กำเนิด “วัฒนธรรมรถแห่” ภาคอีสาน กับขบวนแห่แชมป์ลีกสมัยที่ 20 ของลิเวอร์พูล

รถแห่ บวชนาค ภาคอีสาน ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียลีกอังกฤษ ประกอบเรื่อง วัฒนธรรมรถแห่
(ซ้าย) ขบวนแห่บวชนาคภาคอีสาน มีรถแห่อยู่ด้านหลัง (ขวา) ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียลีก ฤดูกาล 2024-2025 (ภาพจาก เฟซบุ๊ก รถแห่ เซิ้งอีสาน ออนทัวร์ บุรีรัมย์ / Premier League)

กำเนิดวัฒนธรรมรถแห่ภาคอีสาน กับขบวนแห่แชมป์ลีกสมัยที่ 20 ของ ลิเวอร์พูล

เด็กหงส์ทั่วไทยเตรียมจัดใหญ่ฉลองแชมป์ลีก ขนสารพัดพาหนะออกมา “แห่แชมป์” กันมืดฟ้ามัวดิน เพราะนี่คือการเฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยที่ 20 (พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2) ของทีมลิเวอร์พูล ซึ่งกลายเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จในรายการดังกล่าวสูงสุดเทียบเท่าทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริตลอดกาลของพวกเขา และขึ้นแท่นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของอังกฤษ!

ดูผิวเผินการแห่แชมป์ของลิเวอร์พูลไม่น่าเกี่ยวข้องอะไรกับ “วัฒนธรรมรถแห่” ของภาคอีสาน…

แต่ส่วนเสี้ยวอันน้อยนิดที่จะขอหยิบยกมาโยง (ให้ได้) คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นที่เมืองลิเวอร์พูลในอีกราว 1 เดือนข้างหน้า และดูเหมือนจะเกิดขึ้นแล้วในไทย คือการ “แห่” ฉลองความสำเร็จของเหล่าเดอะค็อป ซึ่งมีองค์ประกอบร่วมกับรถแห่ภาคอีสาน คือ ความสนุกสนานครื้นเครง และ “พื้นที่” ของผู้มีความสนใจเดียวกันที่จะมาปลดปล่อยอารมณ์สุดเหวี่ยงร่วมกัน

แฟนบอล ลิเวอร์พูล แห่ ฉลองแชมป์ ปี 2563
แฟนบอลลิเวอร์พูลแห่ฉลองแชมป์เมื่อปี 2563 (ภาพจาก ข่าวสด, 22 ก.ค. 2563)

รถแห่ จัดเป็นสื่อการแสดงพื้นบ้าน (Folk Performance) เป็นการแสดงสดแบบวงดนตรีบนรถบรรทุก โดยมากจะเน้นการแสดงแนวเพลงหมอลำซิ่ง ความพิเศษคือเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว โยกย้ายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้ง่าย นิยมใช้แสดงประกอบสื่อประเพณีพิธีกรรมต่าง ๆ ในช่วงพิธีแห่ เช่น งานบวช งานบุญบั้งไฟ ฯลฯ

จะว่าไปแล้ว รถแห่ก็เป็นลักษณะการใช้งานแบบเดียวกับขบวนแห่ดนตรีสด เช่น วงแห่กลองยาว วงแห่พิณ ซึ่งจัดเป็นสื่อการแสดงพื้นบ้าน ใช้ประกอบสื่อประเพณีพิธีกรรมที่มีมาอย่างยาวนานในภาคอีสานนั่นเอง

รถแห่ไม่ได้มีแต่ความสนุกเท่านั้น เพราะสามารถเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของวัยรุ่นอีสานในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี อย่างที่ รุ่งลดิศ จตุรไพศาล ได้ให้นิยามมิติทางวัฒนธรรมของรถแห่ไว้ในบทความ “รถแห่: สื่อการแสดงพื้นบ้านในการสืบทอดประเพณีประดิษฐ์ของกลุ่มวัยรุ่นอีสาน” (มนุษยศาสตร์สาร, มช. ปีที่ 25 ฉบับที่ 1 : 2567) ตอนหนึ่งว่า

“รถแห่เป็นสื่อการแสดงพื้นบ้านที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทสังคมอีสานใหม่ ผ่านการตอบสนองกลุ่มผู้ชมในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะรสนิยมทางด้านดนตรี นับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถแห่สามารถสร้างความนิยมและดึงกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้นับเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างหนึ่ง”

10-20 ปีที่ผ่านมานี้ คนในภาคอีสานนิยมจ้างรถแห่มากกว่าขบวนแห่ดนตรีสดประเภทอื่น เนื่องจากสามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่ต้องเตรียมการเยอะ และมีเทคโนโลยีที่มีศักยภาพแบบเดียวกับเวทีคอนเสิร์ตหมอลำซิ่ง

รถแห่ไม่ได้ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านเป็นหลัก แต่ใช้เครื่องดนตรีสากล ได้แก่ คีย์บอร์ด กีตาร์ไฟฟ้า เบส และกลองชุด บรรเลงเพลงหมอลำซิ่ง ตลอดจนเพลงติดกระแสที่กำลังเป็นที่นิยมในสังคม และมักจะดัดแปลงให้มีทำนองรูปแบบเหมือนหมอลำซิ่งเสมอ

