ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“ทะแม่ง” หรือ “ทะแม่ง ๆ” หากค้นในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2554 จะพบว่าแปลได้ 2 ความหมาย คือ มีกลิ่นหรือรสผิดปกติ และมีลักษณะลับลมคมในหรือมีอะไรเคลือบแฝงอยู่ทำให้น่าสงสัย เช่น เรื่องนี้มีกลิ่นทะแม่ง ๆ, รู้สึกว่าเรื่องนี้มันทะแม่ง ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนข้องเกี่ยวกับกลิ่นประหลาดหรือความไม่ปกติซึ่งน่าจะเป็นที่มาของคำนี้ ว่าแต่ความผิดปกติที่ว่ามีต้นตอมาจากอะไร?
ความผิดปกติที่ใครหลายคนอาจสงสัย ขอเฉลยเลยแล้วกันว่ามาจากชื่อของ “กะปิมอญ” ถ้าใครหลายคนได้ยินครั้งแรกก็คงตกใจ แต่อย่าลืมว่าประเทศไทยมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาตั้งแต่โบราณ เป็นพื้นที่รวมคนจากหลายพื้นที่ เช่น มอญ ลาว จีน ฯลฯ จึงปรากฏและเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ปรากฏในบทความ “ปลาร้ามอญมีมาแต่ทวารวดี (ฮะร่อกกะ)” ขององค์ บรรจุน ในศิลปวัฒนธรรมฉบับเมษายน 2555 และเป็นที่มาของคำว่าทะแม่งซึ่งเกิดจากความสงสัยใคร่รู้และแปลกประหลาดของคนไทยต่อ “กะปิมอญ” ไว้ว่า
“นอกจากนั้น หากอะไรที่กลิ่นไม่ดี การกระทําที่ดูไม่ชอบมาพากล เราก็พูดกันว่า ‘มีกลิ่นทะแม่ง ๆ’ สิ่งที่เราท่านเรียกอะไรก็แล้วแต่ที่มันดูทะแม่ง ๆ นี้ เกิดจากคนมอญขณะที่กําลังตากปลาทํากะปิ ระหว่างนั้นกลิ่นมันคงจะตุ ๆ ชอบกล คนไทย (ตามเคย) ที่เดินผ่านจึงถามว่า ‘ทําอะไร’ คนมอญก็ตอบว่า ‘ทํากะปิ’ ซึ่งกะปิในภาษามอญนั้นถ้าเรียกให้เต็มยศก็ต้องว่า ‘ฮะรอกฮะแหม่ง’
มอญคงจะทําปลาร้าขึ้นก่อน โดยคนมอญเรียกปลาร้าว่า ฮะรอก แล้วเมื่อเกิดกะปิขึ้นตามมาทีหลังจึงเรียกกะปิว่า ฮะรอกฮะแหม่ง และเป็นที่มาของคําว่าทะแม่งอย่างที่เราพูดกันติดปากจนทุกวันนี้”
อ่านเพิ่มเติม :
- เปิดที่มาคำว่า “หยก” อัญมณีล้ำค่าของชาวจีน
- “เสี่ย” คำเรียกแทนชายฐานะดีมีระดับที่มีประวัติยาวนานก่อนคริสต์ศักราช!
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 กรกฎาคม 2566