“กรมพระจันทบุรีนฤนาถ” ต้นราชสกุลกิติยากร สิ้นพระชนม์เพราะสาเหตุใด?

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ อดีตเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และเสนาบดีพระองค์แรกของกระทรวงพาณิชย์ ผู้ทรงเป็นต้นราชสกุล “กิติยากร” สิ้นพระชนม์เพราะสาเหตุใด ?

พระประวัติ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ คือพระอัยกาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และเจ้าจอมมารดาอ่วม ประสูติเมื่อ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2417

กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ทรงเป็นหนึ่งในพระราชโอรสรุ่นใหญ่ที่ได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศเป็นครั้งแรก ทรงเข้าเรียนที่ Rockville High School เมืองเอดินบะระ ในสกอตแลนด์ และจบปริญญาที่วิทยาลัยเบล์เลียล มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ก่อนจะเสด็จกลับไทยเมื่อ พ.ศ. 2437

พระรูปหมู่พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 รุ่นแรกที่เสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ (ซ้ายไปขวา) พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์) พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม (กรมหลวงปราจิณกิติบดี) พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ (กรมพระจันทบุรีนฤนาถ) พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช (กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช)
พระรูปหมู่พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 รุ่นแรกที่เสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ (ซ้ายไปขวา) พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์) พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม (กรมหลวงปราจิณกิติบดี) พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ (กรมพระจันทบุรีนฤนาถ) พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช (กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช)

พระองค์ทรงรับราชการที่กรมราชเลขาธิการ กระทั่ง พ.ศ. 2450 รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ทรงแก้ไขปรับปรุงการจัดเก็บภาษีอากรไม่ให้รั่วไหลและพยายามจัดหารายได้เพิ่ม รวบรวมพระราชทรัพย์และการเงินของประเทศให้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพระคลังฯ

ต่อมา พ.ศ. 2465 รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์ นายกสภาเผยแผ่พาณิชย์ และกรรมการสภาการคลัง

กรมพระจันทบุรีนฤนาถได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติหลังจากทรงดำรงตำแหน่งมานานถึง 15 ปี ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 ยังได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นอภิรัฐมนตรีสภาที่ปรึกษาในการบริหารราชการแผ่นดิน

กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ทรงเสกสมรสกับหม่อมเจ้าหญิงอับษรสมาน พระธิดาองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ มีพระโอรสและพระธิดาด้วยกัน 12 พระองค์ 

พระโอรสพระองค์ที่ 3 ในกรมพระจันทบุรีนฤนาถ คือ พลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ (พระนามเดิมคือ หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร) ทรงเป็นพระราชชนกในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ หม่อมเจ้าหญิงอัปสรสมาน เทวกุล และพระโอรส พระธิดา
แถวยืน (ซ้ายไปขวา) หม่อมเจ้าจิตร์บรรจง หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ หม่อมเจ้ากัลยางค์สมบัติ หม่อมเจ้านักขัตรมงคล หม่อมเจ้าขจรจบกิติคุณ หม่อมเจ้ากมลปราโมทย์
แถวนั่งเก้าอี้ (ซ้ายไปขวา) หม่อมเจ้าชวลิตโอภาสทรงอุ้มหม่อมราชวงศ์กิติอัจฉรา หม่อมเจ้าอับศรสมาน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถทรงจับไหล่หม่อมราชวงศ์กิตินัดดา หม่อมเจ้าพิบูลย์เบ็ญจางค์ หม่อมราชวงศ์มรุต
แถวนั่งพื้น (ซ้ายไปขวา) หม่อมเจ้าจีรินันทน์ หม่อมเจ้าสุวินิต หม่อมเจ้าวินิตาทรงอุ้มหม่อมเจ้ากิติปปียา หม่อมเจ้าจีริดนัย หม่อมราชวงศ์อมราภินพ หม่อมเจ้ากิติมตี หม่อมราชวงศ์วีณา หม่อมเจ้าจีริกา

