ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“เฉ่ง” คำจีนที่ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากการ “ด่า” แต่มาจากการเก็บภาษีช่วงต้นรัตนโกสินทร์
“เฉ่ง” ตามที่พจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 อธิบายไว้นั้น เป็นคำกริยา มีความหมายว่า ชำระเงินที่ติดค้างกันอยู่และด่า ว่า หรือทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าหากว่าเราขุดต้นตอของคำคำนี้ จะเห็นได้ว่าเฉ่งไม่ได้มีไว้เพื่อด่า ทั้งยังมีที่มาจากคำว่าบริสุทธิ์
เฉ่งเป็นคำจีนแต้จิ๋ว ออกเสียงว่า “เช็ง” ส่วนภาษาจีนกลางนั้นออกเสียงว่า “ชิง” (清) ซึ่งเป็นอักษรเดียวกับราชวงศ์ชิงของจีนที่เรารู้จักกัน โดยความหมายของคำว่าชิงนั้นแปลว่า “สะอาด บริสุทธิ์ ไร้สิ่งเจือปน” ถ้านำไปรวมกับคำอื่น ๆ ก็แปลได้ว่า ท้องฟ้าปลอดโปร่ง น้ำใส แจ่มแจ้ง เป็นต้น
แล้วทำไมในไทยจึงแปรเปลี่ยนมาหมายถึง “ชำระเงินที่ติดค้างกันอยู่” และ “ด่า ว่า ทำร้ายร่างกาย” ล่ะ?
เรื่องนี้ต้องย้อนไปในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อรัฐสยามเปิดโอกาสให้คนจีนเข้ามาดูแลเรื่องภาษีอากรบ่อนเบี้ย โดยให้เหตุผลว่าหากคนจีนเข้ามาดูแลภาษีอากรส่วนนี้ จะทำให้สยามได้เงินภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้น เนื่องจากคนจีนเป็นชาวต่างชาติ ไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจใคร
เมื่อเป็นเช่นนี้ คนจีนจึงทำหน้าที่ไล่ตระเวนเก็บภาษีอากรซึ่งจะใช้วิธีเก็บแตกต่างกันไป หากเป็นชาวบ้านก็จะส่งคนไปเก็บ ถ้าเป็นโรงบ่อนก็จะเก็บกันตรงนั้น และใครที่ชำระภาษีครบจำนวน คนจีนก็จะเรียกว่าเฉ่ง กล่าวคือไม่มีหนี้สินอะไรติดค้างกันอีก ทุกอย่างชำระสะสางกันเป็นที่เรียบร้อย
ทว่าต่อมา คนจีนก็เริ่มใช้คำว่าเฉ่งในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อพบลูกหนี้ที่ไม่สามารถจ่ายหนี้ครบตามกำหนด ผู้เก็บภาษีก็ต้องมาเฉ่งลูกหนี้เช่นกัน แต่เฉ่งในที่นี้คือมาจัดการลูกหนี้ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นด่าทอ ทำร้ายร่างกาย จนทำให้เฉ่งกลายมามีความหมายอย่างที่เรารู้จักกันนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :
- “เสี่ย” คำเรียกแทนชายฐานะดีมีระดับที่มีประวัติยาวนานก่อนคริสต์ศักราช!
- เปิดที่มาคำว่า “หยก” อัญมณีล้ำค่าของชาวจีน
อ้างอิง :
วรศักดิ์ มหัทธโนบล. “คำจีนสยาม : เฉ่ง.” มติชนสุดสัปดาห์ 26, ฉ. 1,331 (กุมภาพันธ์ 2549): 39.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 กรกฎาคม 2566