ผู้เขียน | อัศวัตถามา |
---|---|
เผยแพร่ |
ในยุค กรีกโบราณ มีระบบความสัมพันธ์ระหว่างชาย 2 คน ที่เรียกว่า Pederastic Relationships หรือ เปเดรัสตี (Pederasty) แปลตรงตัวตามภาษากรีกว่า “ผู้รักเด็กชาย” โดยชายที่เป็นผู้ใหญ่อายุระหว่าง 20-40 ปี จะจับคู่กับเด็กชายวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี จากนั้นชายผู้นั้นจะเป็นผู้ดูแลเด็กชายในลักษณะ Mentor คือ เป็นที่ปรึกษา สอนเรื่องต่าง ๆ แก่เด็กชาย ทั้งการดำเนินชีวิต สังคม วิชาการ และเรื่องอื่น ๆ
โดยฝ่ายชายที่เป็นผู้ใหญ่เรียกว่า อีราสเตส (Erastes) ส่วนเด็กชายที่รับการดูแลจะเรียกว่า อีโรเมนอส (Eromenos)
นอกจากอีราสเตสมีหน้าที่ดูแลเรื่องวิชาการและการดำเนินชีวิตของอีโรเมนอสแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังมีความพิเศษ คือ อีราเตสจะแสดงความรักที่มีต่ออีโรเมนอสด้วยการมีสัมพันธ์ทางเพศ โดยฝ่ายอีราสเตสเป็นผู้แสดงออก ส่วนอีโรมเมนอสเป็นฝ่ายรับหรือสนองตอบการการแสดงออกนั้น
แต่การแสดงออกดังกล่าวจะเป็นกิจกรรมภายนอกเท่านั้น ทั้งอีราสเตสและอีโรเมนอสจะไม่ล่วงล้ำภายในของกันและกัน โดยเฉพาะอีราสเตสที่เป็นผู้แสดงออก ทั้งนี้เพื่อรักษาศักดิ์ศรีความเป็นชายของอีโรเมนอส ถึงอย่างนั้น ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเปเดรัสตีสแต่ละคู่รักษาขนบนี้อย่างเคร่งครัดเพียงใด…
เมื่ออีโรเมนอสเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์ดังกล่าวจะต้องยุติลง เพราะความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย (ยกเว้นการซื้อทาสมาบำเรอกาม)
ช่วงอายุที่เด็กชายเข้าสู่ความสัมพันธ์แบบเปเดรัสตี เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เด็กหญิงชาวกรีกสามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ หมายความว่าสามีของเธอย่อมเป็นชายที่เป็นผู้ใหญ่หรือมีอายุมากกว่าซึ่งหมดพันธะหรือจบสถานะการเป็นอีโรเมนอสแล้ว
วัฒนธรรม กรีกโบราณ ให้ความสำคัญกับแนวคิดความงดงามของเพศชายอย่างมาก รักร่วมเพศ ในสังคมกรีกไม่ใช่สิ่งน่ารังเกียจ เว้นเสียแต่จะสร้างปัญหาเรื่องการสมรสหรือสืบทอดบุตรหลาน ระบบเปเดรัสตียังนิยาม ความเป็นชาย (Manliness) ของบุรุษทั้งหลายว่าสามารถส่งจากผู้ใหญ่มาสู่เด็กชายผ่านอวัยวะเพศและน้ำกาม จากนั้นเด็กชายจะเติบโตและมีครอบครัวตามปกติ เมื่อเด็กชายโตเป็นผู้ใหญ่ เขาสามารถรับเด็กชายมาดูแลได้ด้วยเช่นกัน
นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าระบบเปเดรัสตีของกรีกโบราณพัฒนาขึ้นในอารยธรรมต้นกำเนิดที่ เกาะครีต (Crete) โดยระยะแรกเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการทหาร (ทหารอาวุโสอบรมและฝึกฝนทหารใหม่) และเพื่อลัทธิบูชาเทพซูส (Zeus) เทพเจ้าสูงสุดในตำนานปรัมปรากรีก เพราะประวัติความเจ้าชู้ของซูสไม่ได้ข้องเกี่ยวกับสตรีเท่านั้น เพราะเขาเคยรักใคร่กับหนุ่มมนุษย์รูปงามนามว่า แกนีมีด (Ganymede) ด้วย
