เผยแพร่ |
---|
ภาพของพระราชวังของจักรพรรดิในอดีตที่ถูกฉายผ่านสื่อมีภาพทหารรักษาวัง ระบบดูแลอารักขาอย่างเข้มงวดเป็นภาพที่ติดตาจนกลายเป็นภาพจำคนทั่วไป แต่ในข้อเท็จจริงตามหลักฐานแล้ว พระราชวังต้องห้ามในจีนมีปัญหาเรื่องการดูแล มีคนปะปนเข้าวัง หรือข้อมูลรายชื่ออาหารของจักรพรรดิรั่วไหลไปไต้หวันด้วยซ้ำ
เวลาล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน พระราชวังต้องห้ามเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอันดับต้นของจีน นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมามหาศาล ขณะที่ทางการจีนก็ปรับกลยุทธ์เพื่อรับนักท่องเที่ยวหลายอย่าง ทั้งเปิดพื้นที่เรียนรู้เกี่ยวกับจุดที่ไม่เคยเปิดให้เข้าชม และล่าสุด เพิ่งเปิดให้เข้าชมวังต้องห้ามในเวลากลางคืนเป็นครั้งแรกในรอบ 94 ปีจนทำให้มีผู้สนใจลงทะเบียนรับตั๋วเข้าชมฟรีจำนวนมากจนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการล่มในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดให้ลงชื่อ
ความยากลำบากเหล่านี้เป็นสภาพที่ทั่วโลกรับรู้และเป็นภาพจำในปัจจุบัน แต่หากย้อนกลับไปในอดีต ช่วงที่พระราชวังต้องห้ามยังเป็นที่ประทับของจักรพรรดิหลายราชวงศ์ พระราชวังต้องห้ามมีปัญหาเรื่องการดูแลจนผู้คนปะปนเข้า-ออกพระราชวัง “ต้องห้าม” กันอย่างน่าเหลือเชื่อไม่ต่างจากเขตพระราชวังในสยามช่วงต้นรัตนโกสินทร์ที่มีเหตุการณ์บุคคลปีนวังบุกตำหนักเจ้าจอมเกิดขึ้น (อ่านเพิ่มเติม : “อ้ายมาปีนวัง” เรื่องที่หายจากพงศาวดาร โจรสวาทผู้บังอาจที่สุดในรัตนโกสินทร์)
สำหรับพระราชวังต้องห้ามในจีน หากพิจารณาจากสื่อบันเทิงในละครหรือภาพยนตร์จีนที่มีฉากทหารรักษาวังเข้มงวด แต่ความเป็นจริงแล้ว หลักฐานที่นักประวัติศาสตร์สำรวจพบบ่งชี้ว่า พื้นที่อันกว้างขวางและบุคลากรจำนวนมากที่อาศัยในวังต้องอาศัยปัจจัยดำรงชีพมากมาย แถมยังต้องบำรุงซ่อมแซมอีก แต่ละวันย่อมมีกำลังคนและสิ่งของต่างๆ เข้า-ออกอยู่เสมอ จำนวนคนและสิ่งของมากก็ย่อมตามมาด้วยปัญหา ไม่ว่าจะเป็นคนนอกปะปนเข้าวัง คนในวังลักลอบนำข้อมูลสำคัญออกนอกวังบ้าง ซึ่งแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ทำอะไรชาววังไม่ได้ เนื่องจากพระองค์ก็ต้องอาศัยชาววังในการดูแลรักษาความเป็นอยู่ในวังให้ดำเนินต่อไป
เหตุการณ์ที่ปรากฏให้เห็นจากบันทึกมีหลายครั้งที่สะท้อนสภาพข้างต้น หวังอีเฉียว ผู้เขียนหนังสือ “เรื่องไม่เคยเล่าในวังต้องห้าม” อ้างอิงบันทึกเหตุการณ์ วันที่เก้าเดือนสาม รัชศกเฉียนหลงปีที่สี่สิบห้า ฮั่นเปิ่นถัง (หน่วยงานที่แปลหนังสือจากภาษาแมนจูเป็นจีน) เคยถวายรายงานกรณีคนรับใช้ทำป้ายห้อยเอวหาย หาจนทั่วโดยใช้เวลาหาหลายวันก็ยังไม่พบ หลังสอบสวนแล้วลงความเห็นว่าทำหายนอกวัง ผู้รับใช้นามว่า โจวเลี่ยง จึงถูกลงโทษ
