ผู้เขียน | สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ตำแหน่ง “กรมพระราชวังบวรสถานมงคล” หรือ “วังหน้า” มีความสำคัญอย่างมากในประวัติศาสตร์ไทย เนื่องจากเป็นรองเพียงพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น ซึ่งวังหน้าพระองค์หนึ่งที่มีความโดดเด่นยิ่ง คือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะนอกจากจะทรงเป็นวังหน้าในรัชกาลที่ 4 แล้ว ยังทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ 2 อีกด้วย ข้าราชการหรือขุนนางในพระองค์จึงมีจำนวนมาก แล้ว “ขุนนางวังหน้า พระปิ่นเกล้า” คัดเลือกและแต่งตั้งกันอย่างไร?
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าถึงเรื่องนี้ไว้ว่า เมื่อ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาสมเด็จพระอนุชาธิราชขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว การเลือกสรรข้าราชการฝ่ายหน้าพระบวรราชวัง ได้ทรงประพฤติตามแบบอย่างครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
นั่นคือ ทรงโปรดให้แบ่งข้าราชการวังหลวงขึ้นไปรับราชการฝ่ายพระบวรราชวังทุกสกุล และทรงเพิ่มทำเนียบตำแหน่งข้าราชการวังหน้าให้มากขึ้น เหมือนอย่างทำเนียบข้าราชการวังหลวง ให้สมกับที่มีพระเกียรติยศอย่างพระเจ้าแผ่นดิน
คราวนั้น พระปิ่นเกล้าได้กราบบังคมทูลรัชกาลที่ 4 ว่า ทรงมีขุนนางมากนัก ไม่มีเงินพอแจกเบี้ยหวัด รัชกาลที่ 4 จึงพระราชทานเงินงวดสำหรับตำแหน่งพระมหาอุปราช ซึ่งเคยได้ปีละ 1,000 ชั่ง (80,000 บาท) เป็นกำหนดมาแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เพิ่มขึ้นอีกเท่าหนึ่ง เป็นปีละ 2,000 ชั่ง สำหรับพระปิ่นเกล้าทรงแจกเบี้ยหวัดข้าราชการ
ทำไม ขุนนางวังหน้า พระปิ่นเกล้า ถึงมีจำนวนมาก?
ปัจจัยที่ทำให้ข้าราชการฝ่ายวังหน้ามีจำนวนมาก ต้องย้อนไปสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ตอนนั้นทรงโปรดให้พระปิ่นเกล้าทรงบังคับบัญชาทหารซึ่งฝึกหัดอย่างยุโรป เช่น ทหารปืนใหญ่ พวกญวนคริสตัง เป็นต้น
ต่อมา รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้ยกบรรดากรมทหารที่พระปิ่นเกล้าทรงเคยบังคับบัญชาอยู่แต่ก่อน ไปเป็นทหารฝ่ายพระบวรราชวัง จึงเกิดมีทหารบกและทหารเรือของวังหน้าขึ้น โดยไม่จำกัดจำนวนว่าจะมีได้มากน้อยเพียงใดนับแต่นั้นมา
ระยะเวลาราว 15 ปี ที่พระปิ่นเกล้าทรงเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ลูกหลานผู้ที่ขึ้นไปเป็นข้าราชการวังหน้าก็เติบโตขึ้น เกิดการนำเข้าถวายตัวเป็นข้าราชการรุ่นใหม่
เมื่อพระปิ่นเกล้าสวรรคตใน พ.ศ. 2408 ข้าราชการวังหน้าก็ลงมาสมทบรับราชการวังหลวง
ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของวังหน้าเข้ากันกับข้าราชการวังหลวงได้สนิท เพราะส่วนใหญ่เป็นข้าราชการวังหลวงกันมาก่อน แต่ข้าราชการรุ่นใหม่ไม่เคยรับราชการวังหลวง จึงเข้ากับข้าราชการวังหลวงไม่ค่อยได้ ทว่าสมทบกันได้เพียง 3 ปี รัชกาลที่ 4 ก็สวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2411
ดังนั้น เมื่อสิ้นรัชกาลที่ 4 ข้าราชการวังหน้าจึงมีอยู่มาก ไม่สูญเหมือนเมื่อครั้งรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ที่หลังจากวังหน้าในพระองค์สวรรคต พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ก็มิได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดขึ้นเป็นวังหน้าอีกจวบจนสิ้นรัชกาล
เข้าสู่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ พระราชโอรสในพระปิ่นเกล้า ทรงได้รับการคัดเลือกจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่ให้ขึ้นเป็น กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ วังหน้าในรัชกาลที่ 5
ช่วงนั้น ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งฝ่ายพระราชวังบวรสถานมงคล ก็ต้องกลับขึ้นไปรับราชการวังหน้า แต่การส่งข้าราชการกลับไปวังหน้าไม่ได้ลดทำเนียบและกรมต่างๆ ซึ่งตั้งขึ้นเฉพาะองค์พระปิ่นเกล้า เช่น ทหารบก ทหารเรือ
กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญจึงทรงมีทหารและตั้งตำแหน่งข้าราชการได้มาก
นอกจากนี้ ยังทรงได้เงินพระคลังมหาสมบัติสำหรับแจกเบี้ยหวัดข้าราชการปีละ 160,000 บาท เหมือนเมื่อครั้งพระปิ่นเกล้าทรงเป็นวังหน้า
ด้วยปัจจัยที่สืบเนื่องจากการแต่งตั้งข้าราชการวังหน้าในรัชกาลที่ 4 กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญจึงทรงมีกำลังผู้คนและบริวารมากกว่าวังหน้าในรัชกาลก่อนๆ เว้นเสียแต่ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ 1 เพียงพระองค์เดียว
อ่านเพิ่มเติม:
- รัชกาลที่ 1-3 ทรงคัดเลือก “ขุนนางวังหน้า” อย่างไร ไม่ให้ตีกับขุนนางวังหลวง?
- ฤๅพระชะตา “พระปิ่นเกล้าฯ” แรงจน “พระจอมเกล้าฯ” ตรัสให้ถวายราชสมบัติด้วยกันสองพระองค์?
- “เจ้าชายยอช วอชิงตัน” พระราชโอรสในพระปิ่นเกล้าฯ เป็นอะไรกับประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. พระราชพงศาวดาร รัชกาลที่ 5. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : มติชน, 2555
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 กรกฎาคม 2567