หลักฐานเก่าแก่ของอารยธรรมกรีกอย่างมหากาพย์ของโฮเมอร์ (Homeric epics) ไม่ได้ยืนยันการมีอยู่ของระบบเปเดรัสตี แต่เชื่อว่าระบบนี้น่าจะพัฒนาขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล พร้อมกันกับวัฒนธรรม รักร่วมเพศ ในสังคมกรีก ก่อนจะนิยมอย่างชัดเจนที่สุดในนครเอเธนส์ (Athens) ยุคศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล โดยมีหลักฐานโดดเด่นเป็นงานศิลปะและภาพเขียนที่ปรากฏภาพเปลือยของนักกีฬาเพศชาย งานเลี้ยงสังสรรค์ การเล่นดนตรี เต้นรำ และกิจกรรมแนบชิดระหว่างเพศชาย รวมถึงบันทึกการมีส่วนร่วมทางสังคมที่ค่อนข้างแปลกแยกออกไปของเพศหญิง
มีการนิยามระบบเปเดรัสตีว่าคือ “The principal cultural model for free relationships between citizens.” หรือต้นแบบทางวัฒนธรรมที่สำคัญสำหรับเสรีภาพในความสัมพันธ์ระหว่างพลเมือง
รูปแบบความสัมพันธ์ของระบบเปเดรัสตีถูกส่งต่อมายังสังคมโรมันที่รับอารยธรรมกรีกมาเต็ม ๆ แต่ชาวโรมันใช้ในการอุปถัมภ์ลักษณะแบบครูและศิษย์ หรือพ่อ-ลูก มากกว่าการเป็นคู่รัก อย่างไรก็ตาม มีเรื่องราวระหว่างจักรพรรดิเฮเดรียนแห่งจักรวรรดิโรมันที่รับแอนทิโนอุส เด็กหนุ่มชาวกรีกมาอุปถัมภ์ในระบบเปเดรัสตี แต่พวกเขามีความสัมพันธ์ทางเพศกันอย่างลึกซึ้ง
ซาราห์ อิลส์ จอนห์นสตัน (Sarah Iles Johnston) นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันกล่าวว่า “Pederasty เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในกรีซว่าเป็นส่วนหนึ่งของการบรรลุนิติภาวะของผู้ชาย แม้ว่ารูปแบบของมันยังเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวาง”
ปัจจุบันมีการให้ความเห็นที่หลากหลายในเชิงศีลธรรมว่าระบบเปเดรัสตีเป็นการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนหรือไม่ และคนรุ่นใหม่ควรมองหรือศึกษาประเด็นนี้อย่างไร ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ของอีราสเตส-อีโรเมนอสมีบทบาทในระบบสังคมและการศึกษาของกรีกโบราณอย่างแน่นอน เพราะชนชั้นสูงชาวกรีกยึดถือระบบนี้เป็นมารยาททางสังคมที่พึงถือปฏิบัติ แต่สำหรับประเด็นกิจกรรมทางเพศนั้นมักขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลหรือแต่ละคู่ว่าจะปฏิบัติต่อกันในระดับใด
อ่านเพิ่มเติม :
- “แอนทิโนอุส” หนุ่มน้อยชาวกรีกจากชนบทห่างไกล ผู้กุมหัวใจจักรพรรดิโรมัน
- บันทึกจีนยุคราชวงศ์โจว-ฮั่น เผย “ความสัมพันธ์ชาย-ชาย” ในชนชั้นสูงเป็นเรื่องปกติ!?
อ้างอิง :
HISTORY EXTRA: What was pederasty in ancient Greece?
Nicole Holmen; INQUIRIES: Examining Greek Pederastic Relationships
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 22 กันยายน 2565