กรณีสิ้นพระชนม์

พ.ศ. 2473 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ทรงมีพระอาการอักเสบขึ้นในหลอดพระศอ (คอ) จึงเสด็จไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2473 จนสิ้นพระชนม์ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2474

รศ. นพ. เอกชัย โควาวิสารัช แห่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม เล่าในบทความ ชันสูตรประวัติศาสตร์ : กรณีสิ้นพระชนม์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ (ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤศจิกายน 2567) ว่า มีหลักฐานเล่าถึง 2 เรื่องราวเกี่ยวกับพระอาการประชวรที่แตกต่างกัน หลังแพทย์ถวายการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนี้

แบบแรก อ้างอิงจากพระประวัติในหนังสือ กรมพระจันทบุรี (เมื่อดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรงพระคลังฯ) เล่าว่า พระองค์เสด็จไปทรงพักผ่อนที่สวิตเซอร์แลนด์ 10 วัน แล้วมีประชวรหายพระทัยไม่สะดวก จึงเสด็จกลับกรุงปารีสให้แพทย์เจาะพระศอแล้วฉายแสงเอ็กซเรย์ แต่พระอาการไม่ดีขึ้น ก่อนจะสิ้นพระชนม์

แบบที่ 2 อ้างอิงจากลายพระหัตถ์ของกรมพระจันทบุรีนฤนาถเอง ที่มีถึงพระยาโกมารกุลมนตรี เล่าว่า แพทย์ทำการฉายแสงเอ็กซ์เรย์หลังการผ่าตัด หลังจากนั้นกล่องเสียงพระองค์บวมขึ้น เมื่อหายพระทัยไม่ออก แพทย์จึงเจาะพระศอ แล้วฉายแสงเอ็กซเรย์ 4 ครั้ง แต่พระอาการยังไม่ดีขึ้น ก่อนจะสิ้นพระชนม์

รศ. นพ. เอกชัย ให้ความเห็นว่า ไม่ว่ากรมพระจันทบุรีนฤนาถจะทรงหายพระทัยไม่สะดวก “ก่อน” หรือ “หลัง” การฉายรังสี ก็มิได้ทรงรับการฉายแสงเอ็กซเรย์ (X-ray) แน่ แต่เป็นการฉายแสงจากธาตุ “เรเดียม” (Radium) เพราะการรักษาโรคมะเร็งในยุคนั้นยังใช้เรเดียมซึ่งเป็นอันตรายต่อสารพันธุกรรมอยู่ เนื่องจากองค์ความรู้ที่ยังมีไม่มากนัก

“ผมขอวินิจฉัยว่า ประเด็นที่ 2  น่าจะถูกต้อง เพราะกรมพระจันทบุรีนฤนาถทรงเขียนถึงพระอาการประชวรของพระองค์เอง ซึ่งย่อมเชื่อถือได้ดีกว่าการบอกเล่าของบุคคลอื่น”

ก่อนจะสรุปว่า กรมพระจันทบุรีนฤนาถน่าจะประชวร (ซ้ำ) ด้วยพระโรคที่เกิดจากผลข้างเคียงของการฉายแสง เพราะแม้การรักษาดังกล่าวจะทำลายเนื้อร้ายได้ แต่มีผลข้างเคียงคือทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อดี ๆ ที่อยู่ใกล้กัน ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงคือ การสูบบุหรี่ การลุกลามของมะเร็ง และการบาดเจ็บหรือติดเชื้อหลังผ่าตัด

ด้านพระโรคที่ทำให้พระองค์ประชวรนั้น รศ. นพ. เอกชัย ชี้ว่า ระบุได้ค่อนข้างยาก เพราะไม่มีหลักฐานเล่าถึงพระอาการก่อนเดินทางรักษาพระอาการ หรือบันทึกพระจริยวัตรแง่มุมต่าง ๆ ก็มีน้อยมาก ทราบเพียง “มีการอักเสบขึ้นในหลอดพระศอ”