อีกตัวอย่างคือ เมื่อสมัยรัชศกเจียชิ่ง ปีที่แปด เฟ่ยสีจาง ข้าราชการมณฑลเสฉวน ถวายฎีกามีเนื้อความว่า “ในพระราชวังต้องห้ามมีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ตามเหตุผลควรเป็นระเบียบเรียบร้อยดี แต่กลับมีคนขับรถม้า ช่างฝีมือและแรงงานเข้าออกตามสะดวก ไร้ความกริ่งเกรง มิได้เข้มงวดอย่างที่คิด จึงควรให้เพิ่มป้ายห้อยเอวเพื่อตรวจสอบผู้เข้าออกให้เข้มงวด…”
หวังอีเฉียว ยังบรรยายต่อว่า ในสมัยเดียวกันยังปรากฏบันทึกคดีทหารรักษากำแพงวังแอบยืมป้ายเอวกัน และเคยเกิดกรณีลักลอบนำรายการอาหารของจักรพรรดิออกนอกวัง คดีนี้เป็นหลินเปี่ยว และหลินเสี่ยน ทายาทของสกุลหลินซึ่งต้องโทษจนถูกตอนเป็นขันทีเข้าวัง เมื่อทำงานไปหลายปีแล้วปรากฏว่าลักลอบติดต่อญาติ นำรายการอาหารของห้องต้นเครื่องและห้องละครส่งออกนอกวังให้ญาติมิตรนำส่งไปไต้หวัน ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญในสมัยนั้น
ไม่เพียงเท่านี้ ด้วยพื้นที่กว้างขวางของพระราชวัง การสอดส่องดูแลจำเป็นต้องมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อมีปัญหาเรื่องการดูแลขึ้นจึงปรากฏคดีที่บันทึก “เต้ากวงเฉากงจงตั่ง” ระบุว่า ในรัชศกเต้ากวงปีที่สอง วันที่สิบแปดเดือนสอง องค์จักรพรรดิเต้ากวงมีรับสั่งถึงขุนนางหัวหน้าสำนักพระราชวัง ห้ามขันทีลอบขายนาฬิกาต่างประเทศนอกประตูราชอุทยานหยวนหมิงหยวน และห้ามขันทีเปิดร้านน้ำชาทางซ้ายของประตูราชอุทยานหยวนหมิงหยวน
หนักไปกว่านั้นก็ยังมีคดีขันทีและคนในวังลักขโมยของเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตัวอย่างเหตุการณ์คือ ในรัชศกเฉียนหลง ปีที่ยี่สิบเก้า ขันที คนงาน และคนสวนรวมหัวขโมยเครื่องหยกหอหย่วนฝานเก๋อในวังไปขายจำนวนเจ็ดชิ้น สืบสวนไปมาพบว่า รองหัวหน้าขันทีประจำหอยอมรับว่าควรเป็นคนถือกุญแจหอ แต่เมื่อทำความสะอาดและจัดสิ่งของบ่อย จึงมอบหมายให้ขันทีประจำพื้นที่เป็นคนดูแล
หรืออีกกรณีอย่างการลอบบุกเข้าวังโดยพลการของอดีตทหารซึ่งถูกไล่ออก แต่กลับมาตามหาญาติเพื่อขอยืมเงินไปรักษามารดาที่ล้มป่วย เมื่อทหารรักษาประตูวังรั้งตัวไว้จึงทะเลาะวิวาทกัน
ระหว่างเหตุการณ์ลักลอบเข้าวัง ผู้หาญกล้ารายนี้ตามหาหลานของตัวเองไม่พบและคิดออกจากวัง แต่สุดท้ายหนีทหารไม่พ้นและถูกจับกุม เขาถูกลงโทษอย่างหนักเนื่องจากเข้าเขตหวงห้ามโดยพลการและทะเลาะวิวาท ถูกโบยหนึ่งร้อยไม้ และเพิ่มโทษจองจำด้วยขื่อคาหนึ่งเดือน
อ่านเพิ่มเติม : ผ่าทุกจุด “สวนเฉียนหลง” ในวังต้องห้ามที่ไม่เคยให้เข้าชม เมื่อจีนจ่อเปิดให้ดูครั้งแรก
อ้างอิง:
หวัง, อีเฉียว. เรื่องไม่เคยเล่าในวังต้องห้าม. ชาญ ธนประกอบ แปล. กรุงเทพฯ : มติชน, 2561
Wong, Michelle. “China’s Forbidden City first night opening in 94 years crashes website”. South China Morning Post. Online. 18 FEB 2019. <https://www.scmp.com/news/china/society/article/2186684/chinas-forbidden-city-first-night-opening-94-years-crashes>
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562