“ลึงค์” เล็ก-ใหญ่ ใครว่าไม่สำคัญ ดูค่านิยมกรีกโบราณฮิตเล็ก-ยี้อันใหญ่ ยุคใหม่ดันสลับกัน

รูปปั้น กรีก เทพเจ้า ลึงค์ เพศ
(ซ้าย) รูปปั้นกรีกที่จัดแสดงในนิทรรศการ "the plato in the land of Confucius" ที่มาเก๊า เมื่อ 2008 ภาพจาก AFP (ขวา) ภาพ เทพพริอาพุส มี ลึงค์ ขนาดใหญ่ (Fer.filol, via Wikimedia Commons)

แม้นักวิจัยมักจะบอกว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยันได้ว่า ขนาดลึงค์ของผู้ชาย มีผลต่อความสุขสมในการร่วมเพศของผู้หญิง แต่ช่างหัวนักวิจัยปะไร เพราะผู้หญิงสมัยนี้ส่วนหนึ่งบอกเลยว่า ลึงค์ใหญ่นั้นดีกว่าลึงค์เล็กแน่ๆ หากพวกเธอคิดจะหาความสุขทางเพศแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

นี่ไม่ใช่การพูดเอามันแต่มันมีงานวิจัยรองรับ เป็นงานที่เผยแพร่เมื่อปี 2015 [1] ซึ่งทำการทดลองกับสาวๆ 75 ราย เพื่อสอบถามขนาดลึงค์ที่ถูกใจพวกเธอ โดยใช้ลึงค์จำลองแบบสามมิติมาเป็นอุปกรณ์ตัวอย่างในการสอบถามเป็นครั้งแรก (หลังจากที่งานทดลองที่ผ่านๆ มา มักใช้แต่ภาพ 2 มิติ) พบว่า กลุ่มตัวอย่างโดยเฉลี่ยแล้วนิยมลึงค์ขนาด 6.3 นิ้ว เส้นรอบวง 4.8 นิ้ว สำหรับคู่ที่เธอหวังจะคบระยะยาว แต่ถ้าพวกเธอหวังสนุกชั่วข้ามคืน ก็จะเพิ่มขนาดขึ้นมาอีกหน่อย เป็น 6.4 นิ้ว กับเส้นรอบวงสัก 5 นิ้ว

Advertisement

แต่อนิจจาสาวๆ เหล่านี้คงต้องผิดหวังซะแล้ว เพราะผู้ชายส่วนใหญ่มีขนาดลึงค์ที่แข็งตัวโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 5.16 นิ้วเท่านั้น จากข้อมูลของงานวิจัยที่ใช้ข้อมูลจากชายหนุ่มรอบโลก จำนวน 15,521 คน [2]

ฉะนั้น ไม่ว่าสาวๆ จะมองหาหนุ่มๆ เพื่อความสำราญชั่วคราว หรือจะหาคู่ชีวิต ก็คงต้องลดความคาดหวังลงมาสักหน่อย

อย่างไรก็ดี ค่านิยมของผู้หญิง 75 คน ซึ่งเป็นอาสาสมัครที่หาได้แถวๆ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย คงไม่อาจใช้เป็นบรรทัดฐานได้ว่า สาวๆ จากมุมโลกอื่นๆ จะเห็นเหมือนๆ กัน เพราะแต่ละสังคมก็คงมีค่านิยมที่ต่างกันไป อย่างในโลกตะวันออก ถ้าใครมาทำการทดลองแบบนี้ ก็คงถูกด่าว่าไร้สาระ ไม่มีอะไรจะทำไปแล้ว

เทพเจ้าอะพอลโล (Livioandronico2013, via Wikimedia Commons)
เทพเจ้าอะพอลโล (Livioandronico2013, via Wikimedia Commons)

เช่นเดียวกัน หากเรามองย้อนกลับไปยังสังคมในอดีต เช่น สังคมกรีกโบราณ ถ้าพวกเขาได้เห็นงานวิจัยที่ว่า ก็คงรับไม่ได้กับผลสรุปของมัน เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว ผู้ชายลึงค์เล็กนั้นน่ารักน่าปรารถนากว่าผู้ชายลึงค์ใหญ่เป็นไหนๆ (แต่อันนี้อาจจะเป็นความปรารถนาระหว่างผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันเองก็เป็นได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า ชาวกรีกมองสัมพันธ์ทางเพศ ระหว่างชายหนุ่มกับเด็กชายวัยรุ่นอายุน้อยกว่าเป็นเรื่องปกติ)

ค่านิยมของชาวกรีก สะท้อนให้เห็นจากงานศิลปะของพวกเขา ที่บรรดาฮีโร่แ ละเทพเจ้าส่วนใหญ่แล้วจะมีอวัยวะเพศขนาดกะทัดรัดด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นซุส โพเซดอน อะพอลโล หรือเอรีส

