
ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
การขับร้องเพลงในบางสังคม เดิมทีเป็นหน้าที่ของผู้ชายเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากกฎหมายในโรมสมัยเรืองอำนาจ มีประกาศห้ามผู้หญิงพูดในโบสถ์อย่างเด็ดขาด หน้าที่การขับร้องเพลงในโบสถ์จึงตกเป็นของฝ่ายชาย หากต้องการเสียงเล็กหรือแหลมสูง จะให้เด็กผู้ชายขับร้องแทน ผู้หญิงห้ามเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด บริบทเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่นำมาสู่พฤติกรรมการ “ตัดไข่ ตอนอวัยวะ” ในเวลาต่อมา
“ตัดไข่ ตอนอวัยวะ” อย่างไร เพื่ออะไร?
“การขับร้อง” มีการเลือกปฏิบัติแต่เพียงเพศชายมาตั้งแต่โบราณกาล ต่อมาในสมัยกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 การขับร้องเพลงประสานเสียงเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้ประพันธ์เพลงสำหรับร้องในโบสถ์ได้แข่งขันกันประดิษฐ์เพลงประสานเสียงขึ้น แต่ในขณะนั้นเสียงของเด็กผู้ชายมีข้อดีแค่เพียงความเล็กและแหลมสูงเท่านั้นแต่ขาดความหนักแน่น จึงนิยมหาซื้อตัวเด็กชายที่สามารถเปล่งเสียงขับร้องได้เสียงสูงสุด ดังสุด ด้วยเงินราคาแพง
ช่วงเวลานั้นเป็นที่รู้กันว่าเด็กชายชาวสเปนขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจด้านพลังในการขับร้อง จึงมักถูกซื้อตัวมาขับร้องเพลงประสานเสียงที่โบสถ์แห่งหนึ่งในอาณาจักรโรมัน แต่สิ่งที่น่าแปลกเกี่ยวกับเด็กชายชาวสเปนที่ถูกซื้อตัวมาคือ แพทย์ตรวจพบว่าเด็กเหล่านี้ถูกจับตอนโดยตัดเอาอัณฑะทั้งหมดทิ้ง ข้อมูลจากการบันทึกระบุว่า ภายหลังเริ่มมีผู้สนใจทดลองทำขึ้นในประเทศอิตาลีจนประสบความสำเร็จ (ยังกล้าทำได้) สามารถผลิตเด็กอิตาเลียนเสียงไพเราะขึ้นได้ในประเทศ
หนังสือ “คลาสสิคสังวาส รวมบทความเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคในหลากหลายมุมมอง” โดย พูนพิศ อมาตยกุล อธิบายว่า ต้นตอของการจับเด็กตอนให้มีเสียงไพเราะนั้น เริ่มต้นในประเทศสเปนก่อน แล้วจึงมาแพร่หลายมากในประเทศอิตาลี เล่ากันว่าระหว่าง ค.ศ. 1750-1770 (พ.ศ. 2293-2313) มีเด็กชายในประเทศอิตาลีถูกจับตอนมากถึงปีละกว่า 4,000 คนตลอด 20 ปี แต่ในขณะเดียวกันก็ปรากฏว่ามีนักร้องชายที่ถูกจับตอนแล้วมากมายหลายคนได้ประสบความสำเร็จในชีวิตด้านดนตรี
การผ่าตัดตอนเด็กผู้ชายนั้น มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ วิธีแรก ตัดอวัยวะเพศทั้งชุดออกหมด เปิดให้เหลือแต่ช่องเล็กๆ ไว้สำหรับถ่ายปัสสาวะ มีข้อเสียอยู่ที่ว่าเด็กมีเปอร์เซ็นต์การตายค่อนข้างสูงจากการติดเชื้อและไข้สูงหลังผ่าตัด
ส่วนวิธีที่ 2 จะตัดเอาแต่เฉพาะอัณฑะทั้งหมดทิ้งไป ซึ่งวิธีนี้เนี้ออวัยวะเพศจะไม่เจริญหรือขยายขนาดตามตัวที่โตขึ้น แต่จะทำหน้าที่เป็นท่อปัสสาวะเท่านั้น ซึ่งในคนที่ถูกตัดอัณฑะทิ้งไปทั้งหมดตั้งแต่ก่อนวัยหนุ่มนั้นจะส่งผลให้อวัยวะเพศโตช้า ตัวก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ แขนขายาว รูปร่างใหญ่ แต่จะไม่ค่อยมีกำลัง กล้ามเนื้อนุ่มเหมือนผู้หญิง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไม่มีหนวดเครา พออายุเกิน 20 ปีขึ้นไป บางคนแขนขายังไม่หยุดโต เขาจะสูงและเก้งก้าง บางรายถึงขั้นหมดงามไปเลย เหลือไว้เพียงเสียงที่ไพเราะเสนาะหู
