
เผยแพร่ |
---|
ในบรรดาเหล่านายทุนจีนที่ก่อร่างสร้างตัวจนกลายเป็นเศรษฐีในไทยได้ ชื่อ “ยี่กอฮง” ย่อมติดในรายชื่อนี้ ประวัติความเป็นมาของเศรษฐีผู้นำชุมชนจีนรายนี้มีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย จากสมาชิกในครอบครัวจีนที่ตกอับ สามารถก้าวมาสู่เศรษฐีได้ แต่กระนั้นก็ยังพบกับหายนะทางการเงินในช่วงท้าย
หนังสือ “ลักษณะของนายทุนไทยในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2457-2482 : บทเรียนจากความรุ่งโรจน์สู่โศกนาฏกรรม” อันเป็นผลงานวิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิตของพรรณี บัวเล็ก เอ่ยถึงเศรษฐีผู้นำรายนี้ซึ่งโด่งดังในสมัยรัชกาลที่ 6 พิมพ์ประไพ พิศาลบุตร สรุปย่อความเป็นมาของ “ยี่กอฮง” หรือ พระอนุวัตร์ราชนิยม (ฮง เตชะวนิช) ไว้ดังเนื้อหาที่คัดย่อมา
เนื้อหานี้คัดย่อจากบทความ “นายทุนไทยรวยข้ามโลก ระวัง! โศกนาฏกรรม A Successful Studies of Failure” โดย พิมพ์ประไพ พิศาลบุตร ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับกรกฎาคม 2545
ยี่กอฮง เกิดในสยามประเทศปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บิดาแซ่แต้ อพยพมาทำมาหากินในดินแดนทางภาคเหนือของไทย แต่ล้มเหลวจึงอพยพครอบครัวกลับเมืองจีน ขณะนั้นยี่กอฮง อายุได้แปดขวบ ครั้นถึงเมืองจีนบิดาก็ทำมาหากินไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย จึงได้ทิ้งครอบครัวไปทำงานต่างแดนโดยลำพังและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน
ครอบครัวจึงได้อยู่ในสภาพยากจนกลายเป็นขอทาน อีกไม่กี่ปีต่อมาเมื่อเขาอายุได้ 13 มารดาจําเป็นต้องแต่งงานใหม่เพื่อความอยู่รอด เด็กน้อยขาดที่พักอาศัย เลยเร่ร่อนออกไปหางานทําที่ซัวเถา ในปี พ.ศ. 2409 (ค.ศ. 1866) พออายุได้ 16 เขาอาศัยเรือเดินสมุทรเดินทางกลับมาผจญโชคในสยาม ถิ่นที่มารดาได้ให้กําเนิดเขานั่นเอง
เมื่อมาถึงบางกอก เขาได้เข้าเป็นเสมียนโรงบ่อนเบี้ยของพระยาภักดีภัทรากร (เหล่าปิง) และเป็นสมาชิกสมาคมลับอั้งยี่ ไต่เต้าจนได้เป็นหัวหน้าของสมาคมในวัยกลางคน โดยได้รับสมญาว่า “ยี่กอฮง” ผู้รับตําแหน่งหัวหน้านี้ต้องร่ำรวย และมีบารมีสามารถช่วยเหลือผู้อื่นเวลาจําเป็น อีกทั้งต้องควบคุมชุมชนได้
ยี่กอฮงสร้างฐานะจากการประมูล เป็นเจ้าภาษีอากรโรงหวยแบบจีนที่เรียกว่า หวย 36 ตัว นอกจากนี้ยังได้ตั้งร้านส่งสินค้าออกและนําสินค้าเข้า สร้างโรงสี ทําหนังสือพิมพ์ ฯลฯ
คลิกอ่านเพิ่มเติม : “ยี่กอฮง” เจ้ามือหวยในตำนาน เปิดเคล็ดวิธีออกหวย และรับมือบรรดาเลขเด็ด
แม้ยี่กอฮงจะเป็นผู้ไม่มีการศึกษา แต่เขากลับมีบทบาทสําคัญในฐานะผู้นําชุมชนจีนในสยาม ในปี พ.ศ. 2445 (ค.ศ. 1902) เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง “ป่อเต็กตึ๊ง” เพื่อจัดการเรื่องงานศพให้ กับชาวจีนอพยพที่ไร้ญาติซึ่งต่อมาได้ขยายการดําเนินงานมาถึงคนไทยด้วย อีกหกปีต่อมาเขาได้เข้าไปมีบทบาทสําคัญในการจัดตั้งบริษัทเรือเมล์จีนสยาม เพื่อทําลายการผูกขาดการขนส่งทางเรือของ บริษัทเดินเรือตะวันตก และเพื่อตอบสนองการค้าระหว่างจีนและไทยที่กําลัง ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในปี พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1916) ยี่กอฮงได้เป็นผู้นําในการ จัดตั้งโรงเรียนเผยอิง
คลิกอ่านเพิ่มเติม : กำเนิด ป่อเต็กตึ๊ง คณะเก็บศพฯ ร.6 พระราชทานทุน แรงบันดาลใจงานสาธารณกุศล
