“ความแผ่นดินตาก” สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) คิดก่อกบฏ?

ความแผ่นดินตาก
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)

“ความแผ่นดินตาก” สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) คิดก่อกบฏ?

ในบทความ “อวสานสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)” เขียนโดย วิภัส เลิศรัตนรังษี ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม พ.ศ. 2564 ได้ฉายให้เห็นอำนาจของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) หรือ “สมเด็จเจ้าพระยาฯ” ขุนนางผู้ทรงอำนาจมากที่สุดในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิต ที่สมเด็จเจ้าพระยาฯ ยังมีอำนาจอยู่ค่อนข้างมาก

เรื่องที่ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) คิดก่อกบฏนี้มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างระหว่างรัชกาลที่ 5 กับสมเด็จเจ้าพระยาฯ เรื่องการสร้างกองทัพสมัยใหม่ ทั้งรัชกาลที่ 5 และสมเด็จเจ้าพระยาฯ เห็นพ้องต้องกันเรื่องสร้างกองทัพสมัยใหม่ แต่แนวคิดของสมเด็จเจ้าพระยาฯ คือ กองทัพไพร่ติดอาวุธ เป็นการเกณฑ์ไพร่มาฝึกซ้อมอย่างเดิมทุกประการ

สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้กราบทูลขออภัยโทษให้กับเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น

ขณะที่รัชกาลที่ 5 ทรงมีแนวคิดว่า หากทำแบบเดิมจะทำให้ไม่สามารถฝึกฝนทหารได้สม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไพร่เองก็สามารถจ่ายส่วยแทนเกณฑ์ได้ รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชประสงค์ให้ใช้วิธีการเปิดรับสมัครไพร่ไปเข้าสังกัดกรมทหารหน้า ซึ่งเป็นกรมทหารส่วนพระองค์ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่

ไพร่เหล่านี้เป็นไพร่ในแถบเพชรบุรี-ราชบุรี ซึ่งเป็นเขต “ฐานอำนาจ” ของสมเด็จเจ้าพระยาฯ และขุนนางตระกูลบุนนาค สืบเนื่องจากไพร่ถูก “พระยาเพชรบุรี” ซึ่งเป็นน้องชายของสมเด็จเจ้าพระยาฯ เบียดเบียน จึงหนีมาสมัครทหารที่กรุงเทพฯ สมเด็จเจ้าพระยาฯ จึงกราบบังคมทูลขอไพร่เหล่านี้กลับคืนทันที แต่รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิเสธ เพราะหากทรงยินยอมให้กลับมาอยู่อย่างเดิมอีกก็เหมือนว่าทรงไม่เห็นความทุกข์ของไพร่

สมเด็จเจ้าพระยาฯ มีจดหมายไปถึง “เจ้าคุณทหาร” คือ เจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) บุตรชายของท่าน โดยต่อว่าเจ้าคุณทหารที่ปล่อยให้กองทัพส่วนพระองค์มาเปิดรับสมัครทหารในเมืองขึ้นกรมพระกลาโหม (เจ้าคุณทหารเป็นสมุหพระกลาโหม) พร้อมกับสาธยายให้เจ้าคุณทหารทราบว่า ไพร่เหล่านี้ได้รับพระราชทานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ให้ทำมาหากินบริเวณนี้ มีมูลนายปกครองดูแลสืบเนื่องมาโดยตลอด

สมเด็จเจ้าพระยาฯ พยายามประนีประนอมกับรัชกาลที่ 5 โดยเสนอจะชำระความที่พระยาเพชรบุรีก่อขึ้น และอ้างว่า หากปล่อยให้ไพร่ไปสมัครทหารที่กรุงเทพฯ เมืองเพชรบุรี-ราชบุรีก็จะทรุดโทรมเสื่อมลงไม่ต่างกับเมืองร้าง แต่รัชกาลที่ 5 ทรงยืนกรานที่จะไม่คืนไพร่กลับไป

ความขัดแย้งพุ่งสูงขึ้นจนปรากฏข่าวลือในกรุงเทพฯ ว่าสมเด็จเจ้าพระยาฯ ชักชวนให้เจ้าคุณทหารก่อการกบฏ จนทำให้เกิดความตึงเครียดอยู่ไม่น้อย ถึงขนาดที่กงสุลอังกฤษคิดจะเรียกเรือปืนเข้ามาประจำในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว

ต้นตอของข่าวลือนี้มาจาก “ความแผ่นดินตาก” ที่สมเด็จเจ้าพระยาฯ เขียนถึงเจ้าคุณทหาร ซึ่งสันนิษฐานว่า เนื้อหาในนั้นอาจจะรุนแรงมาก จนทำให้เจ้าคุณทหารต้องมีจดหมายเตือนสติสมเด็จเจ้าพระยาฯ ไปว่า “ข้าพระพุทธเจ้าเหนว่าแรงนัก ไม่ควรพูด ข้าพระพุทธเจ้าขอรับพระราชทานเสียเถิด”

วิภัส เลิศรัตนรังษี อธิบายว่า เพราะความรุนแรงในเนื้อหานั้น ทำให้เจ้าคุณทหารไม่อาจนำความขึ้นกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 5 ให้ทรงทราบได้ จึงไม่มีการคัดลอกเป็นสำเนาเก็บไว้ให้ค้นคว้าในปัจจุบัน

นอกจากนี้ วิภัส เลิศรัตนรังษี กล่าวว่า “แต่ถ้าสันนิษฐานจากคำว่า ‘ความแผ่นดินตาก’ ที่เจ้าคุณทหารอ้างถึง ก็น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์จลาจลช่วงปลายแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรี การยกประเด็นนี้ขึ้นมากล่าวในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานย่อมจะถูกทำให้เข้าใจได้ว่ากำลังชักชวนให้บุตรชายก่อกบฏ”

สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) รัชกาลที่ 5 ทรงประกาศยกเลิกตำแหน่งพระมหาอุปราช
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)

เจ้าคุณทหารเขียนจดหมายอีกฉบับหนึ่งถึงสมเด็จเจ้าพระยาฯ โดยสรุปคือ ต้องการให้สมเด็จเจ้าพระยาฯ ระลึกว่าวงศ์ตระกูลได้เป็นใหญ่เป็นโตมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะพระเจ้าอยู่หัวทรงชุบเลี้ยงมา และโดยส่วนตัวของเจ้าคุณทหารเองนั้น ก็มีความปรารถนาทางการเมืองอย่างที่สุด คือ เป็นกันชนระหว่างรัชกาลที่ 5 กับสมเด็จเจ้าพระยาฯ เท่าที่จะทำได้

เป็นที่แน่ชัดว่าเจ้าคุณทหารได้เลือกเข้าข้างรัชกาลที่ 5 และเพื่อสลายความตึงเครียดดังกล่าว รัชกาลที่ 5 มีรับสั่งให้ตั้งกองสักเลข เพื่อชดเชยทางบัญชีให้กับเมืองเพชรบุรี-ราชบุรี ที่ไพร่หนีไปสมัครเป็นทหาร โดยมอบหมายให้หลานชายของ “สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์” (ช่วง บุนนาค) เป็นแม่กอง เรื่องนี้จึงเป็นอันยุติ

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 4 มกราคม 2564