
ผู้เขียน | พล อิฏฐารมณ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“ไปตายซะเดอะบีทเทิลส์” คือเสียงตะโกนของชาวฟิลิปปินส์เพื่อสาปส่ง 4 นักดนตรีจากอังกฤษที่ท่าอากาศยานขณะที่พวกเขากลับจะเดินทางออกจากฟิลิปปินส์หลังเสร็จสิ้นการแสดงคอนเสิร์ตสองรอบเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1966 ในกรุงมะนิลาซึ่งมีผู้เข้าชมรวมกันมากถึง 75,000 คน (New York Times)

ความผิดของวงดนตรียอดนิยมระดับโลกจากลิเวอร์พูลคือการที่พวกเขาบังอาจปฏิเสธคำเชิญของ อีเมลดา มาร์กอส (Imelda Marcos) สตรีหมายเลขหนึ่งของฟิลิปปินส์ (ภรรยา เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส [Ferdinand Marcos] ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในขณะนั้น) เพื่อให้มาร่วมกินอาหารเช้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีพร้อมกับเด็กๆอีก 300 คน
สื่อฟิลิปปินส์ (The Philippine Star GLOBAL) กล่าวว่า เป็นรามอน รามอส (Ramon Ramos) ผู้จัดคอนเสิร์ตที่ไปรับปากกับครอบครัวของมาร์กอสว่าจะพาเดอะบีทเทิลส์มาร่วมงานที่ทำเนียบประธานาธิบดี แต่งานดังกล่าวกลับมิได้มีการประสานงานกับทางไบรอัน เอปส์ตีน (Brian Epstien) ผู้จัดการของเดอะบีทเทิลส์ ทำให้พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าได้รับเชิญไปร่วมงานนี้
หลังเสร็จสิ้นการแสดงในวันที่ 4 กรกฎาคม เช้าวันถัดมา พนักงานโรงแรมปฏิเสธที่จะให้การบริการกับสมาชิกสี่เต่าทอง ริงโก สตาร์ มือกลองของวงเล่าความทรงจำถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “เราก็เลยเปิดทีวีดู แล้วก็เห็นรายการทีวีที่น่ากลัวมาก นางมาร์กอสตะโกนว่า ‘พวกเขาทำให้ฉันผิดหวัง’ แล้วก็มีภาพที่ตากล้องจับไปที่จานที่ว่างเปล่าและเน้นไปที่หน้าของเด็กๆที่พากันร้องไห้เพราะเดอะบีทเทิลส์ไม่ยอมมาร่วมงาน” ขณะเดียวกันสื่อในฟิลิปปินส์ก็พากันพาดหัวว่า “เดอะบีทเทิลส์ปฏิเสธประธานาธิบดี”
รายงานของนิวยอร์กไทม์เล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่ 5 กรกฎาคม 1966 ขณะที่เดอะบีทเทิลส์กำลังจะเดินทางออกจากฟิลิปปินส์ว่า มีผู้โดยสาร นักข่าว เจ้าหน้าที่สนามบิน และบุคคลอื่นๆราว 50 คน เข้ามารุมตะโกนด่าพวกเขาขณะที่พวกเขากำลังกรอกเอกสาร
ส่วน The Philippine Star กล่าวว่า เดอะบีทเทิลส์ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกใดๆ ระหว่างการเดินทางกลับ หลังสื่อฟิลิปปินส์ในสมัยนั้นพากันโจมตีพวกเขาที่บังอาจปฏิเสธคำเชิญของภรรยาท่านผู้นำ พวกเขาต้องแบกกระเป๋าขึ้นแท็กซี่ด้วยตัวเอง ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดในฐานะบุคคลสำคัญ
เมื่อเดอะบีทเทิลส์ถึงสนามบิน ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดมาเหลียวแล บันไดเลื่อนก็ถูกปิดการใช้งาน ทำให้พวกเขาต้องแบกกระเป๋าอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆเดินขึ้นอาคารสองชั้นท่ามกลางฝูงชนที่คอยก่นด่า เที่ยวบินของพวกเขาก็ต้องล่าช้าออกไป เมื่อเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเล่นงานพวกเขาด้วยข้ออ้างทางภาษี ยับยั้งไม่ให้พวกเขาเดินทางออกนอกประเทศได้โดยง่าย
