ทำไม “จีนกวางตุ้ง” ถึงมีน้อยสุด ในจำนวนกลุ่มจีน 5 ภาษาในไทย?

จีน ร่างทรง ทรงเจ้า สะพานหัน สำเพ็ง ชุมชนชาวจีน จีนกวางตุ้ง
ย่านชุมชนการค้าของชาวจีนบริเวณสะพานหัน-สำเพ็ง เมื่อ ค.ศ. 1948 หรือ พ.ศ. 2491 (ภาพจาก UWMLibraries)

“จีนกวางตุ้ง” กลุ่มจีนที่มีน้อยสุดในไทย ในบรรดากลุ่มจีน 5 ภาษา

แต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน ไหหลำ ฮากกา และกวางตุ้ง คือกลุ่มจีน 5 ภาษาใหญ่ในไทย ชาวจีนที่พูดภาษาเหล่านี้ทยอยอพยพโยกย้ายจากเมืองจีนมาตั้งรกรากในสยาม และมีทายาทสืบต่อรุ่นสู่รุ่นมาถึงปัจจุบัน 

ใน 5 กลุ่มภาษานี้ “จีนกวางตุ้ง” มีจำนวนน้อยสุด ตามที่หนังสือ “ประวัติจีนกรุงสยาม A History of the Thai-Chinese เล่มที่ 2 ยุคล่าอาณานิคม” (สำนักพิมพ์มติชน) โดย เจฟฟรี ซุน และ พิมพ์ประไพ พิศาลบุตร บอกไว้ตอนหนึ่งว่า

บันทึกการรักษาคนไข้ของหมอบรัดเลย์ เมื่อเริ่มเปิดการรักษาช่วง ค.ศ. 1835-1836 (พ.ศ. 2378-2379 อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 3) ระบุว่า มีคนไข้ชาวจีน 934 คน แบ่งเป็นแต้จิ๋ว 713 คน ฮกเกี้ยน 150 คน ไหหลำ 51 คน กวางตุ้ง 15 คน และจีนแคะ (ฮากกา) 5 คน

แม้บันทึกของหมอบรัดเลย์จะไม่ได้สะท้อนตัวเลขของชาวจีนทั้งหมดในกรุงเทพฯ ยุคนั้น แต่ก็พอทำให้เห็นภาพความคึกคักของชาวจีนกลุ่มต่างๆ ได้ไม่น้อย

สำเพ็ง ชุมชนชาวจีน ภาพถ่ายทางอากาศ จีนกวางตุ้ง
ภาพถ่ายทางอากาศย่านสำเพ็ง ชุมชนชาวจีนเก่าแก่ในสยาม บริเวณวัดปทุมคงคา โดย นายปีเตอร์ วิลเลียมส์ ฮันต์ เมื่อ พ.ศ. 2489

แล้วชาวกวางตุ้งออกนอกประเทศจีนกันตั้งแต่เมื่อไหร่?

ชาวจีนที่พูดภาษากวางตุ้งจำนวนมหาศาล พากันเดินทางออกจากเมืองกวางเจา เมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19

เมื่อเรือเดินสมุทรจำนวนมาก โดยเฉพาะเรือของชาวตะวันตกเข้าเทียบท่า ชาวกวางเจาจึงอาศัยเรือเหล่านี้ออกเดินทางสู่โลกกว้าง ส่วนมากมักเดินทางไปยังดินแดนที่เจริญแล้วในทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมทั้งเมืองท่าอาณานิคมของอังกฤษในเอเชีย

มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เดินทางมายังสยาม

สอดคล้องกับที่ วิลเลียม จี. สกินเนอร์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์จีน ตั้งข้อสังเกตว่า เนื่องจากเซี่ยเหมิน (เมืองในมณฑลฝูเจี้ยน นิยมพูดภาษาจีนฮกเกี้ยน) และกวางเจา เปิดเป็นเมืองท่าเสรีตามสนธิสัญญาก่อนเมืองอื่น 16 ปี อีกทั้งเนื่องจากปี 1842-1858 (พ.ศ. 2385-2401) ทางการจีนยังไม่อนุญาตให้เรือต่างชาติเข้าเทียบท่าทั้งที่ซัวเถา และเมืองท่าบนเกาะไหหลำ

ประวัติจีนกรุงสยาม ชุมชนชาวจีน ชาวจีนในไทย จีนกวางตุ้ง
หนังสือ “ประวัติจีนกรุงสยาม A History of the Thai-Chinese เล่มที่ 2 ยุคล่าอาณานิคม”

จีนฮกเกี้ยนและจีนกวางตุ้งจึงได้เปรียบกว่าจีนแต้จิ๋ว จีนแคะ และจีนไหหลำ ในการเดินทางออกมาสร้างเครือข่ายของตนตามเมืองท่านอกประเทศ โดยเฉพาะเมืองที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษในอุษาคเนย์

การเดินทางออกมาของชาวจีนจำนวนมาก ส่งผลให้มีการใช้ภาษาฮกเกี้ยนเป็นสื่อกลางในการสื่อสารที่ปีนัง มะละกา และสิงคโปร์ ส่วนที่ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และเประ ใช้ภาษากวางตุ้งเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร

เมื่อสยามยุติการค้าในระบบบรรณาการ ซึ่งบังคับให้เรือสยามเข้าเทียบท่าที่เมืองกวางเจา ความสัมพันธ์ของฝ่ายสยามกับชาวกวางตุ้งก็เหินห่างไป

นอกจากนี้ ชาวกวางตุ้งซึ่งย้ายถิ่นฐานออกมาอุษาคเนย์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ยังนิยมมุ่งไปตามอาณานิคมของมหาอำนาจที่เดินทางสะดวก มีพรรคพวกตั้งชุมชนอยู่ก่อนหน้า และสามารถทำมาหากินกับพ่อค้าชาวตะวันตกได้อย่างคล่องแคล่ว

ขณะที่มีชาวกวางตุ้งจำนวนน้อยเท่านั้น ที่เข้ามาประกอบอาชีพในสยามและกัมพูชา ซึ่งราชธานีไม่ได้อยู่ติดทะเล

จีนกวางตุ้งไม่นิยมตั้งรกรากในชนบท ยกเว้นจะไปทำเหมืองตามแหล่งทรัพยากร โดยทั่วไปชอบอยู่กันในเมืองใหญ่ ประกอบอาชีพที่อาศัยความเชี่ยวชาญด้านงานฝีมือ งานไม้ งานช่าง และเครื่องจักรกล

บันทึกของสมาคมกวางตุ้งที่กรุงเทพฯ ระบุว่า ในปี 1877 (พ.ศ. 2420 สมัยรัชกาลที่ 5) มีชาวกวางตุ้งพำนักอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ประมาณ 2,000 คนเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

พิมพ์ประไพ พิศาลบุตร, สมชาย จิว และนิรันดร นาคสุริยันต์ แปลและเรียบเรียง. ประวัติศาสตร์จีนกรุงสยาม เล่มที่ 2 ยุคล่าอาณานิคม. กรุงเทพฯ: มติชน, 2568

สั่งซื้อหนังสือชุดนี้ที่เว็บไซต์สำนักพิมพ์มติชน ได้ที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 มิถุนายน 2568