แกะรอย “ข้าว” ต้นแรกในโลกเกิดที่ไหน ใช่เมืองจีนจริงหรือ?

ข้าว ชาวนนา นวดข้าว
นวดข้าว (ภาพจาก นิตยสารศิลปวัฒนธรรม)

ใครจะรู้ว่า วัตถุดิบหลักอย่าง ข้าว หรือข้าวสวยร้อนๆ ที่เสิร์ฟกับเป็ดย่างและกุ้งราดซอสตามภัตตาคารจีนที่คุณชื่นชอบนั้น บรรพบุรุษของมันถือกำเนิดเมื่อ 9,000 ปีที่แล้ว หรืออาจจะเก่ากว่านั้น

ประเทศจีน คือแหล่งกำเนิดของข้าวปลูก ซึ่งทำให้พวกหาของป่า-ล่าสัตว์หันมาตั้งหลักปักฐานเป็นผู้ใช้แรงงานและเพาะปลูก ตามความเห็นของ Richard S. MacNeish นักโบราณคดีชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง ผู้ทำการขุดค้นในประเทศจีนตั้งแต่ พ.ศ. 2536 โดยโครงการร่วมมือพิเศษกับรัฐบาลจีน

“อารยธรรมจีนไม่สามารถดำรงอยู่ได้ หากปราศจากข้าว”

MacNeish กล่าวไว้ที่เมืองลอสแอนเจลิส ระหว่างการเดินทางกลับประเทศจีนเพื่อขุดค้นครั้งต่อไป

“นั่นเป็นเพราะว่า ข้าวปลูกทำให้คนเริ่มมาอาศัยอยู่รวมกัน”

MacNeish เป็นประธานมูลนิธิ Andover เพื่อการวิจัยทางโบราณคดี และเคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยบอสตันมาก่อน เขาศึกษาหาแหล่งกำเนิดข้าวอันเป็นอาหารหลักของประชากรครึ่งโลกมาเป็นเวลานานแล้ว เขามีความเชี่ยวชาญโบราณคดีด้านเกษตรกรรม การค้นพบแหล่งโบราณคดีที่มีหลักฐานการเพาะปลูกข้าวโพด ฟักทอง และพืชชนิดอื่นๆ ที่เก่าที่สุดในอเมริกา สร้างชื่อเสียงให้กับเขาเป็นอย่างมาก

MacNeish จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชิคาโกมาเกือบครึ่งศตวรรษ ปัจจุบัน [พ.ศ. 2538 – กองบก.ออนไลน์] อายุ 78 ปี เขาขุดค้นมาแล้วทั่วโลก มีผลงานตีพิมพ์กว่า 300 เรื่อง ทั้งหนังสือและบทความ

MacNeish กล่าวอย่างมีอารมณ์ขันว่า “ผมได้คลานเข้าคลานออกตามถ้ำต่างๆ มากกว่าพวกมนุษย์ถ้ำนีแอนเดอทัลจริงๆ เสียอีก”

เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ค้นพบถ้ำในนิวเม็กซิโก ซึ่งพบหลักฐานลายนิ้วมือมนุษย์คนแรกในอเมริกา บนเตาไฟดินเหนียว ซึ่งอาจจะมีอายุถึง 40,000 ปีมาแล้ว

ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 MacNeish เป็นผู้อำนวยการร่วมของโครงการโบราณคดี อันเป็นความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาวัฒนธรรมแห่งชาติของจีน เมื่อ พ.ศ. 2535 โดยเขามีเพื่อนร่วมงานเป็นนักโบราณคดีจีน คือ หยาน เหวินหมิง (Yan Wenming) จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง

รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้ MacNeish ทำงานอย่างลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งน้อยนักที่นักวิจัยต่างชาติจะมีโอกาสเช่นนี้

ในการขุดค้นร่วมกับหยาน และทีมงานชาวอเมริกันและชาวจีนอีก 50 คน MacNeish ได้พบร่องรอยของข้าวป่าที่มีอายุถึง 16,000 ปีมาแล้ว และข้าวปลูกที่มีอายุเก่าถึง 9,000 ปี

หลักฐานที่พบ อาทิ เศษภาชนะดินเผาอย่างหยาบ, สะเก็ดหิน, ชิ้นส่วนกระดูกและเศษต้นข้าวสมัยโบราณ ทีมงานขุดได้จากถ้ำสองแห่งในหุบเขาใกล้เมืองหนานชาง (Nanchang) เมืองหลวงของมณฑลเจียงสี (Jiangxi) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน

“ข้าวไหม้ที่พบในหม้อดิน แสดงว่าแม่บ้านสมัยก่อนฝีมือการหุงข้าวแย่เอามากๆ” MacNeish กล่าวติดตลก

แต่ผลการวิเคราะห์เศษข้าวไหม้ โดยการส่องกล้องจุลทรรศน์นั้น แสดงให้เห็นว่า การเพาะปลูกข้าวเริ่มต้นที่ประเทศจีน

MacNeish กล่าวว่า ในถ้ำทั้งสองแห่งที่ทีมงานขุดค้น มีชั้นดินทางวัฒนธรรมหลายชั้น ตั้งแต่ 6,000 ปี จนถึง 30,000 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สังคมผลิตอาหารยุคต้นๆ ย้อนกลับไปถึงสังคมหาของป่าล่าสัตว์

