ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
19 พฤษภาคม 1536 : “แอนน์ โบลีน” ราชินีอังกฤษถูกประหาร
แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) เกิดเมื่อปี 1507 ส่วนวันที่เท่าไหร่ไม่มีบันทึกที่แน่ชัด เธอเป็นบุตรของเซอร์โธมัส โบลีน (Thomas Boleyn) ซึ่งภายหลังได้เป็น เอิร์ลแห่งวิลต์เชียร์และออร์มอนด์ (Earl of Wiltshire and Ormonde)
แอนน์ โบลีน ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในวัยเด็กที่ฝรั่งเศส ก่อนเดินทางกลับอังกฤษในปี 1522 และเข้ารับใช้ในราชสำนักของ กษัตริย์เฮนรีที่ 8 (Henry VIII) ความงามของเธอทำให้มีหลายคนหลงใหล แม้กระทั่งกษัตริย์เฮนรีเองที่ทรงสมรสแล้วกับแคเธอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon) พระชายาที่มีอายุมากกว่าพระองค์ 6 พรรษา แต่ทรงเป็นพระธิดาของราชวงศ์ที่ทรงอำนาจที่สุดในยุโรปยุคนั้น [แคเธอรีนแห่งอารากอนเป็นพระธิดาองค์เล็กของกษัตริย์เฟอร์ดินันด์ที่ 2 แห่งอารากอน (Ferdinand II of Aragon) กับ ราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสติล (Isabella I of Castile)]
แต่ความรักของกษัตริย์เฮนรียังมีอุปสรรคสำคัญคือการที่พระองค์ทรงสมรสแล้ว และการหย่าในสมัยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พระองค์ต้องได้รับการยินยอมจากสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกด้วย
เหตุผลสำคัญที่กษัตริย์เฮนรีต้องการหย่ากับราชินีแคเธอรีน คือการที่พระนางไม่สามารถให้กำเนิดทายาทเป็นโอรสได้ แต่สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 (Clement VII) ก็ทรงบอกปัดฎีกาของกษัตริย์เฮนรีมาโดยตลอด ด้วยแรงกดดันจากจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 (Charles V) แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (พระองค์ทรงสืบทอดบัลลังก์แห่งอาณาจักรสเปนและดินแดนในครอบครองของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก)
แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ความรักที่ถูกขวางกั้นด้วยจารีตประเพณียิ่งทำให้แรงปรารถนาของกษัตริย์เฮนรีพลุ่งพล่าน พระองค์ทรงแอบสมรสอย่างลับๆ กับแอนน์ โบลีน ช่วงปลายเดือนมกราคม 1533 ก่อนมีการประกาศในช่วงอีสเตอร์ปีเดียวกัน (ราวปลายเดือนมีนาคมต้นเดือนเมษายน) จากนั้นในวันที่ 23 พฤษภาคม กษัตริย์เฮนรีได้ให้อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี โธมัส แครนเมอร์ (Thomas Cranmer) ประกาศให้การสมรสของพระองค์กับราชินีแคเธอรีน ตกเป็นโมฆะ เท่ากับการสมรสของทั้งสองพระองค์เสียเปล่ามาแต่ต้น
ทั้งนี้ แคเธอรีนแห่งอารากอน เคยสมรสกับเจ้าชายอาเธอร์ (Prince Arthur) โอรสองค์โตของกษัตริย์เฮนรีที่ 7 เมื่อเจ้าชายอาเธอร์สิ้นพระชนม์ แคเธอรีนจึงสมรสกับเจ้าชายเฮนรี โอรสองค์ที่สองของกษัตริย์เฮนรีที่ 7 ซึ่งภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์เฮนรีที่ 8
เหตุการณ์ครั้งนี้ยังนำไปสู่การแยกตัวจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก กษัตริย์เฮนรี ทรงออกพระราชบัญญัติว่าด้วยพระราชอำนาจสูงสุดหรือ “Act of Supremacy” ซึ่งทำให้พระองค์มีสถานะเป็นประมุขศาสนจักรแห่งอังกฤษ
แต่ความพยายามของกษัตริย์เฮนรีในการสมรสกับแอนน์ โบลีน ด้วยหวังจะมีทายาทเป็นพระโอรสกลับสูญเปล่า เมื่อเดือนกันยายน 1533 ราชินีแอนน์ทรงให้กำเนิดทายาทเป็นพระธิดา (ซึ่งภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็น ราชินีอลิซาเบ็ธที่ 1) ทำให้กษัตริย์เฮนรีเริ่มมีพระทัยออกห่าง พอถึงปี 1534 ราชินีแอนน์ทรงแท้งลูก การพยายามมีพระราชโอรสจึงเป็นความหวังเดียวที่ช่วยรักษาสถานะของพระองค์ไว้ได้ แต่ในเดือนมกราคม 1536 พระโอรสที่น่าจะช่วยราชินีแอนน์ได้ กลับสิ้นพระชนม์ตั้งแต่แรกประสูติ
ความถือพระองค์ของราชินีแอนน์ ทำให้พระองค์ไม่ได้รับความนิยมในราชสำนักมาแต่แรก และเมื่อพระองค์ไม่อาจให้กำเนิดพระโอรสได้ ยิ่งทำให้สถานะของพระองค์เสื่อมทรามอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่เดือนหลังทรงแท้งพระโอรส กษัตริย์เฮนรีทรงบีบให้พระองค์รับสารภาพว่า ทรง “ทำชู้” กับชายมากหน้าหลายตา รวมถึงกับพี่น้องร่วมอุทรของพระองค์เอง คดีของพระองค์ถูกไต่สวนในศาลต่อหน้าคณะลูกขุน ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พระองค์มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา
ราชินีแอนน์ ทรงถูกลงโทษด้วยการตัดศีรษะในวันที่ 19 พฤษภาคม 1536 ซึ่งนักประวัติศาสตร์มองว่าโอกาสที่ราชินีแอนน์จะทรงมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหานั้นมีน้อย แต่เชื่อว่าความผิดของพระองค์น่าจะเป็นผลมาจากการแย่งชิงอำนาจในราชสำนักมากกว่า
อ่านเพิ่มเติม :
- “หย่า-ประหาร-ตาย-รอด” ชะตากรรมพระราชินี 6 พระองค์ในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ
- แอนนากับเจ้าจอมในพระเจ้ากรุงสยาม สตรีอังกฤษผู้ทรงอิทธิพลต่อราชสำนัก
-
กำเนิด “ราชวงศ์วินเซอร์” แห่งอังกฤษ เหตุใดจึงมีเชื้อสายเยอรมัน?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
ข้อมูลจาก :
Encyclopedia Britannica
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 พฤษภาคม 2560