“ทหารกูรข่า” นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้แต่กองทัพอังกฤษยังต้องยกนิ้วให้

ทหารกูรข่า ประจำการ บริษัทอินเดียตะวันออก EIC รบ กบฏอินเดีย ก
ทหารกูรข่า และเจ้าหน้าที่บริติช เมื่อครั้ง กบฏอินเดีย"

“ทหารกูรข่า” ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรบที่ดุดัน โหด ห้าวหาญ และแข็งแกร่งที่สุดในโลก มีทักษะในการรบเยี่ยมยอด ทั้งยังจงรักภักดี คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้อังกฤษให้ทหารกูรข่ามาเป็นกองกำลัง “บริษัทอินเดียตะวันออก” (East India Company หรือ EIC) ของอังกฤษ ในยุคที่อังกฤษทำการค้าควบคู่กับการไล่ล่าอาณานิคม

กระทั่งทุกวันนี้ ที่แม้หมดยุคไล่ล่าอาณานิคม ทหารกูรข่าก็ยังประจำการอยู่ในกองทัพอังกฤษ นับเป็นเวลาแล้วก็กว่า 200 ปี

ทหารกูรข่า มีที่มาจากเมืองกูรข่า (Gurkha บ้างสะกด Gorkha) ในเนปาล พวกเขาประกอบด้วยหลายชาติพันธุ์ เช่น ชาวข่า, ชาวกูรุง, ชาวมาการ์ รวมทั้งชาวฮินดูวรรณะสูง ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจมาตั้งแต่สมัยที่ บริษัทอินเดียตะวันออก มีบทบาทอยู่ในอนุทวีป

พวกเขามี “มีดกูกรี” เป็นอาวุธประจำกาย แม้จะไวไม่เท่ากระสุนจากปลายกระบอกปืน แต่ความแม่นยำเรียกได้ว่าไม่แพ้กัน เพราะมีดกูกรีนั้นปลิดชีพศัตรูมาแล้วนักต่อนัก กระทั่งกลายเป็นตราสัญลักษณ์ของทหารกูรข่า ที่เป็นมีดกูกรีไขว้กัน

ต้นศตวรรษที่ 19 เกิด สงครามแองโกล-เนปาล (กูรข่า) ระหว่างกองทัพกูรข่ากับกองกำลังของ EIC เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างต้องการขยายอำนาจไปยังเทือกเขาทางเหนือของอินเดีย สงครามครั้งนี้กินเวลาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 1814 ถึงเดือนมีนาคม ปี 1816 ฝ่ายอังกฤษเสียกองกำลังและงบประมาณไปไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดก็เอาชนะกองทัพกูรข่าไปได้ ด้วยความเหนือกว่าด้านทรัพยากรและกำลังพล

สงครามจบลงด้วยสนธิสัญญาซาเกาลี (Treaty of Sagauli) ลงนามเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ปี 1816 มีข้อสัญญาที่ระบุให้ผู้ปกครองเนปาลต้องยกดินแดนให้ราวกึ่งหนึ่งของราชอาณาจักร และยินยอมให้บริติชมีอำนาจชี้นำทางการเมืองในกาฐมาณฑุ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเนปาลด้วย

ทักษะการรบของทหารกูรข่าในสงครามแองโกล-เนปาล ทำให้อังกฤษประทับใจ ถึงขั้นเปิดรับนักรบกูรข่ามาประจำการในกองทัพ EIC ในอินเดีย และออกรบในฐานะกองทัพ EIC ปฏิบัติการในสงครามครั้งสำคัญอย่างเช่น สงครามพินดารี ปี 1817-1818, สงครามซิกข์ ปี 1845-1846 และ 1848-1849 รวมทั้งเมื่อครั้งเกิด “กบฏอินเดีย” (กบฏซีปอย) ในอินเดีย ปี 1857-1858

กบฏอินเดียครั้งนี้มีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเป็นปัจจัยที่ทำให้อังกฤษรุกคืบเข้ายึดครองอินเดียภายใต้ “บริติชราช” ยาวนานตั้งแต่ปี 1858-1947

เมื่อ EIC เลิกกิจการในปี 1874 ทหารกูรข่า ก็ไปสังกัดภายใต้กองทัพบริติชอินเดีย ออกรบในดินแดนโพ้นทะเลทั้งในสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เมื่ออินเดียได้รับเอกราช ทหารกูรข่าบางกองร้อยย้ายไปสังกัดกองทัพบริติช ขณะที่บางกองร้อยเลือกไปสังกัดกองทัพอินเดีย

ทหารกูรข่า ไม่ได้เป็นแค่นักรบในตำนาน เพราะทุกวันนี้พวกเขาก็ยังคงสืบทอดความเก่งฉกาจ ความแกร่ง และความดุดัน จากนักรบรุ่นก่อนๆ กองทัพบริติชยังคงมีทหารกูรข่าหลายพันนาย และมีทหารกูรข่าอีกหลายหมื่นนายประจำการในกองทัพอินเดีย

หากใครมีโอกาสไปที่เมืองวินเชสเตอร์ ในมณฑลแฮมป์เชียร์ ประเทศอังกฤษ ที่นั่นมี “พิพิธภัณฑ์กูรข่า” ตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพวกเขา ที่สละชีวิตออกรบเพื่อกองทัพบริติชมาหลายร้อยปี

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

Britannica, The Editors of Encyclopaedia. “Gurkha”. Encyclopedia Britannica, 11 Jan. 2024, https://www.britannica.com/topic/Gurkha-people. Accessed 16 February 2024.

“The Gurkhas”. https://www.nam.ac.uk/explore/gurkhas. Accessed 17 February 2024.

“Gurkha History”. https://www.army.mod.uk/who-we-are/corps-regiments-and-units/brigade-of-gurkhas/gurkha-history/. Accessed 17 February 2024.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่ีอ 19 กุมภาพันธ์ 2567