รถแห่จึงมีลักษณะเฉพาะคือเป็นสื่อการแสดงพื้นบ้านที่ผสมผสานความเป็นสากลเข้ากับความเป็นท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

เมื่อสืบดูความต่อเนื่องของวัฒนธรรมรถแห่ จะยิ่งเห็นความเชื่อมโยงระหว่างการแต่งเติมความสนุกสนานเข้าไปไว้ร่วมกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลงตัวของคนอีสาน ซึ่ง อิทธิพล ทองศรีเกตุ ได้สรุปพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงจากขบวนแห่ดนตรีสดมาสู่รถแห่เป็น 4 ยุค ดังนี้

1. ยุคดั้งเดิม ก่อนทศวรรษ 2520 เป็นขบวนแห่ดนตรีสดทั่วไป (ยังไม่มีรถ) ยังไม่มีนักร้อง เช่น แห่กลองยาว แห่พิณ การแสดงเรียกว่า “ลาย”

2. ยุคผสมวง ประมาณทศวรรษ 2520 มีขบวนแห่ดนตรีสด เริ่มนำเครื่องดนตรีสากลมาผสมผสาน แต่ยังไม่ไม่นักร้อง เริ่มมีการใช้รถเข็นมาขนเครื่องขยายเสียงสำหรับการแสดงดนตรี เรียกว่า “รถยู้”

3. ยุครถแห่ดนตรี ประมาณกลางทศวรรษ 2530 กำเนิดรถแห่ เริ่มเอารถบรรทุกขนาดเล็กมาขนเครื่องเสียงและเครื่องดนตรีเพื่อทำการแสดงบนรถ มีการเปิดแผ่นเสียงที่มีเนื้อร้อง แต่หากเป็นการแสดงสดจะยังไม่มีนักร้องอยู่ดี

4. ยุครถแห่ดนตรีสด ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2550 เป็นต้นมา มีการบรรเลงดนตรีแบบแปลกใหม่ ดัดแปลงรถบรรทุกติดตั้งเครื่องเสียงและไฟเหมือนเป็นเวทีคอนเสิร์ต ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ติดตั้งตัวรถเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และเพนต์สีฉูดฉาดเป็นเอกลักษณ์ ทั้งต่อเติมโครงสร้างบางส่วนเพื่อให้รถสามารถบรรทุกทั้งเครื่องเสียง นักร้อง นักดนตรี รวมถึงติดไฟแสงสีอลังการ

ตั้งแต่ทศวรรษ 2550 เป็นต้นมา รถแห่เป็นพื้นที่ของกลุ่มวัยรุ่นที่มาสนุกสนานกันจนเกิดเป็นกลุ่ม “แฟนคลับ” ที่ติดตามรถแห่ไปทุกทีตามงานต่าง ๆ และเป็นพื้นที่ให้ศิลปินวัยรุ่นยุคใหม่ได้แสดงความสามารถเช่นกัน

บรรยากาศ หน้ารถแห่
บรรยากาศหน้ารถแห่ (ภาพจาก เฟซบุ๊ก รถแห่ เซิ้งอีสาน ออนทัวร์ บุรีรัมย์)

รถแห่จึงเป็นสิ่งเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม เป็นสื่อฯ ที่มีลักษณะของสิ่งที่เรียกว่า “ประเพณีประดิษฐ์” (Invented Tradition) เพราะวัฒนธรรมประเพณีในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับอดีตทั้งหมด แม้รูปแบบจะแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องจากสมัยก่อนก็ตาม

คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า รถแห่ (ในงานพิธีอีสาน) คือการประดิษฐ์ประเพณีโดยคนอีสาน ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นมีบทบาทขับเคลื่อนทั้งการเป็นศิลปินและผู้ชม ความน่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช่ชนชั้นนำทางวัฒนธรรม เพราะการประดิษฐ์ประเพณีส่วนใหญ่จะเป็นบทบาทของผู้มีอำนาจทางสังคม แต่รถแห่แสดงให้เห็นว่า ประชาชนรากหญ้าก็สามารถสร้างประเพณีได้

อย่างไรเสียรถแห่ก็พัฒนามาเพื่อสอบสนองโจทย์ทางธุรกิจ ต้องสร้างผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ให้กับผู้ประกอบการ แต่ถึงอย่างนั้นต้องยอมรับว่าการมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาร่วมในฐานะศิลปินและผู้ชม ทั้งมีส่วนกำหนดและเลือกสรรรูปแบบการแสดงก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ผู้มีอำนาจในการประดิษฐ์ประเพณีไม่ได้เป็นระดับผู้ประกอบการแต่เพียงฝ่ายเดียว

ถึงตรงนี้หากมีผู้ลงทุน “แห่” ความสำเร็จเนื่องในโอกาสคว้าแชมป์ลีกของลิเวอร์พูล ด้วย “รถแห่” แบบอีสาน ความพยายามเชื่อมโยงของผู้เขียนย่อมไม่เสียแรงเปล่า (ฮา)

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

รุ่งลดิศ จตุรไพศาล. รถแห่: สื่อการแสดงพื้นบ้านในการสืบทอดประเพณีประดิษฐ์ของกลุ่มวัยรุ่นอีสาน. มนุษยศาสตร์สาร, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีที่ 25 ฉบับที่ 1.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 เมษายน 2568