ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
พระยม (Yama) เทพประจำทิศ “ทักษิณ” (ทิศใต้) เป็นที่รู้จักในหลายพระนาม ทั้งพญายม พระยมราช มัจจุราช และ ธรรมเทพ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 อธิบายความหมายของ “ยม” ว่า “เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ประจำโลกของคนตาย” และอธิบายความหมายของ “มัจจุราช” ไว้ว่า “เจ้าแห่งความตาย คือ พญายม”
ส่วนคำว่า “ยมทูต” หมายถึง “ผู้นำคนตายไปยังบัลลังก์พระยมเพื่อรอคำตัดสิน” ว่าง่าย ๆ คือเป็นบริวารของพระยมนั่นเอง
ในคติพราหมณ์-ฮินดู พระยมเป็นหนึ่งในเทพประจำทิศทั้ง 8 ซึ่งจะต่างจากพุทธศาสนาที่มีท้าวมหาราชทั้ง 4 หรือจตุโลกบาล โดยทิศใต้มีท้าววิรุฬหกเป็นผู้ปกครอง ขณะที่ฝ่ายฮินดูเป็นพระยม ทั้งนี้ พระยมเป็น “เทพแห่งความตาย” และ “เจ้าแห่งนรก” ดำรงอยู่ฐานะผู้ตัดสินคดีคนที่สิ้นชีพไปแล้ว
ตำนานประวัติของ พระยม มีหลายกระแส บ้างว่าเป็นกษัตริย์ครองเมืองเวศาลี ผู้ตั้งจิตอธิษฐานอย่างแน่วแน่ว่า หากตายแล้วขอไปจุติเป็นเจ้าแห่งนรกภูมิ ปรากฏว่าสิ้นชีพแล้วได้เป็นพระยมเจ้าแห่งนรกจริงอย่างที่ตั้งใจไว้ ทั้งมีข้าทาสบริวารแวดล้อมในแดนนรกเป็นจำนวนมาก
อีกตำนานระบุว่า พระยมเป็นโอรสของพระวิวัสวัต หรือสุริยาทิตย์ (พระอาทิตย์) กับพระนางสัญญา (บางเอกสารเรียกว่านางศรันยา) มีฝาแฝดนามว่า ยมุนา พระยมครองเมืองยมปุระ (ยมโลก) ซึ่งอยู่ขอบจักรวาลด้านทิศ ทักษิณ เป็นเทพเจ้าผู้มีรูปร่างใหญ่โต มี 4 กร พระพักตร์ดุร้าย ผิวพรรณเลื่อมประภัสสรเหมือนแก้ว พระวรกายสีดำ บางตำราว่ามีพระวรกายสีเขียวเข้ม ทรงพระภูษาสีแดง ทรงถือยมทัณฑ์ (คทาใหญ่) ชื่อ “กาลทัณฑ์” และยมบาส (บ่วงบาศ) เป็นเชือกสำหรับมัดจับสัตว์บาปทั้งหลาย มีชายา 13 นาง ทั้งหมดเป็นธิดาของพระทักษะประชาบดี
พระยมมีกระบือเป็นพาหนะ นามว่า “ทุณพี” พร้อมสัตว์เลี้ยงเป็นสุนัข 2 ตัวชื่อ “สามะ” (ดำ) และ “สวละ” (ด่าง) เป็นสุนัข 4 ตา รูจมูกกว้างผิดแผกไปจากสุนัขทั่วไป มีบริวารคือ “ยมทูต” ทำหน้าที่เป็นคนเดินสาร นำดวงวิญญาณคนตายมายังยมโลก มี “ยมบาล” เป็นผู้คุมนักโทษในนรก มี “จิตรคุปต์” เป็นผู้ทำหน้าที่นายทะเบียนและที่ปรึกษา คอยบันทึกกรรมดีกรรมชั่วไว้ในสมุดอัครสันธานี มี “ฉันทะ” กับ “กาลบุรุษ” เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด และมี “ไวธยต” เป็นคนเฝ้าประตูปราสาทแห่งยมโลก
พระยมถูกกล่าวถึงในวรรณคดีของอินเดียในเชิงเทพเจ้าผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรม อย่างใน มหาภารตะ พระยมคือ “ธรรมเทพ” หรือธรรมราช ผู้ประทานโอรสแก่พระนางกุนตี พระมเหสีของท้าวปาณฑุ นามว่า “ยุธิษฐิระ” บุตรคนแรกของกลุ่มพี่น้องปาณฑพ ยุธิษฐิระมีอุปนิสัยสำคัญคือ เป็นผู้รักคุณธรรมและรู้หลักธรรม ตอนวณบรรพ เมื่อพี่น้องปาณฑพถูกเนรเทศไปอยู่ในป่า มีพระฤๅษีเล่าเรื่อง สาวิตรี ให้เหล่าปาณฑพฟัง โดยเป็นเรื่องราวของนางสาวิตรี ชายาของพระสัตยวาน ผู้สามารถเอาชนะใจพระธรรมเทพด้วยหลักธรรม นางจึงขอพรพระธรรมเทพให้ช่วยพระสัตยวานฟื้นคืนพระชนม์ชีพ
ตอนสวรรคโรหณบรรพ ภายหลังมหาสงครามทุ่งราบกุรุเกษตรระหว่างฝ่ายปาณฑพกับเการพสิ้นสุด พี่น้องปาณฑพพากันเดินทางไปสู่เขาหิมาลัย ระหว่างทางน้อง ๆ ของยุธิษฐิระทยอยสิ้นชีพไปทีละพระองค์ นี้เอง พระธรรมเทพแปลงเป็นสุนัขมาทดสอบคุณธรรมของพระโอรส ปรากฏว่ายุธิษฐิระผ่านบททดสอบทั้งหมด จึงสามารถเดินทางไปถึงสวรรค์เป็นผลสำเร็จ
