| ผู้เขียน | นารีรัตน์ จำปาเฟื่อง |
|---|---|
| เผยแพร่ |
โรงแรมโอเรียนเต็ล หรือชื่อเต็มๆ ว่า เดอะ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (The Mandarin Oriental Bangkok) เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพฯ เดิมชื่อว่า ดิ โอเรียนเต็ล โฮเต็ล (The Oriental Hotel) มีประวัติความเป็นมายาวนาน เพราะก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2419 ถือเป็น “โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย”
สมัยก่อน กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีการสัญจรหรือคมนาคมโดยการใช้เรือเป็นหลัก อีกทั้งผู้มาพักที่โอเรียนเต็ลส่วนมากนั้นเดินทางมาจากประเทศต่างๆ ต้องโดยสารมาทางเรือสมุทรผ่านทางปากน้ำ ดังนั้นจึงต้องสร้างท่าเรือสำหรับรับเรือเล็กจากโรงแรมไว้เพื่อไปรับไปส่งแขกของโรงแรม อำนวยความสะดวกต่อผู้เดินทางมาพัก
ด้วยรูปลักษณ์ของโรงแรมที่ทั้งหรูหรา โอ่อ่า สื่อสารความเป็นไทยผสมผสานกับสไตล์โคโลเนียลออกมาเป็นความทันสมัยได้อย่างลงตัว อีกทั้งที่ตั้งก็อยู่ใกล้กับสถานกงสุล สถานทูต และสถานที่สำคัญต่างๆ โรงแรมโอเรียนเต็ลจึงเป็นที่พักรับรองแขกบ้านแขกเมืองหรือคนสำคัญของประเทศ
โรงแรมโอเรียนเต็ลเป็น “แห่งแรก” ในหลายๆ ด้าน เนื่องด้วยยุคสมัยนั้นไฟฟ้าถือเป็นสิ่งหาได้ยากมาก ประเทศไทยเริ่มมีไฟฟ้าใช้ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2427 ที่พระบรมมหาราชวัง และหลังจากนั้น ถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นถนนที่ต่อมาจากพระบรมมหาราชวัง ได้เริ่มมีการเดินไฟฟ้ามาเรื่อยๆ ทำให้โรงแรมโอเรียนเต็ลเป็นโรงแรมแห่งแรกที่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งยังเป็นโรงแรมแห่งแรกที่มีดนตรีแจ๊ส, มีสปา, มีโคมไฟระย้านำเข้าจากตะวันตก, มีการปูพรมที่โถงทางเดิน รวมทั้งเป็นโรงแรมแห่งแรกที่ติดวอลเปเปอร์สไตล์ฝรั่งเศส เป็นต้น
วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินเยือนโรงแรมโอเรียนเต็ลเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อประเมินความสามารถและคุณภาพของโรงแรมในการรองรับพระราชอาคันตุกะจากทั่วโลก โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดโรงแรมโอเรียนเต็ลเป็นอย่างมาก
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2434 ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงตัดสินใจเลือกโรงแรมโอเรียนเต็ลไว้สำหรับรับรอง เจ้าชายนิโคลัส มงกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย (ซึ่งเป็นพระเจ้าซาร์นิโคลาสที่ 2 ใน พ.ศ. 2437) และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างโรงแรมโอเรียนเต็ลและพระราชวงศ์
โรงแรมโอเรียนเต็ลผ่านการรับรองราชวงศ์หลายประเทศ อาทิ พระบรมวงศานุวงศ์ของไทยหลายพระองค์ที่เสด็จเยือนเป็นประจำตั้งแต่ก่อตั้งโรงแรม และราชวงศ์อื่นๆ จากทั่วโลก อาทิ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2, เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ, สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ (เมื่อครั้งทรงดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมานารุฮิโตะ) ฯลฯ
ยังมีผู้นำประเทศ เช่น จอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐอเมริกา รวมทั้งนักแสดง นักดนตรี และคนดังจากทั่วทุกมุมโลก เช่น ไมเคิล แจ็กสัน, เดวิด บราวน์, คริสตีย็อง ดียอร์, ทอม ครูซ, อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก, ไบรอัน เฟอร์รี่, เอลตัน จอห์น เป็นต้น
หลังจากเปลี่ยนแปลงเจ้าของและมีการปรับปรุงหลายต่อหลายครั้ง โรงแรม เดอะ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ถือเป็นสถานที่ที่คงไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว รวมไปถึงการรักษามาตรฐานการให้บริการตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันโรงแรมยังคำนึงถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าตามยุคสมัย ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ “โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย” นี้มานานกว่าศตวรรษ
อ่านเพิ่มเติม :
- กำเนิด “โฮเต็ลพญาไท” พระราชวังสมัยร.6 สู่กิจการโรงแรมหรู 7 ปี และฉากสุดท้ายเมื่อ 2475
- โรงแรมรัตนโกสินทร์ และแฝดคนละฝา สร้างเสร็จพร้อมกัน และเปิดวันเดียวกัน
อ้างอิง :
Youtube. (2020, October 10). เปิดตำนานความหรู 140 ปีของ “โรงแรมโอเรียนเต็ล” | Mandarin Oriental Bangkok [Video file]. Retrieved from https://www.youtube.com/watch?v=j9Dcwpwkzsc&t=364s
short-history. A Short History of Mandarin Oriental, Bangkok. Access 13 February 2023, from HISTORY
หอจดหมายเหตุ. โรงแรมโอเรียนเต็ล พ.ศ. ๒๔๑๙ (ค.ศ. ๑๘๘๗). สืบค้นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://catholichaab.com/main/index.php/research-and-study/research-and-study/1183-2016-05-13-02-21-28
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 มีนาคม 2566
