ผู้เขียน | อัศวัตถามา |
---|---|
เผยแพร่ |
พิธากอรัส ปราชญ์ผู้มีเบื้องลึกมากกว่าแค่ “รูปสามเหลี่ยม”
“กำลังสองของความยาวด้านตรงข้ามมุมฉาก = ผลบวกของกำลังสองของความยาวของด้านประกอบมุมฉาก”
Advertisement
หลายคนคงจำบทเรียนคณิตศาสตร์ว่าด้วย ค่าความสัมพันธ์รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก หรือ “ทฤษฎีบทพีทาโกรัส” นี้ได้ ซึ่งทำให้ชื่อของ “พิธากอรัส” เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่เชื่อหรือไม่ว่า เราไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าพิธากอรัสเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีบทพีทาโกรัส…จริงหรือไม่
พิธากอรัส (Pythagoras) นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชาวกรีก ถูกรู้จักในฐานะเจ้าของทฤษฎีคณิตศาสตร์อันโด่งดัง “ทฤษฎีบทพีทาโกรัส” (Pythagorean theorem) แม้จะถูกจดจำในฐานะ “บิดาแห่งตัวเลข” แต่พิธากอรัสยังเป็นผู้ (ถูกอ้างถึงว่า) สร้างสรรค์องค์ความรู้หลายอย่าง ทั้งด้านปรัชญาและความเชื่อ จนเขามีสถานะไม่ต่างจากศาสดา หรือผู้นำลัทธิหนึ่งแห่งยุคกรีกโบราณเลยทีเดียว
ประวัติของจอมปราชญ์ พิธากอรัส
สันนิษฐานว่า พิธากอรัสมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 570-495 ปีก่อนคริสตกาล เขาเกิดที่ซาโมส (Samos) เกาะนอกชายฝั่งประเทศกรีซในปัจจุบัน พิธากอรัสเกิดในครอบครัวที่บิดาเป็นช่างทำพลอย-อัญมณี ความเฉลียวฉลาดในวัยเด็กของพิธากอรัสทำให้ โพลีคราตีส (Polycrates) ผู้ปกครองซาโมส สนับสนุนการศึกษาแก่เขาโดยส่งไปเรียนที่อียิปต์
พิธากอรัสมีโอกาสศึกษาคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ หรือแม้แต่ไศยศาสตร์ ในอียิปต์ ดินแดนที่วิชาความรู้ต่าง ๆ หลั่งไหลมาจากอารยธรรมฝั่งตะวันออกทั้งจากอินเดีย เปอร์เซีย บาบิโลน หลังการร่ำเรียนพิธากอรัสกลับมาที่ซาโมสและพบว่ารัฐบาลโพลีคราตีสมีความเป็นเผด็จการอย่างเห็นได้ชัด (ซาโมสน่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเปอร์เซียไปแล้ว ณ ช่วงเวลานั้น) เขาจึงตัดสินใจโยกย้ายจากซาโมสไปยังอาณานิคมกรีกโครโทนา (Crotona) เมืองทางตอนใต้ของอิตาลี
โครโทนาเคยเป็นเมืองที่โดดเด่นเรื่องการศึกษา ปรัชญา และการแพทย์ แต่มีสภาพเสื่อมโทรมหลังผ่านภาวะสงครามไปไม่นานก่อนพิธากอรัสมาถึง ด้วยความรู้ติดตัว พิธากอรัสได้รับความเชื่อมั่นจากผู้มีอำนาจของเมืองให้ช่วยพัฒนาเมืองในด้านต่าง ๆ ทำให้เขามีอิทธิพลทางการเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถไต่เต้าไปสู่การเป็นผู้ปกครองโครโทนาได้
พิธากอรัสก่อตั้งโรงเรียนขึ้นในโครโทนา โรงเรียนแห่งนี้เป็นทั้งสถานศึกษา สมาคมปรัชญาและศาสนา เป็นโรงเรียนที่เปิดรับทั้งชายและหญิง มีทั้งเจ้า ขุนนาง พ่อค้ามาเรียนกับเขา สมาชิกสถาบันการศึกษาแห่งนี้ เรียกว่า พิธากอเรียน (Pythagoreans) พวกเขากระจายองค์ความรู้และความเชื่อไปยังเมืองข้างเคียงด้วย ทำให้ลัทธิพิธากอเรียนกระจายไปทั่วนครต่าง ๆ ในโลกกรีกโบราณ
ไม่ว่าด้วยการปกครองที่เข้มงวดของพิธากอรัสหรือความนิยมที่เสื่อมลง เกิดการยึดอำนาจพิธากอรัสในเวลาต่อมา เขาต้องหนีออกจากเมืองและมีบั้นปลายชีวิตในพื้นที่ห่างไกล เหล่าพิธากอเรียนส่วนหนึ่งถูกสังหารระหว่างการยึดอำนาจนั้น และบางส่วนหนีไปยังดินแดนอื่นอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ
ผู้ค้นพบหรือผู้ถูกอ้างถึง?
