ไขปมโครงกระดูกทหารโรมันชั้นสูง ถูกส่งไปกู้ภัยแถบปอมเปอี ช่วงภูเขาไฟระเบิด

ส่วนหนึ่งของภาพเขียนภูเขาไฟวิซุเวียส ระเบิด ทำลายเมืองปอมเปอี และเฮอร์คิวเลเนียม แสดงให้เห็นทหารและประชาชน โดยจอห์น มาร์ติน ค.ศ. 1821 (ภาพจาก Tate Britain ไฟล์ public domain)

รายงานจากสำนักข่าว NBC เมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 เปิดเผยความคืบหน้าของการค้นพบโครงกระดูกอายุราว 2,000 ปีซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วน่าจะเป็นทหารโรมันระดับอาวุโส นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่า เป็นนายทหารที่น่าจะถูกส่งไปทำภารกิจกู้ภัยแถบเมืองปอมเปอี (Pompeii) และ เฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุภูเขาไฟวิซูเวียสระเบิด

รายงานข่าวเผยว่า เดิมทีแล้วนักวิทยาศาสตร์คิดว่าโครงกระดูกนี้เป็นของทหารทั่วไป เป็นหนึ่งในโครงกระดูกที่พบราว 300 ชิ้นที่พบในเมืองเฮอร์คิวเลเนียม ในยุค 80s แต่จากการศึกษวิจัยเพิ่มเติมแล้ว นักวิจัยสรุปว่า โครงกระดูกนี้เป็นของนายทหารชั้นสูงที่กองทัพโรมันส่งไปทำภารกิจกู้ภัย อพยพผู้อาศัยในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟวิซูเวียสระเบิดเมื่อค.ศ. 79 อันเป็นภัยธรรมชาติครั้งใหญ่สมัยโบราณ

Advertisement

ภูเขาไฟระเบิดครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนและผู้อยู่อาศัยในเมืองปอมเปอีและเฮอร์คิวเลเนียม ถูกปกคลุมด้วยลาวา โคลน และเถ้าถ่าน แต่สภาพลักษณะดังกล่าวกลับเป็นผลเชิงบวกต่อการศึกษาในภายหลังโดยทำให้นักโบราณคดีสามารถขุดค้นและศึกษาจากซากต่างๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ได้

ลักษณะการค้นพบโครงกระดูกนี้เมื่อ 3 ทศวรรษก่อน รายงานข่าวเผยว่า นักวิจัยยังพบเข็มขัดหนังคาดอยู่บนเอว ด้านข้างยังพบดาบที่มีด้ามจับเป็นงาช้าง, กริชหรือดาบสั้นที่ประดับตกแต่งอย่างดี และถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญ หลังจากนั้น โครงกระดูกนี้ถูกนำไปจัดแสดงภายใต้สันนิษฐานว่าเป็นโครงกระดูกของทหารทั่วไป

นักวิจัยเผยว่า โครงกระดูกรายนี้ถูกพบบนหาดพร้อมกับโครงกระดูกอีกหลายร้อยชิ้น ห่างจากซากเรือไปไม่กี่ฟุต

อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วพบว่า เข็มขัดเคยถูกประดับด้วยวัสดุรูปทรงสิงโตและใบหน้าของเด็กซึ่งทำจากเงินและทองคำ ส่วนปลอกดาบเคยถูกประดับตกแต่งด้วยวัสดุรูปทรงของโล่แบบกลม

จากหลักฐานข้างต้น ฟรานเชสโก ซิราโน่ (Francesco Sirano) ผู้อำนวยการแหล่งโบราณคดีแห่งเมืองเฮอร์คิวเลเนียม ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว NBC ว่าหลักฐานเหล่านี้บ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าโครงกระดูกรายนี้ไม่ใช่ทหารชั้นธรรมดาทั่วไป มีแนวโน้มจะเป็นนายทหารชั้นสูง หรืออาจเป็นระดับทหารหน่วยองครักษ์แห่งจักรพรรดิโรมัน (praetorian) ก็เป็นได้

ซิราโน่ ระบุว่า ทหารองครักษ์จะมีประดับด้วยโล่ทรงกลม และเหรียญที่พบด้านข้าง เมื่อนับแล้วพบว่าจำนวนของเหรียญตรงกับค่าตอบแทนรายเดือนของทหารองครักษ์พอดีด้วย

แต่ไม่ว่าจะเป็นทหารยศใดก็ตาม นักวิจัยแสดงความมั่นใจว่า นายทหารรายนี้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของกองทัพโรมันภายหลังเกิดภูเขาไฟระเบิด

สำหรับภารกิจกู้ภัยของกองทัพโรมันเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ปรากฏในหลักฐานช่วงเวลาเดียวกัน รายงานข่าวเผยว่า ภารกิจนำโดย “Pliny ผู้เฒ่า” (Pliny the Elder) ทหารเรือโรมันและเป็นผู้สนใจศึกษาธรรมชาติซึ่งเสียชีวิตในภารกิจนี้เช่นกัน เรื่องราวของเขาถูกบรรยายในจดหมายที่ Pliny the Younger (Pliny คนที่หนุ่มกว่า) ผู้เป็นญาติของเขาส่งไปให้ Tacitus นักประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

Pliny the Elder ถูกบรรยายว่าเป็นคนที่สนใจปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเป็นผู้ควบคุมฐานกองเรือโรมันที่ Misenum บนอ่าวเนเปิลส์ (Bay of Naples)

