2 นายทหารญี่ปุ่นแข่ง “ฆ่า(ชาวจีน)100 ศพ” โดยมีไวน์ 1 ขวดเป็นเดิมพัน

โนะดะ สึโยะชิ มุกะอิ โทะชิอะกิ 2 นายทหารญี่ปุ่น แข่งขัน ฆ่าชาวจีน 100 ศพ
โนะดะ สึโยะชิ และมุกะอิ โทะชิอะกิ 2 นายทหารญี่ปุ่นที่แข่งขันการฆ่าชาวจีน 100 ศพ

ช่วง สงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่น 2 นาย แข่งกันฆ่า (ชาวจีน) 100 ศพ โดยมีไวน์ 1 ขวด เป็นเดิมพัน ถือเป็นโศกนาฏกรรมอันโหดร้ายและน่าหดหู่อย่างยิ่ง

ก่อนที่กองทัพญี่ปุ่นจะยึดเมืองเซี่ยงไฮ้ของจีนได้ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1937 ญี่ปุ่นป่าวประกาศว่าจีนจะสิ้นเอกราชใน 3 เดือน เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่า กองทัพจีนที่มียุทโธปกรณ์ย่ำแย่จะมีกําลังสู้รบอันทรงพลังมากเช่นนี้ และแม้จะสามารถทำได้อย่างที่พูด แต่ก็สิ้นเปลืองกําลังไปมหาศาล นั่นทำให้ทหารญี่ปุ่นโกรธ เอาคืนจีนด้วยการทารุณกรรมและเข่นฆ่าอย่างโหดร้าย

หนึ่งในการเอาคืนก็คือ การแข่งขัน “ฆ่า 100 ศพ” ของนายทหาร 2 คน ที่มีไวน์ขวดเดียวเป็นเดิมพัน !!!

ความโหดร้าย สงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2

ทหารญี่ปุ่น 2 นาย ที่ก่อเหตุในช่วง สงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 ที่ว่าก็คือ ร้อยตรี โนะดะ สึโยะชิ (มีอีกชื่อหนึ่งคือ โนะดะ อิวะ) อายุ 25 ปี เป็นชาวจังหวัดคะโงะชิมะ ขณะนั้นเป็นรองหัวหน้าหน่วยรบ จังหวัดโทะยะมะ และ ร้อยตรี มุกะอิ โทะชิอะกิ อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดยะมะงุชิ ดํารงตําแหน่งหัวหน้าหน่วยรบเล็กทหารปืนใหญ่ พวกเขามาจากหน่วยรบใหญ่ที่ 3 กองกําลังร่วมที่ 9 กองพลน้อยที่ 19 กองพลทหารราบที่ 16 แห่งกองทัพญี่ปุ่น เข้าร่วมศึกซงฮู่ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1937

เนื่องจากกองทัพญี่ปุ่นเป็นฝ่ายเสียเปรียบในศึกที่เมืองเซี่ยงไฮ้ หลังจากได้รับคําสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข่นฆ่าอย่างอํามหิตแล้ว ความโหดเหี้ยมทารุณของนายทหารทั้งสองถูกเปิดโปงออกมา เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1937 กองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนพลจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไปบุกโจมตีกรุงนานกิง ระหว่างทางพวกเขายกเลิกกฎห้ามฆ่าคน และก่อเหตุสังหารชีวิตประชาชนอย่างโหดร้ายทารุณนับไม่ถ้วน

ขณะอยู่ที่เมืองอู๋ซี สึโยะชิและโทะชิอะกิ ตกลงกันว่าจะแข่งกันฆ่าคน ใครฆ่าได้ครบ 100 คน ก่อนถือว่าเป็นผู้ชนะ และจะได้ไวน์หนึ่งขวดเป็นของรางวัล โดยตั้งชื่อการแข่งขันครั้งนี้ว่า “ฆ่า 100 ศพ”

หนังสือพิมพ์โตเกียวนิชินิชชิมบุง (ปัจจุบันคือ หนังสือพิมพ์ไมนิชชิมบุง) ลงข่าวทหารญี่ปุ่น 2 นายอย่างต่อเนื่อง ข่าวในที่เกิดเหตุเหล่านี้ถูกส่งกลับมาจากนักข่าว 4 คน ของหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ที่ติดตามกองทัพไปตามเมืองต่างๆ ของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน อันได้แก่ ฉางโจว ตันหยาง จวี้หรง และนานกิง

หนังสือพิมพ์โตเกียวนิชินิชชิมบุงรายงานข่าวทหาร 2 นายกับเกมล่าสังหารที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆ อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นตําบลเหิงหลิน ที่เมืองอู๋ซี, สถานีรถไฟ ที่เมืองฉางโจว, ตําบลเป็นหนิว ตําบลหลี่วเฉิง และตําบลหลิงโข่ว ที่เมืองตันหยาง, ตัวเมืองจวี้หรง, ภูเขาจื่อจินซาน ที่กรุงนานกิง เป็นต้น นอกจากระบุเวลาและสถานที่เกิดเหตุอย่างชัดเจนแล้ว ยังเล่าเหตุการณ์การสังหาร, จํานวนผู้เสียชีวิตอย่างละเอียด ทั้งลงรูปประกอบไว้อีกด้วย

ไล่ฆ่าอย่างไร้ความปรานี

ครั้งหนึ่งนักข่าวบันทึกภาพเหตุการณ์พบกันของทั้งสอง ที่หน้าสถานีรถไฟเมืองฉางโจวไว้ว่า ขณะนั้น โทะชิอะกิฆ่าชาวจีนไป 56 คนแล้ว ส่วนสึโยะชิสังหารไป 25 คน

