พระมหากษัตริย์อยุธยา ทรงใส่ชุดเกราะแบบไหนออกรบ?

สมเด็จพระนเรศวร ยุทธหัตถี วัดสุวรรณดาราราม ชุดเกราะพระมหากษัตริย์อยุธยา
จิตรกรรมฝาผนัง พระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน ยุทธหัตถี ภายในพระวิหารวัดสุวรรณดาราราม จ. พระนครศรีอยุธยา

“ชุดเกราะ” เป็นหนึ่งในเครื่องแต่งกายที่สำคัญที่สุดในการออกรบเลยก็ว่าได้ แล้วในยามออกศึก “ชุดเกราะพระมหากษัตริย์อยุธยา” เป็นแบบไหน?

ชุดเกราะพระมหากษัตริย์อยุธยา ชุดนักรบ
ภาพลายเส้นแสดงลักษณะของหมวกศึกนักรบสมัยอยุธยา จากภาพมารผจญ จิตรกรรมฝาผนังวัดเกาะแก้วสุทธาราม จังหวัดเพชรบุรี (1 และ 2) และภาพลายเส้นแสดงลักษณะของหมวกศึก และเกราะป้องกันไหล่ของนักรบสมัยอยุธยา จากจิตรกรรมลายรดน้ำในหอเขียน วังสวนผักกาด (3)

ชุดเกราะพระมหากษัตริย์อยุธยา

ภูมิไท ศศิวรรณพงศ์ เล่าถึงการศึกษาเรื่องชุดเกราะของนักรบในประเทศไทย ช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ 24 ไว้ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2557 ว่า

Advertisement

ในตำราว่าด้วยเครื่องต้น เครื่องทรงสำหรับพระมหากษัตริย์ในการเสด็จออกงานพระราชพิธีต่างๆ ได้อธิบายถึงเครื่องทรงสำหรับการทำยุทธหัตถีไว้ เรียกชื่อว่า “เครื่องพระพิชัยสงคราม”

ชุดเกราะพระมหากษัตริย์อยุธยา หรือเครื่องพระพิชัยสงครามนี้ มีส่วนประกอบ 7 อย่าง ได้แก่ พระสนับเพลาลงราชะซับใน (สนับเพลา หรือกางเกง) ฉลองพระองค์ย้อมว่านลงราชะซับใน (เสื้อ) พระสนับเพลาแพรดำเกราะชั้นนอก (สันนิษฐานว่าเป็นเกราะป้องกันต้นขา) ฉลองพระองค์แพรดำนวมชั้นนอก (เสื้อเกราะนวม) พระมาลาลงราชะซับใน (หมวกรองใน) พระมาลาเบี่ยงนอก (หมวกศึก) และ รัดพระองค์เจียรบาดพื้นดำ (สันนิษฐานว่าเป็นผ้าคาดเอว)

รายละเอียดเหล่านี้ สอดคล้องกับเนื้อหาในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ที่กล่าวถึงเครื่องทรงสำหรับการยุทธของพระมหากษัตริย์ ที่บอกว่า

“…ครั้น ณ วันอาทิตย์ เดือนยี่ ขึ้น 11 ค่ำเพลารุ่งแล้ว 2 นาฬิกา 5 บาท สุมหุดีมหาวิชัยฤกษ์ สมเด็จพระบรมนาถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ก็ทรงเครื่องสำหรับพิชัยสงคราม ก็เสด็จทรงเรือพระที่นั่งศรีสมรรถชัย…”

ชุดเกราะพระมหากษัตริย์อยุธยา จิตรกรรมลายรดน้ำ วัดนางนอง คณะรังษี
ฉลองพระองค์เกราะในภาพจิตรกรรมลายรดน้ำ ที่บานหน้าต่างพระอุโบสถวัดนางนอง (ซ้าย) และในภาพประติมากรรมนูนต่ำ ที่บานหน้าต่างพระอุโบสถคณะรังษี (ขวา)

“ชุดเกราะนวม” เครื่องทรงสำคัญในพระมหากษัตริย์

เข้าสู่สมัยกรุงธนบุรีสืบเนื่องต่อมายังกรุงรัตนโกสินทร์ ตำราพิไชยสงคราม ฉบับรัชกาลที่ 1 มีการกล่าวถึงเครื่องทรงสำหรับพระมหากษัตริย์ในการออกศึก หนึ่งในนั้นคือ “ชุดเกราะนวม” ความว่า

