“กาแฟใส่น้ำตาล” ไม่ได้เกิดเพื่อลดความขม แต่เพราะราคาน้ำตาลโลกตกต่ำ

ผู้เขียน	วิภา จิรภาไพศาล
เผยแพร่	วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ.2567

ปัจจุบัน การดื่ม “กาแฟใส่น้ำตาล” สักแก้วหนึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และคุ้นเคยยิ่ง แต่ในประวัติศาสตร์ของกาแฟ กว่าจะมีการเติม “น้ำตาล” ลงในกาแฟแก้วแรกนั้น ต้องรอเป็นศตวรรษทีเดียว ทั้งยังไม่ได้เกิดเพราะต้องการลดความขม แต่เพราะราคาน้ำตาลโลกตกต่ำ

ศตวรรษที่ 15 ผู้นำนิกายซูฟีในเมืองท่ามอคคา ประเทศเยเมน เป็นผู้คิดค้นการคั่ว การบด และการชงกาแฟ แต่กาแฟที่ชงไม่มีการกรองกากออก กาแฟที่ได้จึงมีลักษณะข้นเหลวคล้ายโคลน ขณะนั้นมีการปลูกอ้อยในดินแดนตะวันออกกลางและผลิตน้ำตาลที่รับมาจากอินเดียกว่าร้อยปีก่อนการรู้จักกาแฟ

แต่ตอนนั้นก็ไม่มี กาแฟใส่น้ำตาล หรือกาแฟใส่นม เนื่องจากมีคำกล่าวอ้างว่า หากเอาน้ำตาลหรือนมมาผสมกับกาแฟ อาจทำให้เป็นโรคเรื้อน แต่กลับมีการเติม “กระวาน” ลงในกาแฟ รวมถึงมีการใส่ฝิ่นหรือกัญชาลงไปคนในกาแฟด้วย

ปลายศตวรรษที่ 17 คือ ค.ศ. 1683 มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะกาแฟจากที่กล่าวไปข้างต้น โดยการกรองเอากากกาแฟออก ทำให้กาแฟเหลวเป็นน้ำ ครั้งนี้มีการเติม “น้ำผึ้ง” กับ “นม” เข้าไปด้วย การปรุงกาแฟแบบใหม่นี้มีเสียงตอบรับที่ดี และค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วทั้งยุโรป ผ่านทางพ่อค้าหลายชาติ ส่วน “น้ำตาล” ยังคงถูกเมินเช่นเคย

เพราะขณะนั้น สารให้ความหวานซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุด นิยมใช้มากที่สุดในสมัยโรมัน และได้รับความนิยมมาตลอดช่วงสมัยกลาง คือ “น้ำผึ้ง” แม้น้ำผึ้งนั้นหายากและมีราคาแพงก็ตามที แต่ก็ยังเลือกที่จะไม่ใช้น้ำตาลเติมกาแฟ

แม้ว่าคนยุโรปเริ่มรู้จักกับน้ำตาลทราย ตั้งแต่ ค.ศ. 1000 ผ่านทางการทำสงครามครูเสด และเมื่อยุโรปเกิดการปฏิวัติการเกษตรขึ้นในศตวรรษที่ 15 มีการนำอ้อยเข้ามาทดลองปลูกในแถบเมดิเตอร์เรเนียนช่วงฤดูร้อน ตลอดจนพัฒนาวิธีการสกัดน้ำมันมะกอก มาใช้คั้นน้ำอ้อยกับทำให้น้ำตาลตกผลึก ฯลฯ แต่น้ำตาลก็จะได้แค่เฉียดแก้วกาแฟเท่านั้น

แล้ว “น้ำตาล” ได้มีโอกาสปรุงรส ”กาแฟ” ให้กลมกล่อมขึ้นเมื่อใด

เมื่อเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 มีการผลิตน้ำตาลออกมาเป็นจำนวนมาก จนราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกลงมาก ทำให้มีความพยายามที่จะนำน้ำตาลมาผลิตเป็นสินค้าอื่นๆ เช่น แยม, ลูกกวาด ฯลฯ รวมถึงการนำน้ำตาลมาใช้ประกอบอาหารมากขึ้น รวมถึงการใส่น้ำตาลในกาแฟแทนการใส่น้ำผึ้งเพื่อลดความขม

กาแฟใส่น้ำตาล จึงเกิดด้วยเหตุนี้

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่