เนื้อหาในจดหมายที่เขียนโดยญาติของ Pliny ซึ่งเรียกว่า “Pliny the Younger” บรรยายอีกว่า เมื่อ Pliny คนสูงวัยเห็นเมฆที่ดูแปลกๆ พวยพุ่งขึ้นจากภูเขาเมื่อภูเขาไฟวิซูเวียสเริ่มปะทุ เขาออกคำสั่งให้เรือพายเตรียมออกจากฝั่งไปเพื่อสังเกตสถานการณ์ จากนั้นเขาได้รับข้อความจากเพื่อนของเขา ร้องขอให้ช่วยเธอออกจากที่พักแถบภูเขา เนื้อหาส่วนหนึ่งในจดหมายบรรยายว่า

“เขาเปลี่ยนแผน…เขาออกคำสั่งให้เรือรบออกเรือและขึ้นบนเรือด้วยตัวเองโดยมีเจตนาเพื่อไปนำความช่วยเหลือไปให้ผู้คนได้มากที่สุดนอกเหนือจากเพื่อนของเขา เนื่องจากชายฝั่งที่ทอดยาวนี้มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น”

Pliny นำกลุ่มเรือพาย 4 ชั้น (quadrireme) ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดในกองเรือของเขาเดินทางไปโดยใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อมาถึงจุดหมาย สถานการณ์ก็เลวร้ายมากกว่าเดิม

“เถ้าถ่านได้ร่วงหล่นลงมาแล้ว มันร้อนขึ้น หนาขึ้น ในขณะที่เรือเข้าใกล้ชายฝั่ง หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยหินลาวา (pumice) และหินสีดำที่ถูกเผาไหม้แตกละเอียดออกอันเนื่องมาจากไฟ…”

ญาติของเขาเล่าอีกว่า ชั่วขณะหนึ่ง ลุงของเขาลังเลว่าจะถอยกลับหรือไม่ คนบังคับหางเสือเรือแนะนำแบบนี้แต่ลุงของเขาปฏิเสธ เรือของ Pliny มาถึงชายฝั่งได้ แต่ไม่สามารถถอยกลับได้เนื่องจากกระแสลมไม่เป็นใจ (Pliny’s letter to Tacitus)

“ฉับพลัน ท้องทะเลก็ตื้นขึ้นในขณะที่ชายฝั่งถูกปิดกั้นและตีบตันไปเนื่องจากซากปรักหักพังจากภูเขา”

ตัวของ Pliny the Elder กลับมุ่งกลับมุ่งหน้าไปที่ชายฝั่ง คาดว่าเขาเสียชีวิตลงจากภาวะขาดอากาศหายใจหรือหัวใจล้มเหลว ในจดหมายของ Pliny ผู้เยาว์บรรายว่า ซากศพของเขาถูกพบ 2 วันให้หลังจากวันที่มีคนพบเขาครั้งสุดท้าย แต่เกิดอะไรขึ้นกับร่างของ Pliny ต่อไปนั้นยังเป็นปริศนา

นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์หลายรายเชื่อว่า หนึ่งในโครงกระดูกที่พบใกล้กับชายฝั่งเมื่อร้อยปีก่อนมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นของ Pliny แต่ไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนว่า กองเรือที่เขานำไปสามารถช่วยเหลือผู้คนได้กี่ราย

นักวิทยาศาสตร์ยังเริ่มศึกษา DNA ของโครงกระดูกที่พบบนชายฝั่ง จากที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาเชื่อว่าการตรวจสอบ DNA กับโครงกระดูกที่เก่าแก่ขนาดนี้จะไม่ได้ผล แต่จากการทดลองที่ผ่านมา ซิราโน่ ให้สัมภาษณ์ว่าการตรวจ DNA กลับให้ผลออกมาได้ ซึ่งการรวบรวมข้อมูลลักษณะนี้จะช่วยประกอบเรื่องราวได้ว่า โครงกระดูกเหล่านี้เป็นใคร มาจากไหน รับประทานอาหารแบบไหน ซึ่งจะช่วยประกอบชิ้นส่วนปริศนาที่หายไปในประวัติศาสตร์ได้

 

คลิกอ่านเพิ่มเติม : พบหลักฐานร้านอาหาร “สตรีทฟู้ด” ในปอมเปอี ดูร่องรอยอาหารข้างทางยุคนั้นเป็นอย่างไร

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ค้นหลักฐาน ชาวโรมันรอดชีวิต หนีภูเขาไฟระเบิดถล่มปอมเปอีเป็นใคร ย้ายไปไหน

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ส่องซ่องโสเภณีถูกกฎหมายในปอมเปอี หลักฐานสถานบริการยุคโรมันสะท้อนวิถีโบราณ


อ้างอิง:

Lavanga, Claudio. “2,000-year-old skeleton identified as senior Roman soldier on Vesuvius rescue mission”. NBC. Online. Published 12 MAY 2021. Access 18 MAY 2021. <https://www.nbcnews.com/news/world/2-000-year-old-skeleton-identified-senior-roman-soldier-vesuvius-n1267056>

Pliny’s letter to Tacitus. Access 18 MAY 2021. <http://www.attalus.org/old/pliny6.html#16>


เผยแพร่เนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 พฤษภาคม 2564