“…แลจตุรงคเสนางคนั้น คือพลช้างสัพด้วยจำลองแลกระโจมอันมีพรรณต่างๆ แลทหารซึ่งจขี่ฅอช้างนั้น สัพด้วยหมวกแลเกราะนวมปรดับนี้สำรับช้างนั้น…”

ชุดเกราะนวมยังเป็นหนึ่งในเครื่องราชูปโภคสำหรับพระมหากษัตริย์อีกด้วย เรียกว่า “ฉลองพระองค์เกราะนวม” ดังความในโคลงยอพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่กล่าวถึงรายละเอียดของเครื่องราชูปโภค ซึ่งใช้เป็นเครื่องสำหรับประกอบในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกไว้ว่า

   “พระเต้าเบญจคับห้า             ยันต์รอง
เครื่องพิไชยสงครามผอง             แต่งตั้ง
เสมาธิปัดฉลอง องค์เกราะ          นวมนา
เกาวะภ่ายธงธุชทั้ง พระนพช้าง    ฉัตรไชยฯ”

นอกจากนี้ ชุดเกราะนวมยังมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นหนึ่งในเครื่องประกอบพระราชพิธีโสกันต์ (โกนจุก) ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

ในพระราชพิธีโสกันต์ มีการจัดพระแท่นมณฑล ตรงกลางตั้งพระเจดีย์ถมบรรจุพระบรมธาตุและพระพุทธรูป ด้านข้างของโต๊ะหมู่ทั้ง 2 ด้าน ตั้งเครื่องพระราชพิธี ได้แก่ หีบพระเครื่องต้นข้างละ 2 หีบ ฉลองพระองค์เกราะนวม 32 ชั้น ฉลองพระองค์ลงราชะ 7 สี พระมหาสังข์ 5 พระมหาสังข์ 3 ด้านหลังหีบพระเครื่อง ตั้งพระมหาพิชัยมงกุฎ พระชฎาเดินหน พระมาลาเบี่ยง พระมาลาเพ็ชร เครื่องพระพิชัยสงคราม 2 หีบ เป็นต้น

เป็นที่สังเกตว่า ชุดเกราะนวมที่เป็นเครื่องประกอบพระราชพิธีโสกันต์มีถึง 32 ชั้น จัดว่าเป็นชุดเกราะอ่อน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผ่อนแรงปะทะจากอาวุธได้

เรื่องนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงอธิบายว่า

“…เสื้อเกราะของไทย ทราบแต่ว่าทำด้วยหนัง เปนเสื้อแขนสั้น ถ้าจะให้งามก็เอาผ้าสาบนอก…” และทรงอธิบายเพิ่มเติมต่อไปว่า “…ในคำว่าฉลองพระองค์เกราะนวมนั่นแล้วคือเสื้อเกราะ ที่เรียกว่าเกราะนวมก็เพราะเขาตรึงผ้าที่หุ้มให้ติดกับหนัง ยัดสำลีนิดหน่อย เพื่อไม่ให้กระด้างรู้สึกเจ็บพระองค์…”

รูปแบบของชุดเกราะอาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นเสื้อแขนสั้น เมื่อเทียบกับภาพจิตรกรรมลายรดน้ำ ที่บานหน้าต่างพระอุโบสถวัดนางนอง และในภาพประติมากรรมนูนต่ำ ที่บานหน้าต่างพระอุโบสถคณะรังษี

ในภาพมีสัญลักษณ์แสดงคติความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ประกอบด้วยเครื่องราชกกุธภัณฑ์และเครื่องราชูปโภคสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ อาทิ พระมาลาศึก ลักษณะเป็นหมวกปีกยอดสูง มีปกหูและปกคอป้องกันท้ายทอย รวมทั้ง “ฉลองพระองค์เกราะ”

ลักษณะของฉลองพระองค์เกราะในภาพจิตรกรรม เป็นเสื้อแขนสั้นผ่าหน้า ขลิบตกแต่งขอบคอเสื้อและแขนเสื้อเป็นลวดลายประดับ ตัวเสื้อปกคลุมด้วยลายเกราะเพชร คล้ายเกล็ดเกราะแบบจีนที่เรียกว่า “ซานเหวินข่าย” อันเป็นรูปทรงของเกล็ดเกราะที่นิยมกันมากในชุดเกราะนักรบจีนช่วงสมัยราชวงศ์หมิง

“ชุดเกราะ” จึงเป็นชุดสำคัญมากชุดหนึ่งสำหรับพระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยามาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 12 กันยายน 2567