อาหารนักโทษคดีกบฏบวรเดช ติดคุกบางขวาง (บางคน) ช่วงหนึ่งมีหูฉลาม-ของจากโรงแรม

ทหารฝ่ายรัฐบาลใน กบฏบวรเดช วังปารุสกวัน
ทหารฝ่ายรัฐบาลในกบฏบวรเดช

หากนึกถึงชีวิตความเป็นอยู่ของนักโทษในคุก คำว่า “สะดวกสบาย” ไม่น่าจะผุดขึ้นในสมอง แต่นั่นก็อาจไม่เสมอไป ชุลี สารนุสิต หนึ่งในสมาชิก กบฏบวรเดช เขียนบันทึกเหตุการณ์ระหว่างที่ถูกกุมขังใน คุกบางขวาง 6 ปี ช่วงหนึ่งเอ่ยถึงรายการอาหารที่บางจานประชาชนทั่วไปซึ่งอยู่นอกคุกหลายคนก็อาจไม่เคยลิ้มลองไว้ว่า

“ชีวิตปีแรกในคุกบางขวางการกินอยู่ของพวกเราฟุ่มเฟือยมาก มื้อเช้า กาแฟ ขนมปังกรอบฮันทเลย์แอนด์ปาลเมอร์ เนยตราวัว นมข้นหวานตราหมี ตับห่านกระป๋อง มื้อกลางวันขนมปังสดหรือขนมปังอบกับแฮมหรือไส้กรอกจากซุ่ยเฮงหรือโอเรียนเต็ลโฮเตล หากมีญาติมาเยี่ยม อาจได้กินไอศกรีมจากออนล็อกหยุ่น เค็กจากมอนโลเฮียง หูฉลามร้อนๆ จากแป๊ะม้อ ผลไม้ตามฤดูกาลจากตลาดบางลำภูหรือสพานหัน”

แต่เวลาแห่งความสุขสบายก็หมดไปในปีแรก ความจริงที่เจ็บปวดก็แสดงตัวออกมา เมื่อขึ้นปีที่สอง ชุลีบันทึกว่า

“บัดนี้ส่วนมากในพวกเรามีอัตราโทษประทับไว้บนหน้าผากชัดแจ้งแล้ว การติดคุกมีเวลานับเปนปีๆ ทำให้ต้องระงับตัดทอนความฟุ่มเฟือยลง เพราะเราไม่มีทางจุนเจือระดับอยู่กินของเราให้คงที่อยู่ได้

ยังเหลืออยู่ก็แต่การว่าจ้างผูกอาหารประจำเป็นรายเดือนซึ่งมีพวกแม่ค้าในตลาดจังหวัดนนทบุรีรับทำส่ง และบัดนี้เราก็กำลังดำริห์ที่จะต้องตัดทอนไปอีก เราไม่ยอมเสียรายจ่ายเลยจนสตางค์แดงเดียว เพราะทุกๆ สตางค์ ที่เราจ่ายออกไป มันหมายถึงน้ำพักน้ำแรงความเหน็จเหนื่อยของแม่บังเกิดเกล้า หรือภริยาผู้จงรัก เราจะไม่ยอมจ่ายอะไรเลยจนสตางค์แดงเดียว

แต่อาหารคุกก็เหลือที่จะกลืน! ไม่ต้องกล่าวถึงก็ได้ว่าแกงเผ็ดของคุกมีรสชาติอย่างไร เพียงแต่แกงส้มก็ยังมีรสทำให้ลิ้นชา อาหารของคุกไม่แต่มีรสจัดในทางเผ็ด ทางเค็ม ทางเปรี้ยว ยังมีกลิ่นอับๆ และฝีมือในการปรุงแต่งที่ร้ายกาจอีกด้วย หมูผัดพริกผสมผักบุ้งนั้น หมูมีเนื้อ หนัง มัน ขน เสร็จในตัว, ข้างผักบุ้งก็มีทั้งต้น ใบ ดอก โคนต้น และราก…” [จัดย่อหน่าใหม่ และสั่งเน้นคำ – กองบก.ออนไลน์]

ส่วนชื่อผู้ดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอาหารจานหรูที่นักโทษในคดีกบฏบวรเดชกินกันใน คุกบางขวาง, เหตุที่จ่าย และเลิกจ่ายเพราะอะไร ผู้เขียน (ชุลี สารนุสิต) ไม่ได้บันทึกไว้

คุกบางขวาง นักโทษ กบฏบวรเดช
ขุนจำนงภูมิเวท (จำนง ศิวะแพทย์) ผู้บัญชาการเรือนจำบางขวาง (คนที่ 2 จากซ้าย) กับพระยาศราภัยพิพัฒ (เลื่อน ศราภัยวานิช) นักโทษการเมืองกบฏบวรเดช (คนที่ 3 จากซ้าย) ถ่ายรูปหลังจากรับประทานอาหารร่วมกัน ในคราวที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้พระยาศราภัยฯ ออกจากเรือนจำ ไปเยี่ยมศพภรรยาและจัดการทรัพย์สินที่บ้านเป็นกรณีพิเศษเมื่อ พ.ศ. 2479

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


ข้อมูลจาก :

ชุลี สารนุสิต. แดนหก, โรงพิมพ์สมรรถภาพ พ.ศ. 2488.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 มีนาคม 2564