จำกัด) ตกลงกันว่าจะกองทุนคนละเท่าใด เอาเบี้ยหรือสิ่งอื่นใช้แทนเบี้ยมารวมกัน แล้วหยอดใส่หลุมไว้หลุมละเท่าๆ กันแต่ หลุมหน้าผู้เล่นทั้งสองต้องมากกว่าหลุมอื่น ซึ่งเรียกว่า หลุมเมือง เมื่อเริ่มเล่นฝ่ายใดเริ่มก่อนจะหยอดเบี้ยใส่หลุมไปเรื่อยๆ ตามลำดับจนหมดเบี้ย เมื่อหมดเบี้ยในมือก็หยิบเอาเบี้ยในหลุมถัดไปหยอดต่อทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบหลุมว่าง ผู้เล่นคนแรกจึงมีสิทธิกินเบี้ยทั้งหมดในหลุมถัดไป (ถัดจากหลุมว่าง) ผู้เล่นคนที่สองก็จะดำเนินการเล่นเหมือนคนแรก เมื่อพบหลุมว่างและกินเบี้ยหลุมถัดไป จึงผลัดกันเล่นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดทุนเลิกไป ผู้อื่นก็จะมาเล่นแทน (ข้อมูลจาก ประเพณีไทยดอทคอม )

โบราณสถานหลุมเมือง จึงเป็นโบราณสถานปริศนาที่ยังไม่มีคำตอบว่าสร้างขึ้นในสมัยใดและสร้างขึ้นเพื่ออะไร?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 มีนาคม 2562