17 มกราคม 2502 จอมพลสฤษดิ์ ออกประกาศห้ามนำเข้าสินค้าจากจีนแดง

จอมพลสฤษดิ์ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตรวจแถว สวนสนาม ทหาร 17 มกราคม 2502
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (ภาพจาก "อนุสรณ์ 50 ปี อสัญกรรม ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 8 ธันวาคม 2556")

17 มกราคม 2502 จอมพลสฤษดิ์ ออกประกาศห้ามนำเข้าสินค้าจากจีนแดง

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ หัวหน้าคณะปฏิวัติ ได้ออก “ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 53 ลงวันที่ 17 มกราคม 2502” ส่วนหนึ่งมีเนื้อหาห้ามนำเข้าสินค้าจาก “จีนแดง” ความว่า

“โดยที่ปรากฏว่าสินค้าต่างๆ ที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์ ซึ่งส่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ส่วนมากเป็นสินค้าประเภทไม่จำเป็น และมักจะนำเข้ามาด้วยการลักลอบ เป็นการยุ่งยากแก่การกวดขันควบคุม ทั้งเป็นการเสียเปรียบในแง่ดุลยการค้า คณะปฏิวัติจึงเห็นสมควรห้ามมิให้นำสินค้าที่ผลิต หรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

หัวหน้าคณะปฏิวัติจึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ห้ามมิให้นำสินค้าที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์ หรือซึ่งมาจากประเทศจีนคอมมิวนิสต์เข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ใดนำสินค้าดังกล่าวนี้เข้ามาในราชอาณาจักร มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรฐานนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร

ข้อ 2 ให้ผู้ทำการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์ หรือที่มาจากประเทศจีนคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีสินค้าดังกล่าวนี้อยู่ในความครอบครองก่อนวันประกาศนี้ แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่อนายอำเภอท้องที่ซึ่งผู้ทำการจำหน่าย มีภูมิลำเนาหรือสถานที่ทำการค้าอยู่ ภายในกำหนดเวลาสิบห้าวัน นับแต่วันประกาศนี้

ข้อ 3 เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันประกาศนี้ ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์ หรือที่มาจากประเทศจีนคอมมิวนิสต์

ข้อ 4 ให้ถือว่าข้อความตามข้อ 2 ข้อ 3 แห่งประกาศนี้มีผลใช้บังคับเช่นเดียวกับพระราชกฤษฎีกา และกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา 5 และ มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2495 ผู้ใดฝ่าฝืนย่อมมีความผิดตามที่กฎหมายนั้นได้บัญญัติไว้”

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

ประกาศดังกล่าวส่งผลกระทบกับธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศไทยและจีนคอมมิวนิสต์ หรือ จีนแดง โดยเฉพาะธุรกิจการแพทย์และเภสัชกรรมแผนจีน ซึ่งต้องนำเข้าพืช สมุนไพร ฯลฯ เข้ามาประกอบเป็นเครื่องยาจีน

แพทย์แผนจีนจากทั่วประเทศไทยกว่า 1,000 คน รวมตัวกันทำหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอนำเข้าสินค้าที่เป็นเครื่องยาจีน ทั้งเห็นว่าเป็นประกาศที่ไม่เหมาะสมด้วยกระทบกับชีวิตและสุขภาพของชาวจีนในประเทศไทยกว่า 3,000,000 คน ที่ใช้การแพทย์แผนจีนและยาจีนรักษาอาการป่วยและดูแลสุขภาพ

กระทั่ง นายสหัท มหาคุณ ผู้นำการค้าจีนที่ทรงอิทธิพล ซึ่งเป็นนายกสมาคมพาณิชย์จีนแห่งประเทศไทยในเวลานั้น ก็เข้าพบจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เพื่อยื่นหนังสือขอผ่อนผันให้กับสินค้าที่เป็นยารักษาและสมุนไพรที่มาจากจีนคอมมิวนิสต์

ที่สุดจอมพลสฤษดิ์ ก็ต้องยอมผ่อนผันให้

เมื่อ นายเกษม ศรีพยัคฆ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ ลงนามใน ประกาศกระทรวงเศรษฐการ เรื่อง ผ่อนผันให้จำหน่ายสินค้าประเภทสมุนไพร และเมล็ดพืชพันธุ์ผักที่ห้ามตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 53 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2506

โดยสมุนไพรให้เวลาจำหน่ายภายใน 6 เดือน และเมล็ดพันธุ์ภายใน 3 เดือน และต้องแจ้งปริมาณสินค้าที่จำหน่ายและคงเหลือต่อทางการในวันที่ 5 ของเดือน

หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของการผ่อนผันทั้งหมด รัฐบาลยืนยันไม่ให้มีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าใดกับจีนคอมมิวนิสต์อีก ธุรกิจในประเทศไทยที่ต้องการสินค้าจากจีนก็จะใช้วิธีลักลอบนำเข้า หรือนำเข้าจากฮ่องกงที่เป็นตัวกลางระหว่างจีนคอมมิวนิสต์-ไทย

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

ศูนย์บริการทางวิชาการและกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา. “ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 53 ลงวันที่ 17 มกราคม 2502” ใน, รวมกฎหมายเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ น. 85’

วัฒนา กีรติชาญเดชา. “การค้ายาจีนแผนโบราณกับนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลไทย ที่มีต่อสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนการสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ พ.ศ. 2493-2518” ใน, วารสารประวัติศาสตร์ 2564. ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ประกาศกระทรวงเศรษฐการ เรื่อง ผ่อนผันให้จำหน่ายสินค้าประเภทสมุนไพรและเมล็ดพันธุ์ผักที่ห้ามจำหน่ายตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 53. (2502, 10 มิถุนายน), ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ. เล่ม 76 ตอนที่ 61. หน้า 1-2.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 17 มกราคม 2566