“เปาซื่อ” พระมเหสีที่ไม่เคยยิ้ม เจ้าของยิ้มพิฆาต แค่ยิ้มครั้งเดียวก็สิ้นแผ่นดิน

หอจุดไฟบนเขาหลีซาน ที่พระเจ้าโจวโยวเคยใช้จุดไฟสัญญาณเรียกเจ้าแคว้นต่างๆ (ภาพจาก หนังสือประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ)

ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก แผ่นดินพระเจ้าโจวโยว (โจวโยวหวัง) มีพระสนมนางหนึ่งชื่อ “เปาซื่อ” เป็นที่รักใคร่โปรดปรานอย่างยิ่ง แต่ว่าพระสนมเปาซื่อกลับไม่เคย “ยิ้ม” เลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่เป็นเรื่องที่พระเจ้าโจวโยวต้องการเห็นอย่างยิ่ง เพื่อแลกกับยิ้มของสตรีผู้เป็นที่รัก พระเจ้าโจวโยวคิด, ทำ, ให้ ฯลฯ หลายๆ อย่างแต่เปาซื่อก็ไม่เคยยิ้ม

เมื่อนางเปาซื่อให้กำเนิดโอรส พระเจ้าโจวโยวคิดจะตั้งขึ้นเป็นเจ้าชายรัชทายาท แต่ว่ากฎของราชวงศ์โจว รัชทายาทจะต้องเป็นโอรสองค์โตที่เกิดจากพระมเหสีเท่านั้น พระเจ้าโจวโยวจึงปลดพระมเหสีเดิมแล้วตั้งนางเปาซื่อเป็นพระมเหสีแทน ปลดเจ้าชายอี๋จิ้วจากตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาท และตั้งโอรสนางเปาซื่อขึ้นแทน ซึ่งพระเจ้าโจวโยวก็หวังว่านางเปาซื่อดีใจกับการอวยยศครั้งนี้แล้ว “ยิ้ม” ให้พระองค์เห็นสักนิด

แต่ เปาซื่อ ก็ยังคงไม่ “ยิ้ม”

เรื่องนี้ทําให้พระเจ้าโจวโยวกลุ้มใจ ถึงกลับออกประกาศว่า หากใครสามารถทําให้นางเปาซื่อยิ้มได้ จะมีรางวัลให้พันตําลึงทอง แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เปาซื่อยิ้ม จนกระทั่งขุนนางสอพลอขี้ประจบอย่าง กว๋อสือฟู่ เสนอวิธีการเรียกยิ้มจากนางเปาซื่อแก่พระเจ้าโจวโยว ที่เรียกว่า “จุดไฟล้อเจ้าเมืองเล่น”

เนื่องจากในสมัยโจวตะวันตก บริเวณเขาหลีซานใกล้กับเมืองฮ่าวจิง มีหอสูงสร้างอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกว่าหอจุดไฟสัญญาณ บนหอจะมีไม้และขี้หมาป่ากองอยู่ และมีทหารรักษาการณ์ตลอดเวลา หากมีข้าศึกมาโจมตีเมือง ทหารที่เฝ้ารักษาการณ์จะจุดไฟขึ้นเป็นสัญญาณ ในหนังสือโบราณจึงมีบันทึกว่า “ควันหมาป่าลุกโชนทั้ง 4 ทิศ” คือไฟสัญญาณประกาศว่ามีข้าศึกบุกโจมตี และเป็นคำสั่งไปถึงกองกำลังทหารในเมือต่างๆ ให้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อปกป้องกษัตริย์

กว๋อสือฟู่แนะนำให้จุดไฟสัญญาณ (ว่ามีข้าศึกบุกเมือง) ขึ้น ล้อเจ้าแคว้นต่างๆ เห็น “ควันหมาป่า” ก็จะรีบเดินทางเข้าเมืองหลวง เมื่อนางเปาซื่อเห็นกองกำลังนับหมื่นนับพันจะรู้ว่าถูกหลอกให้เดินทางมา จะต้องยิ้มออกมาเป็นแน่ พระเจ้าโจวโยวก็เห็นชอบและสั่งให้ทหารจุดไฟสัญญาณ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ เปาซื่อเผย “ยิ้ม” ที่ทำให้พระเจ้าโจวโยวยินดีนัก กว๋อสือฟู่ได้รับความชอบเป็นรางวัลใหญ่

แต่เจ้าแคว้นต่างๆ และกองกำลังที่ถูกหลอกให้ยกมาเพื่อแลกกับ “ยิ้ม” ของเปาซื่อกลับโกรธแค้นอยู่ในใจ

ภายหลังเจ้าชายอี๋จิ้ว-รัชทายาทที่ถูกปลดหนีไปอยู่กับเซินโหวผู้เป็นตา ทั้งยังได้จับมือกับชนเผ่าเฉวี่ยนหรงยกมาโจมตีพระเจ้าโจวโยว พระองค์จึงรับสั่งให้จุดไฟสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่แคว้นต่างๆ ที่เคยถูกหลอกต่างเพิกเฉยไม่มีใครส่งกำลังมาช่วย แม้จะเห็นควันไฟหม่าป่าจะลุกโชนทั้ง 4 ทิศ

รัชสมัยของพระเจ้าโจวโยวก็ถึงคราวต้องอันจบสิ้นลง อันเนื่องความพยายามที่จะได้เห็นรอยยิ้มของ เปาซื่อ – พระมเหสีผู้ไม่เคยยิ้ม การยิ้มเพียงครั้งเดียวของนางจึงพิฆาตบ้านเมือง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


ข้อมูลจาก :

หลี่เฉวียน เขียน, เขมณัฏฐ์ ทรัพย์เกษมชัย แปล. ประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ, สำนักพิมพ์มติชน พ.ศ. 2556

ทวีป วรดิลก. ประวัติศาสตร์จีน, สำนักพิมพ์สุขภาพใจ พ.ศ. 2547


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 เมษายน 2564