6 มีนาคม 1967: ลูกสาวคนเดียวของ “สตาลิน” แปรพักตร์ ขอลี้ภัยในสหรัฐฯ

โจเซฟ สตาลิน กับ ลูกสาว สเวตลานา อัลลีลูเยวา
โจเซฟ สตาลิน กับลูกสาว สเวตลานา ภาพถ่ายเมื่อปี 1935 (พ.ศ. 2478)

สเวตลานา อัลลีลูเยวา (Svetlana Alliluyeva บ้างสะกดว่า Allilueva) (28 กุมภาพันธ์ 1926 – 22 พฤศจิกายน 2011) เดิมชื่อ สเวตลานา อีโอซีฟอฟนา สตาลินา (Svetlana Iosifovna Stalina) และเป็นที่รู้จักในภายหลังว่า ลานา ปีเตอร์ส (Lana Peters) หลังแต่งงานกับสามีชาวอเมริกัน เป็นลูกสาวคนเดียวของ โจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำเผด็จการของสหภาพโซเวียต ที่เกิดกับภรรยาคนที่สองของเขา คือ นาเดชา อัลลีลูเยวา (Nadezhda Aliluyeva)

นอกจากอัลลีลูเยวาแล้ว โจเซฟ สตาลิน ยังมีลูกชายอีกสองคน ลูกชายคนโต ยาคอฟ (Yakov) ซึ่งเกิดกับภรรยาคนแรกของสตาลิน เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในค่ายนาซี หลังนาซีขอแลกตัวเขากับเชลยที่อยู่ในความควบคุมของโซเวียต แต่ถูกปฏิเสธ ยาคอฟจึงถูกสังหาร ลูกชายคนรอง วาสิลี (Vasily) ที่เกิดกับภรรยาคนที่สองเช่นเดียวกับอัลลีลูเยวา รับใช้กองทัพด้วยการเป็นทหารอากาศ เคยก้าวหน้าถึงขั้นได้รับตำแหน่งพลโท แต่เมื่อสตาลินเสียชีวิตในปี 1953 (พ.ศ. 2496) วาสิลีก็ถูกลดขั้นเหลือเพียงยศพันตรี และถูกถอดจากภารกิจทางการบินทั้งหมด ก่อนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในปี 1962 (พ.ศ. 2505)

อัลลีลูเยวา ต้องเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่นนัก พ่อและแม่ของเธอมักมีปากเสียงกันเป็นประจำ ก่อนที่แม่ของเธอจะฆ่าตัวตายตั้งแต่เธออายุได้เพียง 6 ขวบ หลังจากที่แม่ของเธอมีปากเสียงกับ สตาลิน ในงานเลี้ยงอาหารค่ำฉลอง 15 ปีการปฏิวัติเดือนตุลาคม (บางคนไม่เชื่อและคิดว่าอาจเป็นฝีมือหรือคำสั่งของสตาลิน แต่อัลลีลูเยวายืนยันว่าแม่ยิงตัวตายเอง แม้เธอจะรู้ความจริงหลังจากนั้นเป็นสิบปี เพราะก่อนหน้านั้นมีคนบอกว่า แม่เธอตายเพราะโรคไส้ติ่งอักเสบ)

อัลลีลูเยวา เรียนจบจากมหาวิทยาลัยมอสโก ทำงานเป็นอาจารย์สอนด้านวรรณกรรมรัสเซียและภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะหันมาทำงานแปลวรรณกรรมรัสเซียเป็นภาษาอังกฤษ หลังจากสตาลินเสียชีวิต

ในช่วงทศวรรษ 1960 หลังจากผ่านการหย่าร้างมาแล้ว 2 ครั้ง เธอได้พบรักกับ บริเจช ซิงห์ (Brijesh Singh) คอมมิวนิสต์อินเดียที่เดินทางมาเยือนกรุงมอสโก เธอต้องการจะแต่งงานกับเขา แต่เจ้าหน้าที่โซเวียตไม่อนุญาต เมื่อซิงห์ถึงแก่ความตาย ทางการโซเวียตจึงยอมให้เธอเดินทางไปยังอินเดีย เพื่อนำอัฐิของคนรักกลับไปยังบ้านเกิดในปี 1967 (พ.ศ. 2510)

อัลลีลูเยวา ระหว่างการแถลงข่าวในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 27 เมษายน 1967 (พ.ศ. 2510) หลังการขอลี้ภัยมายังสหรัฐฯ (AFP PHOTO)

ในวันที่ 6 มีนาคม 1967 (พ.ศ. 2510) เธอได้ขอความช่วยเหลือจากสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงนิวเดลี เพื่อขอลี้ภัย ทางการสหรัฐฯ จึงช่วยเธอหลบหนีไปยังอิตาลี โดยเดินทางผ่านประเทศเป็นกลางอย่างสวิสเซอร์แลนด์ เบื้องต้นสหรัฐฯ ยังลังเลว่าจะยอมรับเธอเข้าประเทศในฐานะผู้ลี้ภัยหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตอบรับด้วยเหตุผลทางด้านมนุษยชน

เป็นที่ทราบในภายหลังว่า ขณะนั้น KGB องค์กรสายลับของโซเวียตวางแผนที่จะลอบสังหารอัลลีลูเยวา แต่ต้องล้มเลิกแผนการไป เพราะเกรงว่าการลอบสังหารในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ถูกเปิดโปงได้ง่าย

อัลลีลูเยวา เดินทางถึงสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน ปีเดียวกัน บรรดาช่างภาพและนักข่าวจำนวนมากมารอรับที่สนามบิน ต่อมาได้จัดงานแถลงข่าวประณามการปกครองของรัฐบาลโซเวียต และกลายมาเป็นผู้แปรพักตร์ที่โด่งดังที่สุดในยุคสงครามเย็น นอกจากนี้ งานเขียนบันทึกความทรงจำของอัลลีลูเยวาก็สร้างรายได้เป็นจำนวนมหาศาล

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

Martin, Douglas. “Lana Peters, Stalin’s Daughter, Dies at 85”. The New York Times (28 Nov 2011). <http://www.nytimes.com/2011/11/29/world/europe/stalins-daughter-dies-at-85.html> Accessed 6 Mar 2017.

“State Department Acknowledges Stalin’s Daughter Sought Asylum in the U.S.”. The New York Times (15 Mar 1967). <https://timesmachine.nytimes.com/timesmachine/1967/03/15/90293936.html?pageNumber=22> Accessed 6 Mar 2017.

Alliluyeva, Svetlana. “How My Mother Killed Herself”. The New York Times (14 Sep 1967). <https://timesmachine.nytimes.com/timesmachine/1967/09/14/83134529.html?pageNumber=1> Accessed 6 Mar 2017.

“Svetlana Alliluyeva”. Encyclopedia Britannica 28 Nov 2011 <https://global.britannica.com/biography/Svetlana-Alliluyeva> Accessed 6 Mar 2017.

“Moscow Calls Trip of Defector Private”. The New York Times (13 Mar 1967). <https://timesmachine.nytimes.com/timesmachine/1967/03/13/90289972.html?pageNumber=1> Accessed 6 Mar 2017


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 6 มีนาคม 2560