ไม่มีงานเขียนใด ๆ ของพิธากอรัสปรากฏเป็นต้นฉบับให้ศึกษา มีการกล่าวถึงเขาบ้างในงานของโซคราตีส (Socrates), เพลโต (Plato) และอริสโตเติล (Aristotle) ทั้งในเชิงอ้างอิงและวิพากษ์วิจารณ์ทฤษฎีของเขา (ในเชิงไม่เห็นด้วย) ความคลุมเครือเหล่านี้ส่วนหนึ่งเพราะเหล่าพิธากอเรียนมีวิถีปฏิบัติในการเก็บความลับและความรู้ภายในของลัทธิ
เป็นที่กันเชื่อว่างานเขียนจำนวนหนึ่งในนามของพิธากอรัสถูกสร้างโดยเหล่าพิธากอเรียนรุ่นถัด ๆ มาตามแนวคิด “การอ้างปฐมาจารย์” เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เราจึงรู้จักทฤษฎีสามเหลี่ยมมุมฉาก “Pythagoras theorem” ในชื่อ “Pythagorean theorem” นั่นเอง องค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับพิธากอรัสถูกเรียกว่า Pythagoreanism แสดงสถานะที่เกินกว่านักวิชาการของเขา คือ เป็นเจ้าลัทธิหรือผู้นำทางศาสนา การกล่าวถึงเขาบางส่วนยังทำให้พิธากอรัสมีสถานะเป็นบุคคลกึ่งเทพ ผู้ให้กำเนิดความรู้ ความจริง และปรัชญากรีกโบราณ เชื่อกันว่าพิธากอรัสคือคนแรกที่เริ่มใช้คำว่า Philosopher หรือ นักปรัชญา จากการนิยามของตัวเขาเองด้วย
ศาสตร์แห่ง Pythagoreanism
พิธากอรัสเป็นนักคณิตศาสตร์ที่บุกเบิกศาสตร์ด้านเรขาคณิต องค์ความรู้ต่าง ๆ ของพิธากอรัสมักเชื่อมโยงตัวเลขหรือคณิตศาสตร์เป็นหลัก เพราะเขาเชื่อว่าตัวเลขคือธรรมชาติหรือสัจธรรมที่แท้จริงของทุกสิ่ง ตัวเลขเป็นองค์ประกอบของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับวิชาคณิตศาสตร์สมัยใหม่ที่มุ่งการศึกษาเพื่อเข้าใจ “แบบแผน” หรือ Pattern
ลัทธิพิทากอเรียนยังมีแนวคิดเกี่ยวกับการเกิดเสียงและการสร้างเสียงดนตรีโดยผูกกับหลักคณิตศาสตร์จนทำให้เกิดองค์ความรู้เรื่องการสั่นสะเทือนหรือชุดความถี่บางชุดที่ทำให้เกิดเสียงอันไพเราะหรือบันไดเสียง พิธากอรัสยังมีรูปแบบบันไดเสียงของตนเองเรียกว่า “Pythagorean scale” ซึ่งใกล้เคียงกับบันไดเสียงที่นักดนตรียุคปัจจุบันใช้กัน
ลัทธิพิธากอเรียนยืนยันเกี่ยวกับแนวคิดโลกกลม ชาวกรีกจำนวนไม่น้อยเชื่อเรื่องโลกกลมมาก่อนยุคของพิธากอรัสแล้ว แต่พวกเขาขยายความว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางจักรวาล ทั้งหมุนรอบตัวเองและหมุนรอบดวงอาทิตย์ด้วย ทฤษฎีนี้ถูกพิสูจน์โดยนักดาราศาสตร์ในสมัยต่อมา คือ นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) และกาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei)
ลัทธิพิทากอรัสยังเสนอชุดความเชื่อแรกว่าด้วยดวงดาวที่ส่องสว่างตอนหัวค่ำทิศตะวันตก (ดาวประจำเมือง) และตอนเช้ามืดทิศตะวันออก (ดาวประกายพรึก) ว่าเป็นดวงเดียวกัน คือดาวศุกร์
