
เผยแพร่ |
---|
โบราณสถาน โบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น รอยพระบาทคู่-ยุคทวารวดี ที่ทำขึ้นหลัง พ.ศ. 1200, อโรคยศาล ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7, พระนิรันตรายทองคำ ฯลฯ หรือแม้ต้นโพธิ์เก่าแก่ที่สุด ทั้งหมดนั้นพบในพื้นที่ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
จึงน่ามาดูว่าอำเภอศรีมโหสถมาจากไหน มีความเป็นมาอย่างไร พอสรุปได้ดังนี้
หลัง พ.ศ. 1000 เมืองมโหสถ ตั้งอยู่บนที่ดอนชายฝั่งทะเลโคลนตม มีเส้นทางคมนาคมทางน้ำออกทะเลอ่าวไทย เป็นเมืองสถานีการค้าของเมืองพระนคร (นครวัด) อยู่บนเส้นทางการค้าโลก ทั้งทางบกและทางทะเล ทำให้มีชาวต่างชาติอย่างอินเดีย หรือเปอร์เชียเดินทางมาได้ถึงตัวเมือง
หลัง พ.ศ. 1100 สร้างสระแก้ว สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ ที่นอกคูเมือง ทางทิศใต้ ผนังของสระสลักลวดลายสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ต่าง
หลัง พ.ศ. 1500 เมืองมโหสถยังเป็นรัฐเครือญาติ และเครือข่ายสถานีทางการค้าของขอมเมืองพระนคร บริเวณโตนเลสาบ
หลัง พ.ศ. 1700 ยุคขอมเมืองพระนครหลวง (นครธม) เมืองมโหสถเป็นรัฐเครือญาติของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างศาสนสถานประจำอโรคยศาลาขึ้น (ในบริเวณสระมรกต และสระบัวล้า ปัจจุบัน)
หลัง พ.ศ. 1800 ทะเลโคลนตมถูกตะกอนทับถมค่อยๆ กลายเป็นที่ดอน สำเภาเข้ามาไม่ได้ เมืองมโหสถก็ค่อยๆ ร่วงโรย นานเข้าก็รกร้าง เพราะผู้คนอพยพย้ายไปทำกินค้าขายในถิ่นอื่น
ก่อน พ.ศ. 2000 ร่องรอยในจารึกและตำนานพงศาวดารว่า เจ้านายเชื้อพระวงศ์รัฐสุโขทัยทรงผนวช แล้วเสด็จธุดงค์ไปลังกานานถึง 10 ปี จนได้รับยอย่องเป็น “สมเด็จมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามณี ศรีรัตนลงกาทวีปมหาสามี” เรียกอย่างย่อว่า “ท่านศรีศรัทธา”
เมื่อเสด็จกลับสุโขทัยได้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์จำนวนหนึ่งกลับมา แล้วแจกจ่ายไปประดิษฐานไว้ที่บ้านเมืองสำคัญ เช่น สุโขทัย, พิษณุโลก, นครศรีธรรมราช ฯลฯ น่าเชื่อว่าในคราวนั้นมีการปลูกไว้ในเมืองมโหสถด้วย สันนิษฐานว่าเป็นต้นศรีมหาโพธิ์ ที่วัดต้นโพธิ์ฯ อำเภอศรีมโหสถ ต้นโพธิ์เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
พ.ศ. 2300 ก่อนกรุงแตก พระเจ้าตากสินมหาราชหนีออกจากรุงศรีอยุธยา เพื่อมุ่งหน้าไปฝั่งทะเลตะวันออกนั้น มีเรื่องเล่าว่าทรงแวะพักเหนื่อยที่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์เก่าแก่ที่สุดของไทยที่ยังมีชีวิตอยู่ มีมาตั้งแต่ก่อน พ.ศ. 2000 (ที่วัดต้นโพธิ์ฯ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี)

พ.ศ. 2371 หลังจากมีความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างราชสำนักกรุงเทพฯ กับเจ้าเวียงจัน รัชกาลที่ 3 โปรดให้ยกทัพไปปราบ (พ.ศ. 2369) แล้วเผาเวียงจันเมื่อ พ.ศ. 2371 มีการกวาดต้อนคนพวนจากเมืองพวน, เมืองเวียงจัน และบ้านเมืองสองฝั่งโขงลงมาตั้งบ้านเรือนที่ ดงศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี และอีกหลายพื้นที่ในเขตป่าดง เพื่อให้เป็นหน้าด่านให้กรุงเทพฯ
พ.ศ. 2391 หลวงพ่ออิฐ สร้างวัดต้นโพธิ์ฯ บริเวณที่เป็นเนินต้นพระศรีมหาโพธิ์เก่าแก่ ซึ่งมีมาแต่ยุคก่อน พระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 5 เรื่องเสด็จประพาสมณฑลปราจีน พ.ศ. 2451 ทรงเล่าว่า “ดงศรีมหาโพธิ์นี้ ได้ชื่อจากต้นโพธิ์ต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นโพธิ์เก่าแก่ เป็นที่นับถือสักการบูชา…”
พ.ศ. 2399 กำนันอิน แขวงเมืองปราจีนบุรี ขุดพบพระพุทธรูปทองคำ ยุคทวารวดี ที่ชายดงศรีมหาโพธิ์ เขตเมืองมโหสถ จึงทูลเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 4 ภายหลังพระราชทานามพระพุทธรูปดังกล่าวว่า “พระนิรันตราย” ซึ่งหมายถึงปราศจากอันตราย ปัจจุบันประดิษฐาน ณ หอพระสุราลัยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง
พ.ศ. 2400 คนจีนที่เดินทางจากเมืองแปดริ้ว (อำเภอบาคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา) ขึ้นตามลำน้ำท่าลาด (อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา) เริ่มเข้ามาตั้งบ้านเรือนบริเวณดงศรีมหาโพธิ์ ที่มีคนพวนอยู่มาก่อน
พ.ศ. 2442 สร้างวัดในศาสนาคริสต์แห่งแรกชื่อว่า “วัดเทวดารักษาตัว โคกวัด” ที่บ้านโคกวัด
พ.ศ. 2455 คุณพ่ออัลทีร์ เอมิลเลียน เปรัวย์ ผู้ดูแลวัดเทวดารักษาตัว โคกวัด นำครุฑสัมฤทธิ์หุ้มทอง ซึ่งตาซุ้น พานิช ขุดพบในบริเวณสระใหญ่ข้างวัด ทูลเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2455 เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองปราจีนบุรี รัชกาลที่ 6 โปรดให้ซ่อมแซม แล้วติดบนยอดคันธงมหาไพชยนต์ธวัช ธงชัยเฉลิมพลประจำกองทัพบก (ปัจจุบันปลดประจำการแล้ว)
พ.ศ. 2482 สยามเปลี่ยนชื่อเป็น ประเทศไทย คนพวนที่เคยเรียกว่า ลาว ก็เปลี่ยนเรียกเป็นคนไทย
พ.ศ. 2536 ได้ชื่อ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี จากเดิมที่อยู่ในเขตของอำเภอศรีมหาโพธิ จน พ.ศ. 2513 ยกฐานะเป็นอำเภอโคกปีบ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอศรีมโหสถ ตามเมืองมโหสถ เมื่อ พ.ศ. 2536
อ่านเพิ่มเติม :
ข้อมูลจาก :
สุจิตต์ วงษ์เทศ บรรณาธิการ. ศาลาแบ่งปัน เอกสารประกอบนิทรรศการ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่ศาลามโหสถ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี, มิถุนายน 2556
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 22 พฤษภาคม 2563