ที่มา | ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนสิงหาคม 2553 |
---|---|
ผู้เขียน | วารยา |
เผยแพร่ |
ปลายทศวรรษ 1890 คิง ซี. ยิลเล็ตต์ (King C. Gillette) เซลส์แมนขายจุกฝาขวดประจำบริษัท คราวน์คอร์ด แอนด์ ชีล รู้สึกเบื่อหน่ายกับหน้าที่การงาน เขาอยากเป็นเศรษฐีเหมือนคนอื่นบ้าง ด้วยเป็นคนที่ชอบประดิษฐ์โน่นนี่ และเคยจดสิทธิบัตรอยู่หลายใบ แต่ของเหล่านั้นส่วนมาก “จะทำเงินให้คนอื่นๆ” ไม่ใช่นักประดิษฐ์อย่างเขา
ยิลเล็ตต์หวนนึกถึงความสำเร็จครั้งใหญ่เมื่อมีการประดิษฐ์ฝาจีบ (แบบที่ปิดขวดน้ำอดัลม) ซึ่ง วิลเลียม เพนตอร์ (William Painter) เจ้านายของเขาเคยบอกว่า “ให้ประดิษฐ์สิ่งที่มีประโยชน์ ใช้เสร็จแล้วทิ้ง จากนั้นลูกค้าก็จะกลับมาซื้อใหม่” ด้วยแนวคิดนี้ฝาจีบจึงทำเงินให้บริษัทปีละไม่ต่ำกว่า 3.5 แสนเหรียญ
เช้าวันหนึ่งในฤดูร้อน ค.ศ. 1895 ยิลเล็ตต์ในวัย 40 ปีกำลังโกนหนวดด้วยมีดโกนทื่อๆ อยู่นั้น เขาคิดว่าช่างน่าเบื่อเสียจริงที่ต้องนำใบมีดโกนไปลับตามร้านขายมีดหรือไม่ก็ร้านตัดผมอีกแล้ว วินาทีนั้นยิลเล็ตต์ก็เกิดคามคิดบรรเจิด ทำไมเราถึงไม่ประดิษฐ์มีดโกนที่ใช้แล้วทิ้งล่ะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งลับให้รำคาญใจ
เมื่อคิดได้ดังนั้นยิลเล็ตต์ก็เริ่มมองจุดอ่อนของใบมีโกนแบบดั้งเดิม ซึ่งวางขายตามท้องตลาดมาแล้วกว่า 10 ใบมีดชนิดนี้มีความหนามาก เขาจึงคิดประดิษฐ์ใบมีดโกนที่มีความบางกว่านั้นหลายเท่าตัว ใช้เพียง 2-3 ครั้งก็โยนทิ้งได้เลย ตอนแรกทุกคนที่รู้พากันหาว่ายิลเล็ตต์ช่างเพ้อฟัน
เพราะการประดิษฐ์โลหะแผ่นบางประกอบกันและมีคมทั้ง 2 ด้าน แล้วเอามาประกอบติดด้ามนั้น ดูจะเป็นไปได้ยากในเชิงปฏิบัติ แต่ในที่สุดยิลเล็ตต์ก็หาวิศวกรที่จะเติมเต็มความฝันของเขาได้สำเร็จ นักเคมีจากเอ็มไอทีตกปากรับคำช่วยประดิษฐ์ด้ามและใบมีดให้
ส่วนนักธุรกิจดาวรุ่ง 3 คนในยุคนั้นก็ยื่นมือเข้ามาสนับสนุนด้านการเงิน ทำให้โครงการในหัวของยิลเล็ตต์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และได้จดสิทธิบัตรผลงานชิ้นนี้ในปี 1904
อย่างไรก็ตาม ด้วยวิญญานักขาย ยิลเล็ตต์หาวิธีดึงความสนในชองลูกค้า ด้วยการแจกด้ามมีดโกนที่ประดิษฐ์ขึ้นมาก่อน เพื่อจะได้ขายใบมีดโกนตามไป กลยุทธ์นี้นับว่าเสี่ยงต่อการขาดทุนอย่างเห็นได้ชัด ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อลูกค้าคุ้นเคยกับใบมีดแบบใหม่ของเขา ประกอบกับมีด้ามมีดที่ได้รับแจกมาก่อนหน้านั้น ทำให้ใบมีดโกนยิลเล็ตต์ผงาดขึ้นมาแซงหน้าคู่แข่งในขณะนั้นยิลเล็ตต์สามารถใช้ชื่อและใบหน้าของตนเองเป็นโลโก้สินค้าได้อย่างภาคภูมิใจ
ยิลเล็ตต์เดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำหน้าที่เป็นทูตเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ ใบหน้าของเขากลายเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในโลก ครั้งหนึ่งเมื่อเดินทางไปเยือนอียิปต์ยิลเล็ตต์พบว่ามีชายหลายสิบคนเข้ามายืนรายล้อมเขาและทำท่าโกนหนวด กระทั่งจอมเผด็จการของอิตาลีอย่างมุโสลินี หรือแม้แต่ผู้นำการต่อสู้แบบอหิงสา เช่น มหาตมะ คานธี ก็ยังเป็นแฟนใบมีดโกนยิลเล็ตต์…
หมายเหตุ : เนื้อหานี้คัดจากบทความ “สิ่งประดิษฐ์ของคนหัวรั้น ของธรรมที่เปลี่ยนโลก (1)” โดย วารยา เผยแพร่ในนิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนสิงหาคม 2553
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2565