ลัทธิพิธากอเรียนเชื่อเรื่องความเสมอภาคของชาย-หญิง และความเท่าเทียมของมนุษย์ เหล่าพิธากอเรียนจะปฏิบัติต่อทาสอย่างดี พวกเขายังเชื่ออย่างจริงจังเกี่ยวกับ “วิญญาณ” (Spirit) การเวียนว่ายตายเกิด รวมถึงการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร โดยเชื่อว่าหากไม่เกิดการหลุดพ้น วิญญาณจะกลับมาเกิดเป็นสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ นำไปสู่การห้ามฆ่าสัตว์ ไม่กินเนื้อสัตว์ และไม่ทำร้ายสัตว์ของลัทธิพิธากอเรียน
วัตรปฏิบัติหลายอย่างของเหล่าพิธากอเรียน ได้แก่ พิธีล้างมลทิน กฎการกินอาหาร (มังสวิรัติ) ล้วนเป็นแนวทางสู่การหลุดพ้น จุดมุ่งหมายดังกล่าวคล้ายคลึงกับของศาสนาพุทธและศาสนาเชนอย่างมีนัยสำคัญ จะเห็นว่าทั้งพระโคตมพุทธเจ้า พระมหาวีระ และพิธากอรัส ล้วนมีชีวิตอยู่ร่วมสมัยเดียวกัน
ลัทธิพิธากอเรียนเชื่อว่าวิญญาณบริสุทธิ์ (ที่หลุดพ้นแล้ว) จะไปอยู่กับพระเจ้า (Aether) ศูนย์รวมดวงจิตของจักรวาล โดยมีหลักการว่า การเข้าใจคณิตศาสตร์คือการเข้าใจจักรวาล การเข้าใจจักรวาลคือการเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล และการเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลนำไปสู่การหลุดพ้น ด้วยเหตุนี้ เหล่าพิธากอเรียนจึงมองคณิตศาสตร์เป็นศาสตร์หรือหนทางสู่การหลุดพ้น
เนื่องจากชีวประวัติของพิธากอรัสมีหลักฐานอ้างอิงน้อยมากเมื่อเทียบกับความโด่งดังของเขา ข้อมูลส่วนใหญ่ยังปรากฏในลักษณะของตำนานและเรื่องเล่าจากผู้อื่น ทำให้พิธากอรัสเป็นบุคคลสำคัญที่เราทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเขาน้อยกว่านักปรัชญาคนใด ๆ
กระนั้น ข้อมูลจากบุคคลอื่นก็พอจะช่วยยืนยันได้ว่า พิธากอรัสและลัทธิพิธากอเรียนมีอิทธิพลต่อนักปรัชญากรีกรุ่นต่อมาทั้ง โซคราตีส, เพลโต และอริสโตเติลอยู่ไม่น้อย และพวกเขาล้วนเป็นต้นแบบองค์ความรู้ของอารยธรรมตะวันตกทั้งสิ้น
อ่านเพิ่มเติม :
- “ความสุขที่แท้จริง” ฉบับ “อริสโตเติล” ปรัชญาทรงอิทธิพลที่ไม่ได้เข้าใจยากอย่างที่คิด
- โป๊ะแตก! แฉเบื้องหลังหนังสือหายากของกาลิเลโอ กว่า 300 ปีก่อน คือฉบับปลอมเนียน
อ้างอิง :
คชานนท์ นิรันดร์พงศ์, PYMK EP40 : ‘พิธากอรัส เจ้าลัทธิผู้เชื่อว่าคณิตศาสตร์คือรากฐานของจักรวาล’
Carl Huffman, Stanford Encyclopedia of Philosophy: Pythagoras
New Advent, Catholic Encyclopedia: Pythagoras and Pythagoreanism
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 กันยายน 2565