ผู้เขียน | เสมียนนารี |
---|---|
เผยแพร่ |
“ปลาทูทอด” เมนูโปรดของนายตันฉื่อฮ้วง ต้นตระกูล “หวั่งหลี” ที่ภรรยาชาวไทยเชื้อสายจีน มีเคล็ดลับวิธีทำที่เก็บกินได้นานเป็นเดือนๆ
นายตันฉื่อฮ้วงทำการค้าอยู่ในเมืองไทยนาน มีอาหารไทยจานโปรดคือ “ปลาทูทอด” วันหนึ่งเมื่อคิดจะกลับไปเมืองจีน นางหนูภรรยาชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นห่วงว่า นายตันฉื่อฮ้วงจะไม่มีปลาทูทอดกิน
จึงได้คิดวิธีผลิตปลาทูทอดบรรจุกระป๋องจากครัวในบ้าน เพื่อส่งไปประเทศจีน ทั้งสามารถเก็บได้นานนับเป็นเดือนๆ โดยไม่ต้องใช้สารกันบูด หรือเข้าตู้เย็นแช่แข็งแบบปัจจุบัน เรื่องนี้ คุณหญิงจำนงศรี รัตนิน (หาญเจนลักษณ์) เขียนเล่าไว้ใน “ดุจนาวา กลางมหาสมุทร” ว่า

“ความรักที่ คุณทวดหนู มีต่อสามี ทําให้ท่านอาจเป็นแม่บ้านไทยคนแรกในเมืองไทยที่ผลิตปลาทูกระป๋องจากครัวในบ้านเพื่อส่งออกนอกประเทศ นอกจากนี้แล้วก็ยังทําให้ โจ่ยโคย [ชื่อหมู่บ้านที่นายตันฉื่อฮ้วงอยู่ที่เมืองจีน] เป็นหมู่บ้านเดียวในเมืองจีนที่มีปลาทูทอดแบบไทยให้รับประทานได้ตลอดปีตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ทั้งนี้เพราะอาหารไทยจานโปรดของนายฉื่อฮ้วงคือปลาทูทอด
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อนายฉื่อฮ้วง กลับไปอยู่เมืองจีน ภรรยาไทยของท่านก็เป็นห่วงเป็นใยว่าท่านจะอดปลาทู จึงพยายามคิดค้นวิธีที่จะส่งปลาทูครั้งละมากๆ ไปให้รับประทานได้นานๆ โดยไม่เสียรสจากการเก็บเป็นแรมปี ในที่สุดก็สามารถทําปลาทูทอดกระป๋องที่สามารถเก็บได้นานตามที่ต้องการ มิหนําซ้ำกระดูกยังเปื่อยรับประทานได้หมดทั้งตัวจากหัวตลอดหาง

ถึงตรงนี้จะขอเล่าวิธีการทําปลาทูทอดกระป๋องของ คุณทวดหนู อย่างละเอียด เพื่อผู้อ่านที่สนใจจะได้ลองทําดูบ้าง เริ่มจากการเอาปลาทูนึ่งมาทอดช้าๆ ด้วยไฟที่อ่อนมาก แล้วนําขึ้นมาเรียงในกระป๋องที่เตรียมเอาไว้ ในสมัยนั้นคุณทวดจะเรียงปลาชั้นละ 5 ตัว 4 ชั้น ได้กระป๋องละ 20 ตัว ใช้น้ำมันหมูที่เจียวเอาไว้ใหม่ๆ แล้วพักให้เย็น ราดลงไปให้มิดปลา
แล้วนําแผ่นสังกะสีมาปิดเป็นฝา ใช้ “หัวแร้ง” อังไฟในเตาถ่านเพื่อนํามาบัดกรี เชื่อมฝาจนสนิทโดยรอบ แล้วจึงเจาะรูเล็กสองรู จากนั้นนํากระป๋องไปนึ่งฆ่าเชื้อนาน 90 นาที ก่อนที่จะบัดกรีปิดรูทั้งสอง เป็นอันว่าเสร็จพร้อมที่จะบรรจุลังส่งลงเรือกลไฟไปเมืองจีน
การทําปลาทูทอดกระป๋องไว้รับประทานในบ้านตระกูลหวั่งหลีมีมาจนทุกวันนี้ แต่ไม่จําเป็นต้องบัดกรีกระป๋องอีกต่อไป เพราะไม่ได้ส่งออกไปนอกประเทศอย่างสมัยคุณทวดหนู ซึ่งทํากันแต่ละครั้งเป็นจํานวนร้อยๆ กระป๋อง
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าปลาทูทอดสูตรนี้มีรสอร่อยเฉพาะตัว คือไม่เหมือนปลาทูทอดอื่นใด ที่สําคัญคือจะต้องแช่น้ำมันหมูไว้ให้เกิน 1 เดือน ก่อนที่จะนํามาทอดอีกครั้งก่อนรับประทาน การรับประทานนั้นจะยำก็อร่อย จะคลุกกับน้ำพริกส้มมะขามก็เยี่ยมยอด”
อ่านเพิ่มเติม :
- “ปลาทูซาเตี๊ยะ” สำรับต้นตำรับแห่งแม่กลอง เหตุใดจึงเรียกว่าซาเตี๊ยะ?
- “กะปิและปลาทู” พระกระยาหารสามัญโปรดของรัชกาลที่ 5
- เปิดที่มา ทำไม “ปลาสลิด” ที่อร่อย ถึงต้องเป็นปลาสลิด “บางบ่อ”?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 พฤษภาคม 2562