กุนซือผู้ชี้ทางโจโฉ “ตั้งทายาทคนโต” เป็นผู้สืบทอด เลี่ยงการล่มสลายของวุยก๊ก

ภาพวาดของโจผี ขนาบข้างโดยสองขุนนาง โดยฝีมือศิลปินสมัยราชวงศ์ถัง Yan Liben

ในบั้นปลายชีวิตของโจโฉ เขาต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญที่จะส่งผลถึงอนาคตของวุยก๊ก คือการแต่งตั้งผู้สืบทอดอำนาจต่อจากเขา ซึ่งในบรรดาบุตรทั้งหมดของเขา คนที่มีหวังมากที่สุดหนีไม่พ้นโจผี และโจสิด

ข้อเด่นของโจสิดคือมีสติปัญญาสูงเยี่ยม ปราดเปรื่องทางอักษรศาสตร์ จึงได้รับความรักเป็นพิเศษจากโจโฉ ผู้เป็นกวีและรักอักษรศาสตร์เช่นกัน แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มักติดนิสัยปล่อยอารมณ์ไปกับสุราและกวีนิพนธ์

ส่วนโจผี หลังการตายของโจงั่ง ทำให้เขากลายเป็นบุตรคนโตซึ่งมีสถานะที่ได้เปรียบ แต่ความสามารถของเขาด้านบุ๋นก็ด้อยกว่าโจสิด ด้านบู๊ก็ด้อยกว่าโจเจียง ทำให้เขากังวลไม่น้อยว่าตนอาจถูกน้องๆ แย่งการสืบทอดตำแหน่งจากบิดา

กาเซี่ยง กุนซือคนสำคัญของโจโฉ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนโจผี ได้ใช้โอกาสหนึ่งที่โจโฉ ถามถึงการตั้งทายาทชี้ให้เห็นว่าเหตุใด โจผี จึงสมควรเป็นทายาท ซึ่งเบื้องต้นเมื่อถูกถามเขาพยายามนิ่งเงียบ จึงถูกโจโฉถามย้ำ

กาเซี่ยงจึงกล่าวขึ้นว่า “ข้ากำลังคิดบางอย่างไม่อาจตอบได้ทันที”

โจโฉจึงถามกลับไปว่า “คิดเรื่องอะไรหรือ”

กาเซี่ยงจึงตอบว่า “ข้ากำลังคิดเรื่องอ้วนเสี้ยวและเล่าเปียว”

โจโฉได้ยินดังนั้นก็หัวเราะชอบใจ หลังจากนั้นจึงได้ตัดสินใจตั้งโจผีเป็นทายาท ด้วยทั้งอ้วนเสี้ยวและเล่าเปียวมิได้ตั้งให้บุตรคนโตขึ้นเป็นทายาทตามธรรมเนียม เมื่อทั้งคู่ตายตกไป บรรดาพี่น้องจึงสู้รบกันเองเพื่อแย่งชิงตำแหน่ง สุดท้ายก็ถูกโจโฉใช้โอกาสนี้กวาดล้างกลุ่มอิทธิพลทั้งสองได้อย่างราบคาบ


(ข้อมูลจากหนังสือ ยอดวีรชนสามก๊ก 33 ผู้มีใจสูง และ 101 คำถามสามก๊ก)


เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อ 28 กันยายน พ.ศ.2562