ที่มา | ศิลปวัฒนธรรม ฉบับสิงหาคม 2548 |
---|---|
ผู้เขียน | นิภาพร รัชตพัฒนากุล |
เผยแพร่ |
“สุสานญี่ปุ่น” วัดราชบุรณะ กรุงเทพมหานคร มีที่มาอย่างไร?
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่เป็นประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยทุกวันนี้มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน ดังที่อาจารย์อิชิอิ โยเนะโอะ นักวิชาการด้านไทยศึกษา ได้ตั้งชื่อหนังสือของอาจารย์ไว้ว่า “600 ปี ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น” โดยเริ่มจากความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเมืองท่าอยุธยากับเมืองท่าริวกิว ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณเกาะโอกินาวา
การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้คนทั้งสองดินแดนปรากฏหลักฐานให้เห็นเรื่อยมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ที่รู้จักกันดี เช่น หมู่บ้านญี่ปุ่นที่อยุธยา รวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับ ยามาดะ นางามะซะ ขุนนางไทยชาวญี่ปุ่น กระทั่งถึงรูปปั้นชาวโอกินาวาที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างรูปคนต่างชาติ 32 ชาติขึ้น พร้อมโคลงบรรยายลักษณะการแต่งกายของคนแต่ละชาติประจำไว้ในศาลาทั้ง 16 หลังภายในวัด ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียง 2 รูป คือ รูปจีนซัวเถา และรูปชาวโอกินาวา
สถานที่แห่งความทรงจำของชาวญี่ปุ่นอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ คือ หอเก็บกระดูกชาวญี่ปุ่น หรือ “สุสานญี่ปุ่น” ภายในวัดราชบุรณะ ซึ่งเป็นวัดเก่า สร้างมาตั้งแต่ก่อนสถาปนากรุงเทพฯ เป็นราชธานี และได้บูรณะใหม่เมื่อแรกตั้งกรุงเทพฯ
หอเก็บกระดูกแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานสำหรับชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บางส่วนเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของบริษัทห้างร้านญี่ปุ่นที่เข้ามาเปิดหน่วยงานและกิจการในไทย และบางส่วนเป็นพ่อค้าเอกชนที่เข้ามาแสวงโชคในดินแดนใหม่ ตลอดจนแรงงานอพยพทั้งหญิง-ชาย ที่เข้ามาทำนาและขายแรงงานในสยาม
น่าสนใจว่า ชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรกที่เดินทางมายังสยาม คือ “คารายุกิซัง” หรือ “หญิงโสเภณี” จากจังหวัดทางภาคใต้ของญี่ปุ่น ดังปรากฏหลักฐานในสมุดบันทึกรายชื่อชาวญี่ปุ่นที่ถึงแก่กรรมในไทย ซึ่งเก็บรักษาไว้ภายใน สุสานญี่ปุ่น แห่งนี้
ความพยายามของชุมชนชาวญี่ปุ่นที่จะสร้างสุสาน เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2440 แต่ได้รับอนุมัติให้สร้างจริงเมื่อ พ.ศ. 2475 ตรงกับปีที่เปลี่ยนแปลงการปกครองพอดี โดยมีพระญี่ปุ่น และฟุจิอิ ชินสุอิ นักเรียนชาวญี่ปุ่นที่กำลังศึกษาอยู่ในเมืองไทยขณะนั้น เป็นผู้ประสานงาน จนกระทั่ง พ.ศ. 2478 จึงได้ก่อสร้างอาคารคอนกรีต 3 ชั้น เลียนแบบสถาปัตยกรรมจากวัดคินคะคุจิ ในเมืองเกียวโต โดยได้รับเงินบริจาคจากสมาคมญี่ปุ่นแห่งสยาม และได้อัญเชิญพระพุทธรูปศากยมุนี จากวัดไทย-ญี่ปุ่น ที่เมืองนาโงยะมาประดิษฐาน
หอเก็บกระดูกชาวญี่ปุ่น วัดราชบุรณะ รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาได้อย่างหวุดหวิด พร้อมกับองค์พระปรางค์ของวัด ขณะที่บริเวณอื่นของวัดโดนระเบิดเสียหายหนัก เนื่องจากบริเวณรอบๆ วัดเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้ง โรงไฟฟ้า และสะพานพระพุทธยอดฟ้า
อ่านเพิ่มเติม :
- ย้อนรอย “ยามาดะ” ออกญาเสนาภิมุข ซามูไรแห่งอยุธยา และจุดจบตามข้อมูลประวัติศาสตร์
- พระใหญ่ไดบุตสุ “พระรอด” แห่งญี่ปุ่น กับต้นสน 2 รัชกาล
- เมื่อพระราชโอรสร.4 กับลูกชายแม่ครัวหัวป่าก์ ร่วมมือชาวญี่ปุ่น ทำธนบัตรปลอมสมัยร.5
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 เมษายน 2560