เผยแพร่ |
---|
“—ผู้ก่อการ [คณะราษฎร] เขาถามฉันว่า พวกเด็กๆ ที่ร่วมก่อการเขาเหนื่อยกัน ฉันจะมีอะไรให้เขาบ้าง ฉันก็เลยประชดไปว่า ฉันมีแต่บ้าน อยากได้ก็เอาไปซิ เขาเลยเอาจริงๆ—” พระดำรัสของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
พระดำรัสนี้ทรงตรัสกับนายนราภิบาล (ศิลป์ เทศะแพทย์) เลขานุการส่วนพระองค์ เป็นครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับ “บ้าน” ซึ่งทรงหมายถึง “วังบางขุนพรหม” ก่อนจะเสด็จออกจากประเทศไทยไปประทับ ณ เมืองบันดุง เกาะชวา
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์พินิต เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประสูติแต่สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี เป็นพระราชโอรสที่ทรงมีพระสติปัญญาเฉลียวฉลาดและทรงมีพระจริยวัตรอันงดงาม และทรงเป็นพระราชโอรสองค์สำคัญที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงคาดหวังให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
โดยสยามในขณะนั้น ต้องเผชิญกับปัญหาการล่าอาณานิคมของจักรวรรดิตะวันตก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบดีว่า สยามกำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย จึงทรงพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้สยามต้องตกเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติ
นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงทราบถึงปัญหาสภาพบ้านเมืองหลายด้านยังไม่ทัดเทียมนานาอารยประเทศ ซึ่งอาจทำให้สยามต้องตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบต่างชาติ หนึ่งในนโยบายที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าทรงใช้ในการพัฒนาสยามให้เจริญทัดเทียมอารยประเทศ คือส่งพระราชโอรสไปศึกษาที่ต่างประเทศ เพื่อนำวิทยาการในด้านต่างๆ กลับมาพัฒนาสยามให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคงยิ่งขึ้น และพระราชโอรสที่ทรงส่งไปนั้นมีกรมพระนครสวรรค์พินิตรวมอยู่ด้วย ทรงได้ไปศึกษาวิชาการทหารบกในประเทศเยอรมนี
อ่านเพิ่มเติม :
- กรมพระนครสวรรค์ฯ กับการปฏิรูปกองทัพเรือ ทรงขจัดหนี้-ทุจริต-ความขัดแย้งภายใน
- ย้อนเหตุบุกจับเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ เมื่อทหารไว้พระทัยกลายเป็นคณะราษฎร 2475
- เบื้องหลังชีวิตผกผันของ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต สู่การออกจากไทยหลังปฏิวัติ 2475
หมายเหตุ : คัดความเนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ “วาทะเจ้านายเล่าประวัติศาสตร์” เขียนโดย ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย, สำนักพิมพ์มติชน
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 4 มิถุนายน 2561