ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
หลักฐานที่ยืนยันว่า ภาษาลาว มีบทบาทสำคัญใน วรรณคดีไทย คือคำว่า “ขุนแผน” ใน โองการแช่งน้ำ เพราะเชื่อได้ว่าคำนี้มีรากมาจากภาษาลาว คือ แถน, แถนฟ้า หรือ “ผีฟ้าพญาแถน” และคำเดียวกันนี้ก็ใช้เรียก พระพรหม เทพในคติฮินดูด้วย
จากโองการแช่งน้ำ พระพรหม มีชื่อพื้นเมืองในภาษาตระกูลไทย-ลาว คือ “ขุนหงส์ทองเกล้าสี่” ตามเทวลักษณะที่มีสี่หน้าและมีหงส์เป็นพาหนะ ดังว่า
◉ ขุนหงส์ทองเกล้าสี่ ช่วยดู
ชรอ่ำฟ้าใต้ แผ่นหงาย ฯ
เชื่อได้ว่าคนตระกูลไทย-ลาวรู้จัก พระพรหม ผ่านการติดต่อกับคนตระกูลมอญ-เขมรแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา (ขอม) หรืออาจรับรู้ผ่านการติดต่อกับชาวอินเดียโดยตรงก็ไม่ทราบได้ แต่เมื่อรู้จักแล้วพวกเขาคงเปรียบเทียบพระพรหมกับ “ผีบรรพบุรุษ” ของตนอย่าง แถน เพราะมีตำนานร่วมคือ เป็นผู้สร้างโลกและสรรพสิ่งเช่นเดียวกัน จึงเรียก พรหม ด้วยคำพื้นเมืองลาวว่า แถน เสียเลย
ต่อมาคำว่า แถน จึงเพี้ยนเป็นคำไทย ๆ ว่า แผน หรือขุนแผน ดังปรากฏในโองการแช่งน้ำตอนพระพรหมสร้างโลก ที่ว่า
◉ กล่าวถึงน้ำฟ้าฟาดฟองหาว ดับเดโชฉ่ำหล้า
ปลาดินดาวเดือนแอ่น ลมกล้าป่วนไปมา ฯ
◉ และเป็นแผ่นเมืองอินทร์ เมืองธาดาแรกตั้ง
ขุนแผนแรกเอาดินดูที่ ทุกยั้งฟ้าก่อคืน ฯ
◉ แลเป็นสี่ปวงดิน เป็นเขายืนทรง้ำหล้า
เป็นเรือนอินทร์ถาเถือก เป็นสร้อยฟ้าคลี่จึงบาน ฯ
ขุนแผน ในโองการแช่งน้ำ จึงหมายถึง พระพรหม ในคติฮินดู รวมถึง ผีฟ้าพญาแถน อย่างไม่น่าผิดเพี้ยน
สุจิตต์ วงษ์เทศ ยังวิเคราะห์ด้วยว่า “ครั้นภายหลังชื่อนี้ติดมาตั้งชื่อตัวละครอย่างยกย่องว่า ‘ขุนแผน’ อีกครั้งในเสภาขุนช้างขุนแผน”
“ขุนแผน” นามตัวเอกใน เสภาขุนช้างขุนแผน จึงไม่ได้อุบัติขึ้นมาลอย ๆ แบบนึกอยากตั้งก็ตั้ง แต่เป็นนามมงคลอันหมายถึงผู้เป็นใหญ่ มีนัยสื่อถึงทั้งพญาแถนและพระหรหมนั่นเอง
จึงอาจกล่าวได้ว่า ภาษาลาว ในวัฒนธรรมสองฝั่งโขงอยู่ในสำนึกของคนไทยแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่สมัยอโยธยา (ก่อนกรุงศรีอยุธยา) หรือก่อนพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นอย่างน้อย ดังประจักษ์พยานสำคัญเห็นจะเป็นวรรณคดีเก่าแก่อย่าง โองการแช่งน้ำ นี่แหละ
อ่านเพิ่มเติม :
- ตำนานอัศจรรย์ การกำเนิดคนจาก “น้ำเต้า” ของกลุ่มชนตระกูลไท-ลาว
- “ดาบฟ้าฟื้น” ของขุนแผน ได้ชื่อจากบรรพชนลาว “อาวุธวิเศษผีฟ้าพญาแถน”
- “ขุนช้างขุนแผน” จากนิทานพื้นบ้าน สู่วรรณกรรมราชสำนัก การแต่งเติมเรื่องราวฉบับพิสดาร
อ้างอิง :
สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2543). “พลังลาว” ชาวอีสาน มาจากไหน?. กรุงเทพฯ : มติชน.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 8 ธันวาคม 2566