ความสัมพันธ์ระหว่างปรีดี พนมยงค์ กับกรมพระยาดำรงราชานุภาพ จากความทรงจำโอรสองค์เล็ก

การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 ส่งผลกระทบต่อประเทศและบุคคลสำคัญในไทยหลายประการ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นเจ้านายอีกหนึ่งพระองค์ที่ถูกคณะก่อการจับ ภายหลังช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว เมื่อเกิดกบฏขึ้น พระองค์ต้องทรงลี้ภัยการเมืองไปหลายปี ความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับบุคคลสำคัญในคณะผู้ก่อการเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีผู้สนใจศึกษากัน กรณีนี้ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล โอรสองค์เล็กในกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงประทานสัมภาษณ์ไว้ด้วย

ศ. หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ทรงประทานสัมภาษณ์เรื่องนี้และตีพิมพ์ครั้งแรกใน “โลกหนังสือ” (ฉบับเดือนกรกฎาคม 2525) และปรากฏเนื้อหานี้อีกครั้งในบทความ “ห้วงแห่งชีวิตและงานบางเสี้ยวของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” โดยบุญยก ตามไท ใน “ศิลปวัฒนธรรม” (ฉบับเดือนมิถุนายน 2528)

ประเด็นว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกรมพระยาดำรงราชานุภาพ กับปรีดี พนมยงค์ นั้น บุญยก ตามไท บรรยายไว้ว่า พระองค์ทรงเชื่อถือ ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการและได้เข้าเฝ้าพระองค์ที่วังวรดิศหลังจากเสด็จนิวัติประเทศแล้วไม่นาน ในครั้งนี้ พระองค์ทรงฝากฝังให้นายปรีดี พนมยงค์ ช่วยป้องกันรักษาประเทศชาติให้ดีที่สุด

ศ. หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ทรงประทานให้สัมภาษณ์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกรมพระยาดำรงราชานุภาพ กับนายปรีดี พนมยงค์ ไว้ว่า

“พ่อฉันไม่รู้จักท่านปรีดีมาก่อน เจอกันครั้งแรก ท่านปรีดีมากับพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพย์อาภาแล้วอีกครั้งหนึ่ง รู้สึกท่านปรีดีจะมาคนเดียวมาขอดูห้องสมุด ห้องหนังสือของท่าน”

“เมื่อครั้งท่านลี้ภัยไปอยู่ปีนัง เงินปีของเจ้าโดนตัด ฉันไม่รู้นะว่าเป็นเงินปีเจ้าหรือเงินบำนาญ แต่ว่าเงินโดนตัด พอท่านเสด็จกลับ ท่านปรีดีสั่งให้ถวายคืน ห้องกรมดํารงฯ นี่ที่มีหนังสือ ท่านปรีดีเป็นคนช่วยหาเงินให้สร้างตึก”

“จะให้ฉันออกรับแทนว่าท่านปรีดีเคารพนับถือเจ้ามาก ฉันพูดไม่ได้ แต่ท่านปรีดีเป็นคนฉลาด เข้าใจไหม”

เกี่ยวกับทัศนคติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพที่ทรงมีต่อนายปรีดี พนมยงค์ จะดีหรือไม่ดี อย่างไร?

“ท่านไม่เคยพูด เพราะฉะนั้นฉันไม่รู้” ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงรับสั่ง

“แต่มีอยู่คนหนึ่งอยากให้พูดคือ ท่านเรียกท่านปรีดีว่าเจ้าคุณ แล้วยังมีคนเข้าใจผิด พี่สาวฉันซึ่งตอนนั้นเป็นล่าม เพราะท่านกรรณตึง กล่าวว่าขอโทษนะคะเข้าใจว่าท่านปรีดีเป็นพระยา แต่พอเวลาเสวยข้าวตอนกลางคืน ท่านบอกว่า พ่อนึกอยู่นานจะเรียกท่านปรีดีว่าอย่างไร ลงท้ายพ่อเรียกว่าเจ้าคุณ เพราะเขาเป็นคนที่ทําบุญคุณแก่พ่อ อันนี้ฉันได้ยินกับหู ฉันนั่งอยู่ด้วย คือหมายความว่าท่านได้แสด็จกลับเข้ามาแล้วก็ได้เงินปี”

 

คลิกอ่านเพิ่มเติม :


เผยแพร่เนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 31 กรกฎาคม 2562