สิ่งที่ช่วยได้คือ วิเคราะห์จากการรักษาที่พระองค์ได้รับ คือทรงได้รับการถวายการผ่าตัดและการฉายแสง ซึ่งเป็นการรักษาเนื้องอกร้ายหรือมะเร็ง เพราะหากเป็นการอักเสบธรรมดา จะใช้ยารักษา

เมื่อผลข้างเคียงจากการฉายแสงทำให้กล่องเสียง (Larynx) บวม และทำให้หายพระทัยไม่สะดวก แปลว่าการฉายแสงต้องฉายบริเวณคอ ใกล้บริเวณกล่องเสียง

“พระองค์น่าจะมีก้อนที่พระศอที่อาจมีขนาดใหญ่ ทำให้หายพระทัยได้ค่อนข้างลำบาก แพทย์จึงถวายการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักอาการดีขึ้น เพราะผลจากการที่ก้อนกดทับก็หายไป” รศ. นพ. เอกชัย กล่าว

แล้วก้อนที่คอสามารถเป็นโรคอะไรได้บ้าง? รศ. นพ. เอกชัย ระบุว่ามี 2 โรคเนื้องอกมะเร็งที่เป็นไปได้สูง คือ มะเร็งหลังโพรงจมูก และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โดยวินิจฉัยว่า

“กรมพระจันทบุรีนฤนาถน่าจะประชวรด้วยพระโรค ‘มะเร็งหลังโพรงจมูก’ มากกว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลือง จากการที่พระองค์ทรงมีเชื้อสายจีนทางบรรพบุรุษของเจ้าจอมมารดาอ่วม พระมารดาของพระองค์

อาการที่พบบ่อยที่สุดของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกคือก้อนที่คอ คาดว่าพระองค์น่าจะมีพระโรคคือก้อนที่พระศอ การรักษาที่นิยมใช้คือรังสีรักษา ซึ่งก่อให้เกิดผลข้างเคียงจนต้องเจาะพระศอ”

ทั้งนี้ มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharyngeal Carcinoma) เป็นโรคที่พบบ่อยในคนเชื้อสายจีน โดยเฉพาะแถบมณฑลฝูเจี้ยนและกวางตุ้ง หรือผู้มีบรรพบุรุษจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งเจ้าจอมมารดาอ่วมเป็นธิดาของพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (เจ้าสัวยิ้ม พิศลยบุตร) ซึ่งบรรพบุรุษของท่านคือ “หลวงบรรจงวานิช” (เหล่าบุ่นโข่ย) พ่อค้าชาวจีนที่มายังสยามในสมัยรัชกาลที่ 4

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ (ภาพจากหนังสือ จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ พระบรมราชวงศ์แห่งประเทศไทย จัดพิมพ์ พ.ศ. 2532)

อย่างไรก็ตาม รศ. นพ. เอกชัย ชี้ว่า การวินิจฉัยแยกทั้ง 2 โรคต้องตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานใด ๆ ถึงการศึกษาดังกล่าว

สรุปได้ว่า กรมพระจันทบุรีนฤนาถประชวรด้วยพระอาการอักเสบในหลอดพระศอ (ต่อมน้ำเหลืองที่คอ) จากมะเร็งหลังโพรงจมูก มีก้อนที่พระศอ ทำให้หายพระทัยลำบาก จึงเสด็จไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส แพทย์ได้ผ่าตัดก้อนออกแล้วฉายแสงรักษาบริเวณพระศอ แต่เกิดผลข้างเคียง กล่องเสียงบวม จึงผ่าตัดอีกครั้งเพื่อเจาะและใส่ท่อเชื่อมคอกับหลอดลม แล้วฉายแสงรักษาต่อ แต่พระอาการไม่ดีขึ้น จนสิ้นพระชนม์เมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2474

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 6 มกราคม 2568