โทะชิอะกิพูดกับสึโยะชิอย่างภาคภูมิใจว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่ต้องไปถึงกรุงนานกิงหรอก แค่ตอนไปเมืองตันหยาง ผมก็คงฆ่าได้ประมาณ 100 คนแล้วละ ดาบของผมฆ่าไปแล้ว 56 คน มีรอยแหว่งที่เดียวเอง”

สึโยะชิพูดอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “เราสองคนไม่ฆ่าพวกที่วิ่งหนีไป แถมผมยังเป็นรองหัวหน้าอีก ดังนั้นผลงานเลยไปไม่ถึงไหน ก่อนถึงเมืองตันหยาง ผมจะต้องสร้างสถิติครั้งใหญ่ให้คุณเห็นจนได้”

2 ธันวาคม ค.ศ. 1937 กองทัพที่ทั้งสองสังกัดเคลื่อนทัพบุกมาถึงตัวเมืองตันหยาง การแข่งขัน “ฆ่า 100 ศพ” ของพวกเขาก็ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น ด้วยการฆ่าฝ่ายตรงข้ามทุกคนที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ ผู้หญิง หรือเด็ก ก็ไม่ปล่อยให้รอดมือ ถึงเวลานี้พวกเขาสองคนฆ่าชาวจีนไปอีก 70 คน โดยสึโยะชิฆ่าไป 40 คน ส่วนโทะชิอะกิฆ่าไป 30 คน

10 ธันวาคม ค.ศ. 1937 กองทัพญี่ปุ่นบุกโจมตีตัวเมืองนานกิงครั้งใหญ่ ทิศทางที่กองพลที่ 16 บุกโจมตีหลักคือประตูเมืองจงซาน หลังจากสู้รบกันอย่างดุเดือด กองทัพญี่ปุ่นก็ยึดภูเขาจื่อจินอยู่นอกประตูเมืองจงซาน ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองลงมาเห็นบริเวณโดยรอบได้

ที่เชิงเขาจื่อจินนี้เอง สึโยะชิและโทะชิอะกิพบกัน ในมือทั้งคู่ยังถือดาบซามูไรแบบญี่ปุ่นแหว่งไป นักข่าวที่ติดตามกองทัพได้บรรยายบทสนทนาของพวกเขาไว้ว่า

โนะดะ สึโยะชิ ถาม มุกะอิ โทะชิอะกิ ว่า “เฮ้ย ผมฆ่าไป 105 คนแล้วนะ แล้วคุณล่ะ”

มุกะอิ โทะชิอะกิตอบว่า “106 คน”

พวกเขาสองคนตกลงกันว่า “ถือว่าเกมนี้เสมอกัน มาเริ่มแข่งฆ่าคนกันใหม่ เอาสัก 150 คน เป็นไง”

ดังนั้นการแข่งขันฆ่าคน 150 ศพจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง !!!

หนังสือพิมพ์ นิชินิชิชิมบุง วันที่ 13 ตุลาคม 1937 เสนอข่าว (ขวา) โนะดะ สึโยะชิ (ซ้าย) มุกะอิ โทะชิอะกิ  นายทหารญี่ปุ่นที่แข่ง “ฆ่า 100ศพ” พบกันที่เชิงเขาจื่อจิน เมืองฉางโจว โนะดะ สึโยะชิ พูดขึ้นว่า “เห้ย ผมฆ่าไป 105 คนแล้วนะ…”

ความโหดร้ายและปราศจากความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ทำให้ “การสังหารหมู่ที่กรุงนานกิง” มีชาวจีนมากกว่า 300,000 คน ถูกสังหารอย่างไร้มนุษยธรรม

หลังจากญี่ปุ่นยอมแพ้ (ค.ศ. 1945) เกาเหวินปิน ผู้แทนประเทศจีน ซึ่งเข้าร่วมการพิจารณาคดีอาชญากรสงครามชาวญี่ปุ่น ที่ศาลทหารระหว่างประเทศสําหรับตะวันออกไกล ณ กรุงโตเกียว พบรายงานข่าวเกมสังหาร “ฆ่า 100 ศพ” ชิ้นนี้โดยบังเอิญในเอกสารที่เก็บเข้าแฟ้ม ซึ่งถูกกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรปิดผนึกเก็บรักษาไว้

เกาเหวินปิน จึงแจ้งทางการกรุงนานกิงทันที เพื่อส่งนายทหารญี่ปุ่น 2 คน คือ สึโยะชิและโทะชิอะกิ ข้ามแดนไปยังประเทศจีน เมื่ออยู่ต่อหน้าหลักฐานต่างๆ ทั้งคู่ก็ยอมรับข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาตัดสินใจให้ลงโทษประหารชีวิตพวกเขา

วันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1948 ทั้งสองคนถูกยิงเป้าที่แดนประหารอวี่ฮัวไถ ซึ่งอยู่นอกประตูเมืองจงหัว กรุงนานกิง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


ข้อมูลจาก :

เส้าหย่ง เขียน, กำพล ปิยะสิริกุล แปล. “เกมสังหารของนายทหารญี่ปุ่น” ใน, หลังสิ้นบัลลังก์มังกร ประวัติศาสตร์จีนยุคเปลี่ยนผ่าน, กรุงเทพฯ : มติชน 2560.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2563