“อะโฟรไดทิ” แม้เป็นเทพแห่งความรัก แต่หัวใจกลับแหลกสลาย

อะโฟรไดทิ เทพแห่งความรัก ใน ตำนาน เทพปกรณัมกรีก และ อะดอนิส
ภาพวาดวีนัส (อะโฟรไดทิ) และอะดอนิส ที่วาดขึ้นราวศตวรรษที่ 17 (ภาพ : Wikimedia Commons)

ในตำนาน เทพปกรณัมกรีก “อะโฟรไดทิ” คือ เทพแห่งความรัก เราอาจคิดว่านางต้องสมหวังในความรัก แต่ที่จริงแล้วหัวใจของนางกลับแหลกสลายไม่มีชิ้นดี เพราะสูญเสีย “อะดอนิส” ชายคนรักไปตลอดกาล

อะโฟรไดทิ (Aphrodite) หรือ วีนัส (Venus ชื่อที่ชาวโรมันเรียก) เป็น “เทพกัญญา” แห่งความรัก ความงาม และความอุดมสมบูรณ์ นางมีเสน่ห์มากล้นจนใครๆ ก็ต้านทานไม่ไหว ไม่ว่าเทพหรือมนุษย์ต่างก็ลุ่มหลงนางทั้งสิ้น

วันหนึ่ง เทพกัญญาแห่งความรักผ่านต้นเมอร์ (Myrrh) ทันใดนั้นนางก็สังเกตเห็นทารกนาม อะดอนิส (Adonis) นอนอยู่ใต้ต้นไม้ เมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามเข้า อะโฟรไดทิก็ตกหลุมรักทารกน้อยทันที และตัดสินใจนำอะดอนิสไปด้วย

เทพแห่งความรัก อุ้มเขาไว้แนบอก และรีบรุดไปหา เพอร์เซโฟเน (Persephone) ราชินีของ เฮเดส (Hades) เทพแห่งยมโลก เพื่อให้นางช่วยเลี้ยงดูอะดอนิส เวลาผ่านปีแล้วปีเล่า อะดอนิสเติบโตเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลางดงามกว่ามนุษย์คนใด เพอร์เซโฟเนเห็นเช่นนั้นก็ตกหลุมรักอะดอนิส และตัดสินใจจะเก็บเขาไว้เป็นของนางแต่ผู้เดียว

เมื่ออะโฟรไดทิไปรับตัวอะดอนิสคืนจากดินแดนยมโลก เพอร์เซโฟเนกลับไม่ให้ เรื่องราวลุกลามใหญ่โต ร้อนถึง ซุส (Zeus) มหาเทพแห่งเขาโอลิมปัส ต้องมาตัดสิน

ซุสตัดสินให้อะดอนิสใช้เวลาครึ่งปีกับเทพกัญญาแต่ละองค์ ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวกับเพอร์เซโฟเน ราชินีแห่งยมโลก ส่วนฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนกับอะโฟรไดทิ เทพแห่งความรักและความงาม

เทพปกรณัมกรีก เล่าอีกว่า อะโฟรไดทิรักอะดอนิสอย่างที่สุด นางไม่สนใจเหล่าทวยเทพแห่งโอลิมปัสและสรวงสวรรค์ใดๆ สายตาของนางมีไว้เพื่อเขาเท่านั้น และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้อะดอนิสมีความสุขที่สุด

เมื่ออะดอนิสชอบล่าสัตว์ อะโฟรไดทิก็ไม่รีรอที่จะผละจากราชรถลากด้วยหงส์ เดินตามชายคนรักเข้าไปในป่า แม้เส้นทางจะลำบากแค่ไหนก็ตาม ขอแค่มีกันและกันทุกช่วงเวลาเท่านั้นก็พอ

แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่อะดอนิสเข้าป่าล่าสัตว์ก็ไปเจอหมูป่าตัวหนึ่งเข้า เขาพยายามไล่ล่ามันอย่างไม่ลดละ ฝูงสุนัขล่าเนื้อของเขาตามล่ามันไปกระทั่งจนมุม อะดอนิสขว้างหอกใส่หมูป่าแต่ไม่ตาย ทำให้มันโกรธจัดและบ้าคลั่ง จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่ชายหนุ่ม และใช้เขี้ยว 2 ข้างแทงจนเลือดสาด

อะโฟรไดทิได้ยินเสียงร้องครวญครางอย่างโหยหวนของคนรักก็รีบไปหาทันที แต่ช้าไปแล้ว อะดอนิส หนุ่มคนรักหายใจรวยริน เลือดไหลท่วมตัว ก่อนจะค่อยๆ หมดลมในที่สุด ทิ้งให้อะโฟรไดทิเศร้าโศกเสียใจอย่างเดียวดาย

การตายของอะดอนิสนี่เองที่เป็นตำนานของดอกไม้ชนิดหนึ่ง เพราะบริเวณที่อะดอนิสสิ้นใจตาย เกิดดอกไม้สีแดงเลือดนกงอกเงยขึ้นมา เรียกว่า “ดอกอะดอนิส”

หมายเหตุ : ชื่อ อะโฟรไดทิ สะกดตามหนังสือที่ใช้อ้างอิง ชื่อนี้บางแห่งก็สะกดว่า อโฟรไดต์

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


 อ้างอิง :

แฮมิลตัน, เอดิธ. นพมาส แววหงส์, แปล. ปกรณัมปรัมปรา ตำนานเทพและวีรบุรุษกรีก-โรมัน-นอร์ส ฉบับมีภาพประกอบ. กรุงเทพฯ : โซเฟีย อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์, 2567.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 พฤษภาคม 2567