สำหรับเสียงร้องที่ว่าไพเราะ กล่าวกันว่าจะมีลักษณะของกระแสเสียงที่แจ่มใส สามารถสั่นได้ความถี่สูงมาก เนื่องจากมีรูปร่างใหญ่กว่าปกติ ซึ่งนักร้องที่ถูกตอนนั้น จะมีปอดใหญ่กว่าผู้ชายธรรมดา สามารถเก็บอากาศไว้ได้มาก การเปล่งเสียงออกมาจึงมีพลังและปล่อยเสียงได้ยาวโดยไม่ต้องหยุดหายใจบ่อย บางคนสามารถปล่อยเสียงออกจากลำคอติดต่อกันได้มากกว่า 1 นาที หรือนานกว่านั้น ในบางรายที่มีลำคอยาว อาจร้องเสียงทุ้มต่ำได้ดีกว่านักร้องหญิงในระดับ contralto ในราชสำนักบางแห่ง

คาร์โล ฟาริเนลลี
ทั้งนี้ ในกระบวนตอนนักร้องชายให้มีเสียงไพเราะนั้น ตามประวัติศาสตร์ของดนตรีคลาสสิคเห็นจะไม่มีใครโดดเด่นเกินนักร้องชาวอิตาเลียนชื่อ คาร์โล ฟาริเนลลี (Carlo Broschi Farinelli) เขาเกิดในประเทศอิตาลี เมื่อปี ค.ศ. 1705 หรือ พ.ศ. 2248 ซึ่งตรงกับรัชกาลสมเด็จพระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยา
Farinelli นอกจากจะมีเสียงอันไพเพาะแล้ว เขายังเป็นคนฉลาด มีไหวพริบดี ประกอบด้วยลีลาและเทคนิคในการร้องเพลงอันดีเยี่ยม อีกทั้งเป็นคนรูปร่างงามสมส่วน ไปร้องเพลงที่ไหนมักจะได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมาก
หลังจากประสบความสำเร็จในประเทศของตนแล้ว Farinelli ออกไปร้องเพลง ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จนกระทั่ง พ.ศ. 2280 พระราชินีแห่งสเปนได้ติดต่อว่าจ้างเขาไปร้องเพลงเพื่อรักษาอาการซึมเศร้าของพระเจ้า Philip ที่ 5 เขาอยู่ในสเปนนานถึง 22 ปีเต็มแล้วจึงกลับสู่ประเทศอิตาลี จนถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1782 หรือ พ.ศ. 2325 (ปีเริ่มต้นของกรุงเทพฯ) รวมอายุได้ 77 ปี

อย่างไรก็ตาม การขับร้องเพลงของชายที่ถูกตัดไข่ ตอนอวัยวะนั้น มิใช่ว่าทุกคนที่ถูกตอนแล้วจะมีน้ำเสียงไพเราะ แต่ยังขึ้นอยู่ความพยายาม การฝึกฝนอย่างหนักของแต่ละบุคคล รวมถึงการเรียนรู้ด้านดนตรีและทฤษฎีดนตรีอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม :
- กำเนิด Joy to the World เพลงคริสต์มาสอมตะ ดนตรีที่คลอในคลิปตบดราม่า
- เผยเรื่องจริง “คนรัก” ของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี วง Queen ต่างจากหนัง Bohemian Rhapsody
- ปริศนาสาเหตุการตายของ “บ๊อบ มาร์เลย์” ศิลปินที่สู้ “มะเร็งผิวหนัง” ฤๅเป็นผลของแผลช่วงเตะบอล?
อ้างอิง :
พูนพิศ อมาตยกุล. คลาสสิคสังวาส รวมบทความเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคในหลากหลายมุมมอง. สำนักพิมพ์วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2553.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 31 มกราคม 2562