
ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
“ศรีธนญชัย” ไม่มีตัวตนจริง เป็นแต่เพียงเรื่องเล่าของผู้มีปฏิภาณไหวพริบและความเฉลียวฉลาดอย่างมีอารมณ์ขันเชิงเสียดสี เยาะเย้ย ถากถางสังคมและชนชั้นนำ
ศรีธนญชัยเป็นคำบอกเล่าปากต่อปาก สมัยแรก ๆ ยังไม่มีบันทึกลายลักษณ์อักษร ไม่รู้ว่าเริ่มจากไหนและแพร่หลายได้อย่างไรบ้าง ต่อมาจึงมีผู้แต่งเป็นร้อยกรอง เป็นกาพย์กลอนแบบต่าง ๆ ตามความนิยมของท้องถิ่น สำหรับขับลำเป็นนิทาน หรืออ่านเป็นทำนองเสนาะ
เมื่อถึงยุคที่มีการตีพิมพ์และมีคนอ่านออกเขียนได้มากขึ้น จึงมีผู้เรียบเรียงศรีธนญชัยออกมาเป็นร้อยแก้วในหลายสำนวน ในภาคกลางและภาคใต้เรียกชื่อตัวเอกว่า ศรีธนญชัย ส่วนภาคเหนือและภาคอีสานเรียก เชียงเมี่ยง

ข้อสังเกตคือ ทั้งอุษาคเนย์มีนิทานแบบศรีธนญชัยร่วมกัน ในกัมพูชากับเวียดนามจะคล้ายศรีธนญชัยสำนวนภาคกลางของไทยมาก เชียงเมี่ยงของลาวก็แทบจะเป็นเรื่องเดียวกับเชียงเมี่ยงของภาคอีสาน หรือ “อาบูนาวัส” ของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีอยู่หนึ่งตอนที่เรื่องราวตรงกับของไทยเป๊ะ ที่ต่างเห็นจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยจากความต่างด้านสภาพสังคม วัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ของแต่ละชาติ
ที่สำคัญคือ แม้ทุกชาติจะมีจำนวนตอนและความซับซ้อนของเนื้อเรื่องน้อยกว่าบ้านเรา แต่โครงเรื่องตลอดจนแนวคิด อุปนิสัยของตัวเอกนั้นคล้ายกันมาก จนยากจะปฏิเสธว่ามิได้มีแหล่งที่มาเดียวกัน
แต่ใครกันล่ะ “ต้นฉบับ” ของตัวละครเอกนี้?
สุจิตต์ วงษ์เทศ เล่าไว้ในหนังสือ อำนาจของภาษาและวรรณกรรมไทย (สนพ. นาตาแฮก : 2566) ความว่า ศรีธนญชัยไม่ใช่วรรณกรรมพื้นเมืองของไทยและภูมิภาคอุษาคเนย์ด้วยซ้ำ แต่มีกำเนิดอยู่ในโลกมุสลิม มีผู้รู้ด้านวรรณกรรมไทยและนานาชาติวิเคราะห์ไว้ว่า ศรีธนญชัยได้เค้าโครงเรื่องจาก “นัสรูดิน”
นัสรูดิน เป็นชื่อของตัวละครเอกในนิทานของโลกอาหรับ มีสมญาคนเจ้าปัญญา บ้างว่านัสรูดินเจ้าสำราญ เรื่องเล่านัสรูดินมีความเก่าแก่ถึง 800 ปี หรือเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 18 ก่อนจะแพร่หลายกว้างขวางไปทั่วโลกผ่านการค้าและการติดต่อสัมพันธ์ทางการเมือง กระทั่งช่วง พ.ศ. 2000 หรือราว 500 ปีก่อน เรื่องราวของนัสรูดินจึงเป็นที่รู้จักในกรุงศรีอยุธยา

นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่ศรีธนญชัย เชียงเมี่ยง หรืออาบูนาวัสเท่านั้นที่เป็นอีกตัวตนของนัสรูดิน เพราะตัวละครตัวนี้ยังถูกดัดแปลงเป็นนิทานในอีกหลายประเทศด้วยชื่อต่าง ๆ เช่น พรีพล (อินเดีย) โกฉา (เปอร์เซีย) และอาฟานดี (จีน)
พูดถึงความนิยม นอกจากความเฉลียวฉลาดของศรีธนญชัย (ทุกเวอร์ชัน) ที่น่าสนใจและถูกจริตชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปแล้ว สิ่งที่ทำให้คนจดจำและชื่นชอบนิทานเรื่องนี้น่าจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชาภายในเรื่องที่มักเป็นตัวตลก ต้อง “เสียหน้า” เพราะเล่ห์เหลี่ยมของศรีธนญชัยอยู่เสมอ
อย่างในสังคมไทย ศรีธนญชัยเป็นนิทานพื้นบ้านเพียงไม่กี่เรื่องที่ผ่อนคลายความ “ตึงเครียด” จากสังคมที่เคร่งครัดกับระบบชนชั้นหรือขนบธรรมเนียมประเพณีที่ประชาชนพึงปฏิบัติต่อพระราชา ซึ่งเป็นดุจเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ แต่เมื่อได้ฟังวีรกรรมของศรีธนญชัย ความเคร่งเครียดดังกล่าวก็ทุเลาลง
เพราะพระราชาในนิทานพื้นบ้านอย่างศรีธนญชัย กลายเป็นจำอวดทำตัวตลก เป็นตัวละครอ่อนแอ ขี้ขลาด และโลเล
แถมยัง “กลัวเมีย” อีกต่างหาก (ฮา)
อ่านเพิ่มเติม :
- “ศรีธนญชัย” ตัวอย่างคนฉลาดแกมโกง ต้านอำนาจที่ขาดความชอบธรรม
- เรื่องเล่า “ศรีธนญชัย” ฉบับกะเหรี่ยง ที่มีชื่อว่า “จ้อ เกอะ โด่”
- อิกคิวซัง นักบวชนิกายเซ็น ผู้มีชื่อเสียงด้าน สุรา-นารี แต่ใฝ่ธรรมะแรงกล้า
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 ตุลาคม 2567