ในฐานะที่เขาสวมบทบาทหัวหน้าสมาคมลับ ยี่กอฮงจําเป็นต้องกลับไปสร้างบารมีของตนในเมืองจีน เขาได้บริจาคเงินจํานวนมากเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และซ่อมเขื่อนป้องกันน้ำท่วมที่เมืองแต้จิ๋ว หลังจากร่ำรวยแล้วในปี พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1916) เขาได้ก่อสร้างหมู่บ้านขนาดใหญ่ขึ้น ภายในมีศาลเจ้า สวนดอกไม้ และโรงเรียน
ยี่กอฮงสร้างโดยใช้เงินส่วนตัวแต่ผู้เดียว รับนักเรียนจากอําเภอต่าง ๆ โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน การสร้างหมู่บ้านนี้ก็เพื่อเลี้ยงดูมารดาผู้ชรา เนื่องจากมารดาของเขาแต่งงานสองครั้ง ชาวตระกูลแซ่แต้ในหมู่บ้านเดิมจึงไม่ยอมให้กลับไปอยู่ด้วย เขาใช้เงินมหาศาลสร้างหมู่บ้านใหม่ขึ้นเพื่อให้เห็นความยิ่งใหญ่และยอมรับมารดาของเขา เขาแจกบ้านที่ดินสิ่งของเงินทองเพื่อชักชวนให้คนเปลี่ยนแซ่มาเป็นแซ่เดียวกับเขา ในสมัยนั้นคําพูดว่า “ลูกเลี้ยงยี่กอฮง” จึงเป็นคําพูดที่แพร่หลายในหมู่บ้านแต้จิ๋ว
ความผิดพลาดของยี่กอฮงอันนําไปสู่ความหายนะทางการเงินเกิดขึ้นในปีสุดท้ายของรัชกาลที่ 5 ปีนั้นรัฐเรียกเงินค่าผูกจากชาวจีนเพิ่มเป็นคนละ 6 บาท ซึ่งเท่ากับอัตราที่คนไทยต้องเสียเป็นค่ารัชชูปการ ยี่กอฮงสวมบทผู้นําการประท้วงของชาวจีน ก่อความวุ่นวายตามท้องถนน ปิดร้านไม่ค้าไม่ขาย ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับผู้ใหญ่ของแผ่นดิน
เจ้าพระยายมราชวิจารณ์บทบาทของจีนฮงหรือยี่กอฮงว่า
…จีนฮงโปรยเงินและทําบุญมาก ทําให้คนจีนในเมืองจีนนับถือ ในกรุงเทพฯ ทําบุญอะไรก็ตาม จีนฮงทํามากกว่าใคร คนจีนในกรุงเทพฯ ก็นิยม คนไทยก็ออกจะครั่นคร้าม…การที่ ชาวจีนประท้วงเรื่องเงินรัชชูปการครั้งนี้ เจ็บมาก.. การคิดจะปกครองชุมชนจีนให้อยู่ในความสงบ ต้องตัดทอนอํานาจทาง การเงินของจีนฮงก่อน
คลิกอ่านเพิ่มเติม : ประวัติ “เผยอิง” โรงเรียนที่ผลิต “เจ้าสัว” มากที่สุดในเมืองไทย
เนื่องจากฐานทางเศรษฐกิจของยี่กอฮง คือ การเป็นเจ้าภาษี เมื่อรัฐบาลเริ่มยกเลิกการทําภาษีอากรสุรา ยาฝิ่น โรงหวย และบ่อนเบี้ย ฐานะทางการเงินของเขาก็ถูกกระทบไปด้วย เมื่อสิ้นสุดการทําหวย กข ซึ่งเป็นภาษีตัวสุดท้ายที่รัฐบาลยกเลิก ยี่กอฮงติดเงินภาษีมากมาย จึงถูกฟ้องล้มละลายไปในที่สุด รัฐได้ยึดบ้านและตึกแถวที่พลับพลาไชย (บริเวณสถานีตํารวจพลับพลาไชย)
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาพระราชทานบ้านนั้นให้อยู่อาศัยไปตลอดชีวิตโดยไม่เก็บค่าเช่า และยกหนี้คงค้างสามแสนกว่าบาทที่เหลือพระราชทานให้
หากไม่คํานึงถึงตัวเงินที่ปรากฏอยู่ บนบรรทัดสุดท้ายของชีวิต คงต้องสรุปว่า ยี่กอฮงล้มเหลวในบทบาทของนายทุน เพราะทรัพย์สมบัติมากมายที่เขาหามาได้ มิได้ถูกนําไปลงทุนเพื่อหากําไรเพิ่มเติม หรือพัฒนาธุรกิจให้มีศักยภาพดีขึ้น ตามที่เขียนไว้ในทฤษฎีทุนนิยมของฝรั่ง แต่นำทรัพย์ไปบริจาคทำบุญให้ทานคืนกลับสู่สังคมตามค่านิยมคนเอเชีย
ส่วนในสายตาของแรงงานจีน ยี่กอฮงเป็นบุคคลที่ควรได้รับการยกย่อง เปรียบดุจเจ้าสำนักผู้ทรงคุณธรรมที่เปี่ยมไปด้วยความกตัญญู ความเมตตาไปยังผู้ด้อยโอกาส และความกล้าหาญที่จะปกป้อง
หากมองจากมุมรัฐบาลไทย ยี่กอฮงเป็นมาเฟียหรืออั้งยี่อันตรายที่ต้องควบคุมอย่างใกล้ชิด โอ๊ย…สับสน
แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาในระบบออนไลน์เมื่อ 16 เมษายน 2563