แม้กระทั่งเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งจริงๆ ก็มีอยู่หลายองค์ แต่ถ้าเป็นเทพผู้ชายอย่าง ไดโอนิซุส ก็ยังมีลึงค์ขนาดเล็กเช่นกัน ต่างไปจากกลุ่มความเชื่ออื่นๆ ที่เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ มักจะถูกเชื่อมโยงกับการมีลึงค์ขนาดใหญ่กันทั้งนั้น

เซเทอร์ ลึงค์
เซเทอร์ อมุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่มี ลึงค์ แข็งตัวตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน ในศิลปะกรีกก็มีเทพ หรืออมุษย์ ที่มีลึงค์ขนาดมหึมากับเขาด้วย แต่เทพ และอมุษย์พวกนี้ มักถูกมองด้วยสายตาหยามหมิ่นว่าต่ำชั้น อย่างเซเทอร์ (Satyr) อมนุษย์ครึ่งคนครึ่งแพะ (หรือม้า) บริวารของเทพไดโอนิซุส ซึ่งมักปรากฏกายด้วยลึงค์ที่ตั้งตรงตลอดเวลา มักมีหน้าน่าเกลียด และเป็นพวกมักมากในกาม

เทพอีกองค์ที่มีลึงค์แข็งตัวตลอดเวลาก็คือ พริอาพุส  (Priapus) เทพบุตรที่มีความเชื่อมโยงกับความอุดมสมบูรณ์อีกองค์ เป็นบุตรของอะโฟรไดตี (Aphrodite) หรือวีนัสของโรมัน แต่พ่อของท่านมีเทพเป็นแคนดิเดตอยู่หลายองค์แล้วแต่แหล่งข้อมูล ส่วนเหตุที่ พริอาพุส มีหน้าตาน่าเกลียด จิตใจหยาบโลน พร้อมกับลึงค์ขนาดใหญ่ตั้งตรงตลอดเวลา ก็เพราะว่า ท่านถูกสาปแช่งตั้งแต่ยังไม่เกิดโดย เฮรา (Hera) ภรรยาของซุส ซึ่งไม่พอใจที่ปารีสไปโหวตให้อะโฟรไดตี เป็นเทพีที่สวยที่สุดในจักรภพ

เทพพริอาพุส ลึงค์
เทพพริอาพุส กับ ลึงค์ ขนาดใหญ่ (Fer.filol, via Wikimedia Commons)

เรื่องนี้ แอนดรูว์ เลียร์ (Andrew Lear) ศาสตราจารย์สาขาคลาสสิค ที่สอนอยู่ในหลายสถาบันดัง เช่น ฮาร์วาร์ด โคลัมเบีย และนิวยอร์กยูนิเวอร์ซิตี บอกว่า “พวกกรีกมักจะเชื่อมโยงชายผู้มีลึงค์ขนาดเล็กและไม่แข็งตัว กับความพอดี ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของความเป็นชายในอุดมคติของพวกเขา” [3]

ขณะที่พวกมักมาก ขาดสติ ไม่รู้จักใช้เหตุผล หรือพวกขี้เมา แก่ น่าเกลียดน่ากลัว ก็มักจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับการมีลึงค์ขนาดใหญ่ เหมือนพวกเซเทอร์ หรือ พริอาพุส นั่นเอง

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อว่า ลึงค์ใหญ่จะทำให้สาวมีความสุขมากกว่า หรือจะเป็นความเชื่อที่ว่า คนลึงค์ใหญ่เป็นพวกมักมาก ไม่มีศีลธรรม หรือไม่รู้จักใช้เหตุผล ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงมายาคติ ที่ไม่มีข้อพิสูจน์บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงทั้งสิ้น

และอีกสิ่งที่อย่างจะฝากไว้สำหรับคนที่มองเรื่องของ ลึงค์ เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจไม่สมควรจะเอามาพูดว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องทะลึ่ง ตลกโปกฮา เท่านั้น แต่ฝรั่งเขาศึกษากันจริงจัง เพื่อเข้าใจสังคมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสังคมในยุคอดีตหรือปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันเอง ความกังวลเรื่องขนาดก็ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อชายลึงค์เล็กเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การขาดความมั่นใจ และสมรรถภาพทางเพศ เรื่อยไปถึงความกังวลที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพใหญ่ของสังคมได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เชิงอรรถ :

[1] Prause N, Park J, Leung S, Miller G (2015). Women’s Preferences for Penis Size: A New Research Method Using Selection among 3D Models. PLoS ONE 10(9): e0133079. doi:10.1371/journal.pone.0133079

[2] Veale, D., Miles, S., Bramley, S., Muir, G. and Hodsoll, J. (2015), Am I normal? A systematic review and construction of nomograms for flaccid and erect penis length and circumference in up to 15521 men. BJU Int, 115: 978–986. doi:10.1111/bju.13010

[3] Goldhill O. Why do Greek statues have such small penises?. Quartz. <http://qz.com/689617/why-do-greek-statues-have-such-small-penises/>


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 14 ธันวาคม 2559