เครก ครอสส์ (Craig Cross ผู้เขียนประวัติของเดอะบีทเทิลส์ในหนังสือ The Beatles: Day-by-Day, Song-by-Song, Record-by-Record) กล่าวว่า มะนิลาไทม์ได้บรรยายเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้โดยละเอียดว่า “ริงโก สตาร์ มือกลองลงไปนอนกองกับพื้นหลังโดนเสยปลายคาง ขณะที่เขาค่อยๆ คลานออกไปก็ถูกเตะโดนฝูงชน จอร์จ แฮริสัน กับ จอห์น เลนนอน ถูกต่อยถูกเตะขณะกำลังวิ่งไปที่ด่านศุลกากร พอล แม็คคาร์ตนีย์ ดูจะไม่ค่อยได้รับอันตรายอะไร เพราะเขาชิ่งหนีไปก่อนแล้ว ส่วน ไบรอัน เอปส์ตีน ผู้จัดการวงถูกเพลิงพิโรธของฝูงชนแผดเผา เขาถูกเตะและจับทุ่มลงกับพื้น”
คำบรรยายของสื่อฟิลิปปินส์ฟังดูรุนแรงอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งก็ไม่แน่ชัดว่าสื่อดังกล่าวพยายามเขียนในสิ่งที่คนฟิลิปปินส์ต้องการจะฟังหรือถ่ายทอดเหตุการณ์จากข้อเท็จจริง แต่เมื่อพิจารณาจากปากคำของสมาชิกเดอะบีทเทิลส์เอง ก็เป็นที่แน่ชัดว่าชาวฟิลิปปินส์จำนวนหนึ่งที่สนามบินจ้องปองร้ายพวกเขาจริง ไม่เว้นแม้แต่ตัวเจ้าหน้าที่รัฐเอง
“มันกลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายสุดๆเลยที่ฟิลิปปินส์” ริงโก สตาร์ มือกลองเดอะบีทเทิลส์กล่าว “คนทั้งเมืองพากันเกลียดเรา” จอร์จ แฮร์ริสัน กล่าว ก่อนเสริมว่า “ผู้คนพากันตะคอกตะโกนใส่เรา ตอนที่เราพยายามเข้าสนามบิน…มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจด้วยที่พยายามเข้ามาชกเรา บ้างก็ตะโกนและหาจังหวะเหวี่ยงหมัดใส่พวกเรา”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความศรัทธาอย่างแรงกล้าของชาวฟิลิปปินส์บางส่วนในอดีตต่อตระกูลมาร์กอส ถึงขนาดปองร้ายชาวต่างชาติที่ดูหมิ่นเกียรติของท่านผู้นำ จนกระทั่งราว 2 ทศวรรษถัดมาชาวฟิลิปปินส์ “ส่วนใหญ่” จึงจะมองเห็นความฟอนเฟะของระบอบเผด็จการมาร์กอส และพากันขับไล่ให้ท่านผู้นำที่เคยเป็นที่รักยิ่งต้องหลบหนีไปใช้ชีวิตในต่างประเทศจนกระทั่งเสียชีวิต
ด้านนางมาร์กอส เมื่อศาลกลางแห่งสหรัฐฯมีคำสั่งยกคำฟ้องในทุกข้อกล่าวหาต่อเธอหลังการเสียชีวิตของนายมาร์กอส เธอได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับฟิลิปปินส์ได้ในปี 1991 สองปีถัดมาศาลฟิลิปปินส์ตัดสินให้เธอมีความผิดฐานทุจริต แต่ในปี 1998 ศาลสูงก็ได้สั่งกลับคำพิพากษาดังกล่าว และในปี 2008 ศาลฟิลิปปินส์ก็ได้สั่งยกคำฟ้องข้อหาโอนย้ายทรัพย์สินโดยมิชอบทั้งหมด 32 คดีของเธอ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 868 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3 หมื่นล้านบาท)
และในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2011 นางมาร์กอสได้ตอบคำถามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเดอะบีทเทิลส์ว่า “ในฐานะที่เป็นแฟนตัวยงของเดอะบีทเทิลส์คนหนึ่ง ฉันจึงส่งตัวแทนไปติดต่อกับโปรโมเตอร์ในฟิลิปปินส์เพื่อเชิญให้พวกเขามารับประทานอาหารที่ทำเนียบรัฐบาล (Malacanang Palace) เพื่อที่ฉันจะได้ต้อนรับพวกเขาอย่างเป็นส่วนตัวสู่ประเทศของเราพร้อมกับครอบครัวและเพื่อนๆของฉันที่เป็นแฟนของวงเช่นกัน”
“บอกตามตรงว่า ฉันผิดหวังที่พวกเขาไม่มาปรากฏตัว แต่ตอนหลังก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด และฉันก็ไม่ได้แค้นเคืองอะไร…ตอนที่ฉันรู้ว่าพวกเขาถูกกระทำด้วยความรุนแรงที่สนามบินขณะเดินทางกลับ ฉันรีบเดินทางไปที่สนามบินเพื่อยับยั้งเหตุ ฉันยังจำได้ว่าได้ตำหนิคุณวิลลี ฆูราโด (Willy Jurado) ผู้จัดการสนามบิน ด้วย” นางมาร์กอสชี้แจง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 กรกฎาคม 2561