เมื่อกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงถูกกล่าวหาว่า “คอร์รัปชั่น” เงินของกรมป่าไม้

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นเสนาบดีหลายกระทรวงมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตราบถึงรัชกาลที่ 7 ทว่า ในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทรงถูกครหาว่า “คอร์รัปชั่น” ทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงในกรมป่าไม้

เรื่องนี้เป็นเรื่องคับข้องพระทัยมาก ในภายหลัง กรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงประทานเล่าให้ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล พระโอรส ให้ทรงทราบเรื่องราวว่ามีความเป็นมาอย่างไร และหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ทรงประทานสัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวกับ สุพจน์ แจ้งเร็ว ในบทความ “สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ กับพระนิพนธ์ประวัติศาสตร์” ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2527 รายละเอียดมีดังนี้

กรณี กรมป่าไม้ ปัญหาสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ทรงประทานสัมภาษณ์ในวันนั้นก็คือเรื่องการที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้องทรงออกจากการเป็นเสนาบดีมหาดไทย กับกรณีที่ทรงถูกกล่าวหาว่า “คอร์รัปชั่น” เงินของกรมป่าไม้

“คือเมื่อก่อนนี้มันมีสมุหเทศาภิบาล แล้วพ่อผมก็เป็นเสนาบดีมหาดไทยมีการประชุมกันทุกปี สมุหเทศาภิบาลมีเรื่องอะไรกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัว ก็กราบทูลผ่านเสนาบดี รัชกาลที่ 6 ทรงย้ายสมุหเทศาภิบาลไปขึ้นกับกระทรวงวังกราบบังคมทูลตรงต่อพระเจ้าอยู่หัว ไม่ต้องผ่านเสนาบดีมหาดไทย ซึ่งเรื่องนี้พ่อผมเล่าให้ฟังเองนะ พอเรื่องนี้ออกมา กรมพระจันทบุรีนฤนาถรับสั่งทันทีว่า ครั้งนี้กรมพระยาดำรงฯ ลาออกแน่ แล้วต่อมา พ่อผมก็ลาออก พ่อบอกว่า “พ่อคุมไม่ได้ ถ้าเผื่อว่าสมุหเทศาภิบาลกราบบังคมทูลทุกเรื่อง ไม่ผ่านเสนาบดี พ่อคุมไม่ได้” หลังจากพ่อผมแล้วก็มีเสนาบดีอีกหลายคน จนถึงเจ้าพระยายมราช พอเจ้าพระยายมราชขึ้นมาเป็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านคืนให้หมด สมุทเทศาภิบาลก็ขึ้นกับเสนาบดีมหาดไทยตามเดิม

“แล้วพ่อผมยังได้กลับเป็นเสนาบดีอีกหนนะคุณ เป็นเสนาบดีกระทรวงมุรธาธร ปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 6 อันนี้คนไม่ค่อยรู้ คือเมื่อสมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์ฯ ซึ่งเป็นเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศมาตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 5 สิ้นพระชมน์-อันนี้พ่อผมเป็นคนเล่าเอง-สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านก็ให้เจ้าพระยามหิธรมาหาพ่อผม ว่าบัดนี้สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการสิ้นพระชนม์ รู้สึกว้าเหว่พระราชหฤทัย จะขอเชิญเสด็จกลับเข้าไปเป็นเสนาบดี พ่อผมก็ให้ไปกราบทูลว่า “ชีวิตอยู่ในใต้ฝ่าพระบาท จะโปรดฯ ให้ทำอะไรก็ยินดีทั้งนั้น” พอรัชกาลที่ 6 ได้ยินดังนี้ก็ทรงตบพระเพลาว่า “นี่สิสมเป็นเจ้านายผู้ใหญ่”

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2527)

“คราวนี้เรื่องป่าไม้ ที่ผมเคยพูดกับโลกหนังสือว่า รัชกาลที่ 6 ทรงหาว่า พ่อผมคอร์รัปชั่นเงินกรมป่าไม้ มีคนสงสัยกันมาก ว่าผมไปได้เรื่องนี้มาจากไหน อันนี้พี่สาวผมเป็นคนเล่า พ่อไม่ได้เล่าเอง ศิลปากร เคยเอามาตีพิมพ์แต่ผมจำไม่ได้ว่าเล่มไหนที่ว่ารัชกาลที่ 6 เสด็จกลับมาจากเมืองนอก ท่านก็ทรงเสนอรัชกาลที่ 5 ให้ย้ายกรมป่าไม้มาขึ้นกับกระทรวงเกษตราธิการ คือตอนนั้นมีกระทรวงเกษตรฯ แล้วทำไมจึงยังมาอยู่กับกระทรวงมหาดไทย คือรัชกาลที่ 5 ท่านทรงเชื่อพ่อผม อะไร ๆ ที่ตั้งขึ้นใหม่ก็อยู่ในมหาดไทยทั้งนั้น เมื่อก่อนนี้เหมืองแร่ที่อยู่มหาดไทย ป่าไม้ก็อยู่มหาดไทย รัชกาลที่ 5 ท่านก็ไม่ได้ทรงตอบโดยละเอียด ท่านทรงตอบสั้น ๆ ว่า “ป่าไม้นั้นเงินมาก มหาดไทยจะยอมหรือ” ซึ่งรัชกาลที่ 6 อาจจะทรงคิดว่าพ่อผมคอร์รัปชั่นหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อีกอันหนึ่ง อันนี้สำคัญจะเล่าให้คุณฟัง

“คือวันหนึ่งหลังจากเสด็จกลับจากปีนังแล้ว ไม่มีใครทูลถามอะไร ท่านเล่าขึ้นมาเอง ผมก็นั่งอยู่ตรงนั้น ท่านบอกว่า “เรื่องป่าไม้นั้น เราก็รู้อยู่ว่ามันควรจะได้เงินสักเท่าใด เพราะฉะนั้น ถ้าบริษัทไหนมีหลักฐานมั่นคง เราก็ให้สัมปทานเขาไป” แล้วท่านยังเล่าต่ออีกว่า รัชสมัยรัชกาลที่ 7 เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการใช้นโยบายใหม่เปิดการประมูล แล้วก็ให้บริษัทที่ให้เงินสูงสุดทำ ปรากฏว่าบริษัทนั้นทำเงินไม่ได้เท่าที่เสนอมาเสนาบดีท่านนั้นต้องกราบบังคมทูลลาออกจากเสนาบดี

“ผมเข้าใจว่าท่านคงใช้นโยบายแบบนี้ คือเลือกบริษัทที่มั่นคงแล้วให้เงินคุ้มกับที่เขาควรจะได้ อันนี้อาจจะมีคนไปกราบทูลรัชกาลที่ 6 ว่าท่านคอร์รัปชั่น

“เรื่องนี้ ท่านเล่าขึ้นมาเอง เมื่อก่อนจะสิ้นไม่นาน มันคงขุ่นอยู่ในใจท่าน”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2565