“หน้าหนาว” สมัยรัชกาลที่ 1-3 คนแต่งตัวกันอย่างไร?

น้ำมันมหาปะไลยกัลป์ หน้าหนาว เจ้านายและขุนนางอยุธยาป่วย
ภาพจิตรกรรมไทยในสมุดข่อย ชาวบ้านกำลังช่วยกันปรุงยารักษาโรค (ภาพจาก Henry Ginsburg, Thai Art and Culture Historic Manuscripts from Western Collections (Chiang Mai: Silkworm Books, 2000), p.64.)

ช่วงนี้อากาศหนาวมาเยือนประเทศไทยนานกว่าที่เคย หลายคนคงจะขุดเสื้อกันหนาวมาใส่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แต่เคยสงสัยไหมว่า ในสมัยก่อนที่แฟชั่นเสื้อผ้ายังไม่พัฒนามากขนาดนี้ คนสมัยรัชกาลที่ 1-3 แต่งตัวอย่างไรในช่วง “หน้าหนาว”

มฆมาณพพร้อมเพื่อนและภรรยา กำลังสร้างศาลาที่พักริมทาง ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในหอไตรวัดระฆังโฆษิตาราม ฝีมือพระอาจารย์นาค จิตรกรเอกในสมัยรัชกาลที่ ๑

สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้คนได้รับรูปแบบการแต่งตัวมาจากอยุธยา มักไม่สวมเสื้อท่อนบนและมักนุ่งผ้า นุ่งโจงกระเบน หรือห่มผ้าเป็นหลัก ไม่ได้นุ่งกางเกงเหมือนปัจจุบัน ในทุกชนชั้น

หลักฐานของ เฮนรี เบอร์นี ราชทูตอังกฤษที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บันทึกถึงฉลองพระองค์ของกษัตริย์และขุนนาง ไว้ว่า…

“ข้าพเจ้าก็มองเห็นพระองค์ท่านกับวังหน้า ฉลองพระองค์แบบธรรมดาคือมีผ้าพันรอบพระกายเพียงชั้นเดียว”

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการแต่งตัวของพระยาวิเศษว่า… “ท่านเป็นคนตัวใหญ่ ผิวดำ อายุประมาณ 38 ปี และเวลาอยู่บ้าน ท่านมักจะไม่ใส่อะไรเลยนอกจากผ้าขาวม้ามาสดราสพันรอบตัว”

รวมถึง เซอร์จอห์น เบาริ่ง ราชทูตอังกฤษ สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็บันทึกการแต่งตัวของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ไว้ว่า…

(ซ้าย) สมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) หรือ “สมเด็จพระองค์ใหญ่” ขุนนางผู้กุมอำนาจสูงสุดในสมัยรัชกาลที่ 3 และ 4 เป็นผู้สนับสนุนเจ้าฟ้ามงกุฎขึ้นครองราชสมบัติ ซึ่งเป็นการฝังรากฐานของตระกูลบุนนาคให้มั่นคงต่อมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5
(ขวา) สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) หรือ “สมเด็จองค์น้อย” น้องชายร่วมสายเลือดของสมเด็จองค์ใหญ่ ไต่เต้าจากตำแหน่งจมื่นเด็กชาในสมัยรัชกาลที่ 3 จนกระทั่งมีอำนาจทางการเมืองไม่ด้อยกว่าพี่ชาย

“…แต่งตัวนุ่งจีบ คาดเข็มขัดเพชร แต่ตัวเปล่าไม่สวมเสื้อ”

ด้านการแต่งตัวของชาวบ้านทั่วไปก็ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังของวัดวาอารามต่าง ๆ จะเห็นว่าแต่ละคนล้วนนุ่งผ้า ห่มผ้า และไม่นิยมสวมเสื้อทั้งสิ้น แม้แต่เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าแผ่นดิน ขุนนางเองก็จะไม่สวมเสื้อ

ยกเว้นหน้าหนาวเท่านั้น…

เมื่อเข้าฤดูหนาวการแต่งตัวของผู้คนในยุคนั้นจะสวมใส่ชุดท่อนบน ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 ฉบับเจ้าพระยาทิพยากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) พูดถึงการแต่งกายช่วงฤดูหนาวไว้ว่า…

“ถ้าฤดูหนาว เจ้า ทรงเสื้อสีชั้นเดียว คาดส่านบ้าง แพรสีบ้าง ขุนนาง สวมเสื้อเข้มขาบ อัตลัด แพรสี ๒ ชั้นที่ได้พระราชทาน เสนาบดี คาดส่าน ถ้าวันไหนไม่หนาวหรือฤดูร้อน ผู้ใดสวมเสื้อเข้ามาก็ไม่โปรด”

ทว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่อากาศหนาวจะได้สวมเสื้อผ้า เพราะบันทึกรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยกล่าวถึงการแต่งตัวเมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินในสมัยนั้นว่า…

“ข้าราชการมาจากบ้านมักเอาเสื้อคลุมมาด้วย ถ้าพระเจ้าแผ่นดินไม่ทรงฉลองพระองค์ ก็ต้องถอด หนาวแสนหนาวก็ต้องทนเอา บางคราวกำลังเฝ้า พระเจ้าแผ่นดินทรงเรียกฉลองพระองค์มาสวมก็มี จนเป็นที่สังเกตกันว่า เมื่อไรพระถันหด ข้าราชการก็ดีใจจะได้สวมเสื้อ”

การสวมเสื้อผ้าถือเป็นเรื่องพิเศษมากในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จะเห็นว่าหากไม่ใช่ฤดูหนาว ผู้คนไม่ว่าจะชนชั้นไหนล้วนไม่ใส่เสื้อท่อนบน นิยมสวมท่อนล่าง ต่อมาสยามได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมากขึ้น จึงเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวให้มิดชิด ปรับตัวเข้ากับความเป็นสมัยใหม่

การแต่งตัวที่เปลือยด้านบนทั้งหญิงและชายจึงค่อย ๆ หายไปจากสยาม กลายเป็นสิ่งที่คนไม่นิยมปฏิบัติกัน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม 2568