
ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล |
---|---|
เผยแพร่ |
โรงพยาบาลทั่วไปมีหน้าที่ดูแลรักษาให้ผู้ป่วยพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ แต่นอกจากหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ครั้งหนึ่ง “สถาบันบำราศนราดูร” เคยมีเมรุที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงพยาบาล และให้บริการเผาศพ แก่ผู้ป่วยที่เสียชีวิต
บริการดังกล่าวมีมาตั้งแต่เมื่อครั้งสถาบันบำราศนราดูร ยังเป็น “โรงพยาบาลโรคติดต่อพญาไท” และ “โรงพยาบาลบำราศนราดูร”
เหตุที่โรงพยาบาลมีเมรุเผาศพในรั้วโลกนั้น “เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลโรคติดต่อ เมื่อมีผู้ป่วยตาย ทางวัดก็ไม่อยากรับเผาศพ จึงต้องสร้างเมรุเพื่อเผาศพไว้ในบริเวณโรงพยาบาล ในปี พ.ศ. 2529 โรงพยาบาลบำราศถูกมอบหมายให้เป็นโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยเอดส์ เมื่อมีผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวนมาก ต้องใช้เมรุเผาศพทั้งวันทั้งคืน จนมีคำพูด ‘เผาทั้งวันทั้งคืน เผาจนเตาแตก’ เมรุเผาศพถูกรื้อทิ้งในปี พ.ศ. 2532” (จาก ก้าวสู่ 1 ศตวรรษงานป้องกันควบคุม)

ขณะที่บทสัมภาษณ์ นายหัน นาคประกอบ อดีตเวรเปลตั้งแต่ครั้งเป็นโรงพยาบาลโรคติดต่อพญาไท และย้ายมาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลบำราศนราดูรจนกระทั่งเกษียณอายุ ซึ่งจับพลัดจับผลูมาเป็นผู้ดูแลเมรุเผาศพคนสุดท้าย ในหนังสือ “เอดส์…ปฐมบทแห่งการเรียนรู้ จากโรงพยาบาลบำราศในอดีต” บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ปี 2498 อหิวาระบาดหนักมาก ศพเยอะ ถูกส่งไปเผาที่วัดสะพานอยู่ตรงราชวิถี เป็นการจ้างเผา ซึ่งเป็นที่มาของเมรุเผาศพที่บำราศเลย ผมเป็นลูกจ้างประจำก่อน ทำทุกอย่างตั้งแต่ดินยันฟ้า ตัดหญ้า เวรเปล เวรโทรศัพท์ จิปาถะ อยู่ตั้งแต่โรงพยาบาลโรคติดต่อพญาไท…”
นายหันได้อธิบายว่า ภาพเมรุ หรือเตาเผาศพ ข้างต้นนั้นว่า “เตา [เผาศพ] แรกสร้างพร้อมโรงพยาบาล ภาพนี้เป็นเตาอันที่ 2 เพราะเตาแรกเผาจนแตก ศพเยอะน่ะ…”
ซึ่งสิ่งที่นายหันทำไม่ใช่แค่เผาเท่านั้น แต่ทำตั้งแต่นิมนต์พระ เป็นมัคนายก อาราธนาศีลด้วย
อ่านเพิ่มเติม :
ข้อมูลจาก :
ขวัญชาย ดำรงค์ขวัญ. เอดส์…ปฐมบทแห่งการเรียนรู้ จากโรงพยาบาลบำราศในอดีต, สถาบันวิจัย จัดการความรู้และมาตรฐานการควบคุมโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, มิถุนายน 2561
มณี สุขประเสริฐ. ก้าวสู่ 1 ศตวรรษงานป้องกันควบคุม, สถาบันวิจัย จัดการความรู้และมาตรฐานการควบคุมโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, ธันวาคม 2560
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 26 พฤษภาคม 2565