พระยมยังมีอีกนามหนึ่งว่า “ศิรณบาท” แปลว่า “ผู้มีเท้าเน่า” เรื่องเล่าเบื้องหลังพระนามนี้มีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งพระยมใช้พระบาทเตะนางฉายา ผู้ที่นางสัญญา (มารดา) ให้อยู่แทนตนเมื่อคราวพระนางหนีไปจากพระสุริยาทิตย์ เพระทนรัศมีอันร้อนแรงของพระสวามี (พระอาทิตย์) ไม่ไหว การกระทำดังกล่าวของพระยมทำให้นางฉายาพิโรธ จึงสาปให้พระยมมีแผลและหนอนกัดกินขา ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส พระสุริยาทิตย์นึกสงสารพระโอรส จึงประทานไก่ตัวผู้ให้ 1 ตัว คอยจิกหนอนบนแผลจนหายเป็นปกติ
แม้พระยมจะเป็นเทพฮินดู แต่หลักฐานการเคารพนับถือเทพองค์นี้ในพื้นที่ต่าง ๆ ของไทยและภูมิภาคอุษาคเนย์ ทั้งในฐานะเทพเจ้าประจำทิศใต้ และเจ้าแห่งโลกหลังความตาย ดังจะพบโบราณวัตถุที่เกี่ยวกับพระยมในศาสนาพราหมณ์หลายแห่ง เช่น กลีบขนุนสลักภาพพระยมทรงกระบือ ที่ปราสาทพนมรุ้ง บุรีรัมย์, ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา, ปราสาทศรีขรภูมิ สุรินทร์ และพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ทุกชิ้นมีอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 ตรงกับศิลปะเขมร แบบนครวัด
นอกจากนี้ ศานสถานที่เรียกว่า “สุคตาลัย” (ส่วนหนึ่งของอโรคยศาล) ตามคติพุทธนิกายมหายาน ยังพบประติมากรรมลอยตัวรูปพระยมทรงกระบือ เช่น กู่พันนา สกลนคร กู่แก้ว ขอนแก่น อายุช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ตรงกับศิลปะบายน สะท้อนคติการนับถือพระยมในฐานะเทพเจ้าแห่งความตายและนรกภูมิ มากกว่าการเป็นเทพเจ้าประจำทิศใต้ เพราะไม่พบเทพประจำทิศองค์อื่น ๆ
ในจารึกปราสาทพระขรรค์ เมืองพระนคร ยังมีข้อความกล่าวถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์เขมรโบราณว่า ทรงส่งรูปประติมากรรม “พระยม” ไปทั่วราชอาณาจักรของพระองค์
อ่านเพิ่มเติม :
- “พระพิฆเนศ” มหาเทพที่เก่าแก่กว่าพระอิศวร? จากเทพพื้นเมือง ปรุงแต่งเป็นเทพฮินดู
- “พระตรีมูรติ” ภาวะรวมร่าง 3 มหาเทพ กับเทวรูปหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่คนไปขอพรความรัก
- ทำไม “มาร” ของคนอินเดียคือ “กามเทพ” ผู้พลีชีพเพื่อความสุข-ความรักแห่งทวยเทพ
อ้างอิง :
มาลัย (จุฆารัตน์). (2562). กำเนิดเทวดา. กรุงเทพฯ : สถาพรบุ๊ค.
สุรศักดิ์ ทอง. (2553). สยามเทวะ . กรุงเทพฯ : มติชน.
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์. บันแถลงพระยมทรงกระบือ. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2566. (ออนไลน์)
พิพิธภัณสถานแห่งชาติ พระนคร, กรมศิลปากร. พระยม’เทพประจำทิศใต้ ที่ปรากฏบนทับหลังปราสาทหนองหงส์. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2566. (ออนไลน์)
สำรวย นักการเรียน, สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. พระยม. 4 กรกฎาคม 2551. (ออนไลน์)
เสฐียรโกเศศ. (2497). เรื่องเมืองสวรรค์. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร. พิมพ์อุทิศในงานฌาปนกิจศพ นางล้วน คุ้มรอด. (ออนไลน์)
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 21 สิงหาคม 2566