ประมาณ 16,000 ถึง 13,000 ปีมาแล้ว ยุคน้ำแข็งใกล้จะสิ้นสุด สัตว์ใหญ่หลายชนิดสูญพันธุ์ไป ดังนั้นพวกที่ล่าสัตว์จึงต้องเริ่มสะสมข้าวป่าและพืชเพื่อเป็นอาหาร

จากนั้นประมาณ 10,000 ปีมาแล้ว มีบางคนได้พบข้าวพันธุ์ อันเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของการเพาะปลูกข้าว และการเพาะปลูกข้าวในนาคงจะเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 9,000 ปีที่แล้ว

MachNeish กล่าวว่า ข้าวพันธุ์ใหม่ที่พบนี้ไม่เหมือนกับข้าวป่าที่มีก้านและใบเดี่ยว แต่ข้าวพันธุ์ใหม่มีถึง 5 ก้าน ย่อมหมายถึงจำนวนอาหารที่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า

ในสมัยโบราณมนุษย์ก็คงอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับสมัยนี้ สั่งสมประสบการณ์จากการปลูกข้าวพันธุ์ใหม่

พวกเขายินดีกับผลที่ได้รับ ลงแรงน้อยแต่ได้อาหารมาก” เขากล่าว

จากนั้นมนุษย์ก็เริ่มทดลองปลูกข้าวในที่เปียก

จุดเริ่มต้นของการเพาะปลูกข้าวในนาเริ่มเมื่อ 9,000 ปี มาแล้ว”

ช่วงเวลานี้ที่มนุษย์เริ่มเข้าใจแล้วว่า ถ้าเขาเพาะเมล็ดพืชในดิน เขาก็จะมีอาหารชนิดอื่นๆ

ในไม่ช้ามนุษย์ก็มีอาหารเพียงพอที่จะดำรงชีวิตอยู่ที่ใดที่หนึ่งได้ทั้งปี พวกเขาปลูกพืชมากขึ้น จนปักหลักปักฐานอย่างถาวร พวกเขาก็คือชาวนาในหมู่บ้านนั่นเอง” เขากล่าว

ผลการทดสอบตัวอย่างดินจากถ้ำต่างๆ ด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบเซลล์เดียวชื่อ Phytoliths ซึ่งได้มาจากต้นข้าว

ผลจากการวิเคราะห์กระดูกมนุษย์ที่พบในถ้ำ ปรากฏว่า พบธาตุคาร์บอนและไนโตรเจนในกระดูก สามารถกล่าวได้ว่า กระดูกเหล่านี้เป็นของมนุษย์ที่กินข้าวเป็นหลัก

MacNeish อธิบายว่า นักวิจัยสามารถกำหนดอายุของหลักฐานต่างๆ ได้ โดยการหาปริมาณของคาร์บอน-14 ซึ่งมันดูดซับจากสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ เมื่อมนุษย์กินพืช มนุษย์ก็จะรับเอาธาตุคาร์บอนเข้าไปสะสมอยู่ในกระดูก พืชแต่ละชนิดจะมีธาตุคาร์บอนในอัตราส่วนที่แน่นอน และสัดส่วนเหล่านี้จะยังคงอยู่ในกระดูก อันสามารถบ่งบอกถึงภาวะทางโภชนาการของมนุษย์ได้

“ข้าวมีลักษณะที่พิเศษมาก” เขากล่าว

การกำหนดอายุโดยวิธีคาร์บอน-14 เคยใช้มาแล้วในการวิเคราะห์อาหารของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในนิวเม็กซิโก

จนกระทั่งในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา มีความเชื่อว่า การเพาะปลูกข้าวครั้งแรกเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้กับประเทศพม่าและไทยทุกวันนี้

แต่นับว่าโชคดีที่ได้พบข้าวไหม้ในถ้ำ “จีนมีความสุข เพราะมันคือชื่อเสียงระดับชาติ” เขากล่าว

ในการเดินทางไปจีนครั้งนี้ MacNeish ได้วางแผนที่จะขุดค้น 3 ครั้งในพื้นที่เดียวกัน เขาต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับภาชนะดินเผายุคแรกให้ได้มากกว่านี้ และต้องการกำหนดอายุให้แน่นอนกว่านี้

ดังนั้นเขาจึงต้องการขุดให้ทุกชั้นดินของหมู่บ้านซึ่งสร้างทับซ้อนกันมาหลายสมัย เนินดินที่มีชั้นวัฒนธรรมถึง 25 สมัยนี้กำลังกวักมือเรียกเขา

แต่ละชั้นดินบอกแต่ละเสี้ยวประวัติศาสตร์ จาก 25,000 ปีที่แล้วจนถึงยุคราชวงศ์ชาง ซึ่งคาดว่าอยู่ในช่วง 3,597 จนถึง 3,060 ปีมาแล้ว ยุคที่เมืองถือกำเนิดขึ้น

แล้วอนาคตล่ะ?

MaeNeish กล่าวว่า “ถ้าผมยังไม่ตายซะก่อน ผมจะหาต้นกำเนิดของข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


หมายเหตุ : บทความนี้ผู้เขียน เก็บความจาก RICE STALKING ITS ORIGINS โดย K. CONNIE KANG แห่งนิตยสารไทม์ส


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 20 พฤษภาคม 2565