วิวาทะเจดีย์ยุทธหัตถี สถานที่รำลึกวีรกรรม “พระนเรศวร” อยู่ที่ไหนกันแน่ ?!?

ภาพถ่าย ซาก เจดีย์ยุทธหัตถี
(ซ้าย) ซากเจดีย์ยุทธหัตถีเดิม (ขวา) เจดีย์ยุทธหัตถี สร้างใหม่ครอบองค์เดิม ตำบล ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี (ภาพจากหนังสือ โบราณวัตถุสถานทั่วพระราชอาณาจักร จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากร, พ.ศ. 2500)

เมื่อปี 2456 สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงชี้ว่า พื้นที่ยุทธหัตถี วีรกรรมอันเลื่องลือของ “พระนเรศวร” หรือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เรื่องดังกล่าวร้างราไปกว่า 30 ปี แต่แล้วก็กลับเป็นที่สนใจขึ้น เมื่อ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี รื้อฟื้นแนวคิดในการบูรณะ เจดีย์ยุทธหัตถี ขึ้นอีกครั้ง ด้วยการสร้างเจดีย์องค์ใหม่ครอบเจดีย์องค์เก่า

สำหรับรัฐบาลจอมพล ป. เจดีย์ยุทธหัตถี และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เวลานั้น เป็นการตอบสนองกระแสชาตินิยมและกษัตริย์นิยมที่ยังมีพลังในสังคม และเป็นการใช้อุดมการณ์ชาตินิยมมาฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

Advertisement

10 พฤศจิกายน 2493 เกิดแนวคิดจะบูรณะซากเจดีย์ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี จึงมอบหมายให้ บุญช่วย สมพงษ์ กรรมการและเลขาธิการฯ และอธิบดีกรมการศาสนา ไปค้นหาหลักฐาน จากนั้นนำเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีมติเห็นชอบและตั้งคณะกรรมการบูรณะอนุสรณ์ดอนเจดีย์ มีพลเอก หลวงเสนาณรงค์ ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน

12-14 มีนาคม 2495 จังหวัดสุพรรณบุรีจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ หลังจากนั้นก็มีการประกอบพิธีบวงสรวง 2 ครั้ง ในปี 2498 และวางศิลาฤกษ์ในปี 2500 หากเกิดการรัฐประหารรัฐบาลจอมพล ป. เสียก่อน

ต่อมารัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มาดำเนินการบูรณะเจดีย์ยุทธหัตถีต่อ นอกจากนี้ยังมีการสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ใช้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” แล้วเสร็จในปี 2505 ด้วยงบประมาณ 7 ล้านบาท มีรัฐพิธีเปิด ในวันที่ 25 มกราคม 2502

นั่นเท่ากับว่ารัฐสรุปกลายๆ ว่า พื้นที่กระทำยุทธหัตถีอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

วิวาทะเรื่อง เจดีย์ยุทธหัตถี แบ่งออกเป็น 4 กระแสหลัก คือ  1. เจดีย์ยุทธหัตถี อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี 2. เจดีย์ยุทธหัตถี อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี 3. เจดีย์ยุทธหัตถี ไม่มีอยู่จริง  4. เจดีย์ยุทธหัตถี อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย 2 กระแสแรกมีการโต้ตอบกันมากที่สุด

จุดเริ่มต้นของวิวาทะเรื่อง เจดีย์ยุทธหัตถี เกิดเมื่อ กำนันชุบ บุญชนะวงศ์ ตำบลบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี นำความเชื่อที่เล่าสืบกันมาของชาวบ้านตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน และพื้นที่ใกล้เคียงว่า เจดีย์ยุทธหัตถีอยู่ในจังหวัดของตน เผยแพร่สู่สาธารณะ ปี 2505 กำนันชุบได้นำเรื่องดังกล่าวมาบอกเล่าพระสาสนโสภณ [ต่อมาคือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร] เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นชาวกาญจนบุรี

ระหว่างปี 2507-2515 กำนันชุบอ้างว่า ได้รวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ข้อเสนอของตน โดยมีคณะบุคคลมาช่วยสังเกตศึกษาลักษณะองค์เจดีย์ที่อำเภอพนมทวน หนึ่งในกลุ่มที่ช่วยเผยแพร่ความเชื่อนี้มากที่สุดคือ นักหนังสือพิมพ์ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และการที่รัฐยอมรับให้จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นพื้นที่กระทำยุทธหัตถี กระแสแนวคิดเช่นนี้แพร่หลายในหนังสือพิมพ์ จนประเด็นเรื่องเจดีย์ยุทธหัตถีเริ่มได้รับความสนใจจากสังคม

20 สิงหาคม 2515 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ (พระอิสริยยศขณะนั้น) เกิดความสนพระทัยและเสด็จไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง หลังจากนั้นก็มีผู้คนได้ไปชมเจดีย์แห่งนี้วันละหลายคณะตลอดมา

13-14 มกราคม 2516 ฝ่ายที่เชื่อว่า เจดีย์ยุทธหัตถี อยู่ที่กาญจนบุรี โดยสมาคมชาวกาญจนบุรี จัดงานทำบุญมหากุศลเนื่องในวันคล้ายวันยุทธหัตถี ณ บริเวณเจดีย์ยุทธหัตถี กลางคืนมีมหรสพสมโภชเจดีย์ และเลือกวันที่ 14 มกราคม เป็นวันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณนักรบโบราณทุกคน พลตำรวจโท จำรัส มังคลารัตน์ นายกสมาคมชาวกาญจนบุรีขณะนั้น อธิบายว่า ตรงกับวันที่สมเด็จพระนเรศวรทรงมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา ซึ่งไม่ตรงกับวันยุทธหัตถีที่จังหวัดสุพรรณบุรี

หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ เป็นสมรภูมิการโต้ตอบของทั้ง 2 ฝ่าย

3 กุมภาพันธ์ 2516 ซึ่งตรงกับวันทหารผ่านศึก ฝ่ายที่เชื่อว่าเจดีย์ยุทธหัตถี อยู่กาญจนบุรี ขอเวลากรมประชาสัมพันธ์จัดการอภิปรายเรื่อง “เจดีย์ยุทธหัตถีอยู่ที่ไหน?” มีผู้ร่วมอภิปราย คือ จุลทัศน์ พยาฆรานนท์-ครูประจำโรงเรียนเพาะช่าง, หวล สุมาลัย-ผู้ชำนาญการทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีประจำศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ภาวาส บุนนาค-นักค้นคว้าเรื่องความเป็นไทย โดยมีสนิท ธนรักษ์ เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย

ใจความหลักของการอภิปรายคือ ตั้งข้อสงสัยว่าเจดีย์ที่ชาวกาญจนบุรีเชื่อนั้นจะใช่เจดีย์ยุทธหัตถีหรือไม่, โจมตีเจดีย์ยุทธหัตถี จังหวัดสุพรรณบุรี ที่บูรณะโดยกรมศิลปากรว่าน่าจะเป็นเจดีย์สมัยทวารวดี และประเด็นสำคัญคือ ยืนยันข้อเท็จจริงตามหลักฐานพยานต่างๆ ว่าพื้นที่กระทำยุทธหัตถีอยู่ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี

3 มีนาคม 2516 สมาคมสุพรรณพระนคร โต้ตอบด้วยการขอจัดอภิปรายเรื่อง “เจดีย์ยุทธหัตถีอยู่ที่ไหน” มีพลเรือเอก สงัด ชลออยู่-ประธานกรรมการจัดการอภิปราย, นายลิขิตสารสนอง (ชับ บุนนาค) และจมื่นอมรดรุณารักษ์ อดีตข้าราชบริพารในรัชกาลที่ 6 เคยตามเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรเจดีย์ยุทธหัตถี ที่สุพรรณบุรี คงเดช ประพัฒน์ทอง-อาจารย์คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ฯลฯ โดยกระมล ทองธรรมชาติ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย

ใจความหลักของการอภิปรายคือ การยืนยันว่าเจดีย์ยุทธหัตถีและพื้นที่กระทำยุทธหัตถี อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่รัชกาลที่ 6 และสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเชื่อถือ และตามที่ระบุในพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ซึ่งเห็นว่าเป็นพงศาวดารฉบับเดียวที่ถูกต้อง

กันยายน 2516 กระแสที่ 3 ที่เชื่อว่า “เจดีย์ยุทธหัตถีไม่มีอยู่จริง” เมื่อ พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ เขียนบทความลง อักษรศาสตรพิจารณ์ สรุปความได้ว่า สงครามยุทธหัตถีจบลงที่พระมหาอุปราชสิ้นพระชนม์ตามที่กล่าวในพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ส่วนการสร้างเจดีย์สวมพระศพพระมหาอุปราชา เป็นการบรรยายโวหารตามแบบพระราชพงศาวดาร ในความเป็นจริง สมเด็จพระนเรศวรไม่ได้ทรงสร้างเจดีย์ยุทธหัตถี

6 ตุลาคม 2519 พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ รัฐประหารรัฐบาลหม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช ทำให้เกิดการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง การถกเถียงเรื่องที่เจดีย์ยุทธหัตถีที่ว่าอยู่ที่ใด ก็ยุติลงชั่วคราวเช่นกัน

25 มีนาคม 2521 ธนบัตรชนิดราคา 100 บาท ภาพด้านหน้าเป็น พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 9 ทรงเครื่องแบบจอมทัพไทย ด้านหลังเป็นพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

น้ำหนักว่า เจดีย์ยุทธหัตถีอยู่ที่ “สุพรรณบุรี” มีมากขึ้น อันเนื่องจากวาระรำลึก 400 ปี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3 วาระ คือ 1. ปี 2527 รำลึก 400 ปี แห่งการประกาศอิสรภาพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. 2127) 2. ปี 2533 รำลึก 400 ปี แห่งการครองราชย์ (พ.ศ. 2133) 3. ปี 2535 รำลึก 400 ปี แห่งการทำยุทธหัตถี

ซึ่งทั้ง 3 ครั้งมีการจัดทำหนังสือที่ระลึก, อภิปรายเชิงวิชาการ, งานเฉลิมฉลอง, แสตมป์ที่ระลึก ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดกล่าวถึง อ้างอิง และเชื่อมโยงเฉพาะพื้นที่ยุทธหัตถี ที่หนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี

ปี 2537 เทพมนตรี ลิมปพยอม เสนอแนวคิดกระแสที่ 4 ว่า เจดีย์ยุทธหัตถีที่แท้จริง คือ เจดีย์ภูเขาทอง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

9 กุมภาพันธ์ 2539 กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียน เจดีย์ ที่ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เป็นโบราณสถานให้ชื่อว่า “เจดีย์ยุทธหัตถี” นับเป็นการประนีประนอมระหว่างกระแสที่ 1 ที่ สุพรรณบุรี และกระแสที่ 2 กาญจนบุรี อย่างชัดเจน ทว่าทุกวันที่ 25 มกราคม ยังคงมีรัฐพิธีที่จังหวัดสุพรรณบุรี

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


หมายเหตุ : บทความนี้เขียนเก็บความจาก ปิยวัฒน์ สีแตงสุก. นเรศวรนิพนธ์: การเมือง อนุสาวรีย์ และประวัติศาสตร์เรื่องแต่ง. สำนักพิมพ์มติชน. พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2566.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 27 มีนาคม 2566