ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
หลังครูบาศรีวิชัย ตนบุญแห่งล้านนาถึงแก่มรณภาพด้วยอายุ 60 ปี ก็มีผู้คนมากมายต่างอยากได้ “อัฐิ” ของท่านกันทั้งสิ้น จนเกิดความปั่นป่วนอยู่ไม่น้อย เพราะในตอนนั้นถึงขั้นมีนายทหารมาตรึงกำลัง 2 คันรถ จึงมีบทวิเคราะห์ออกมาว่า แล้วผู้ใดเป็นคนที่ได้อัฐิของครูบาศรีวิชัยไปบ้าง?
ในบทความ “ปริศนาโบราณคดี : เงื่อนงำแห่งอมตะวาจาครูบาเจ้าศรีวิชัย “หากน้ำปิงไม่ไหลย้อน จักไม่ขอเหยียบนครเชียงใหม่” (จบ)” เผยแพร่ในมติชนสุดสัปดาห์ ระบุไว้ว่ามีหลายเอกสารกล่าวว่าสามารถหาทางออกที่ลงตัวได้ โดยบันทึกว่าแบ่งเป็น 6 ส่วน ดังนี้

ที่แรกที่ต้องมอบให้ คือ วัดบ้านปาง ต. ศรีวิชัย อ. ลี้ จ. ลำพูน เนื่องจากเป็นวัดแรกที่ท่านบวชเรียน ทั้งยังเป็นสถานที่ละสังขารของท่านอีกด้วย
หลังจากมอบให้กับวัดสำคัญของท่าน คณะกรรมการการจัดงานฌาปนกิจศพครูบา ก็มอบให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดมาเซ็นรับรองมอบให้ตามสถานที่ ดังนี้…
ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนรับมอบ

เก็บไว้ที่ วัดจามเทวี ที่นี่ได้ชื่อว่ามีอัฐิของครูบาศรีวิชัยเยอะที่สุด เนื่องจากเป็นสถานที่ทำการฌาปนกิจศพ ทั้งยังเป็นวัดสุดท้ายที่ครูบาสร้างและมารักษาตัวขณะอาพาธ
ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่รับมอบ
เก็บไว้ที่ วัดสวนดอก ก่อนจะแบ่งไปที่ “วัดหมื่นสาร” เนื่องจากเป็นวัดที่นายอิน วิลเลี่ยม ผู้เป็นเจ้าภาพออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจัดงานมหรสพ ที่ศิษย์เอกมือขวาต้องการจัดเลี้ยงชาวเขาที่ศรัทธาครูบาศรีวิชัย ซึ่งมาช่วยงานฌาปนกิจ

นอกจากนี้ยังแบ่งไปที่ วัดเชียงมั่น ซึ่งแบ่งมาจากวัดหมื่นสารอีกทีหนึ่ง
ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางรับมอบ
เก็บไว้ในแท่นแก้ว (ฐานชุกชี) ที่รองรับพระพุทธรูปประธานภายในพระวิหารหลวง วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม แล้วนำรูปปั้นครูบาศรีวิชัยมาประดิษฐานทับปิดไว้
ต่อมามีเหตุพยายามโจรกรรมเกิดขึ้น เจ้าอาวาสวัดพระแก้วดอนเต้าจึงย้ายอัฐิของครูบาศรีวิชัยไปเก็บรักษาอย่างปลอดภัยในกุฏิ

อัฐิที่นี่ถูกแบ่งไปที่ วัดพระธาตุดอยน้อย อ. เกาะคา ด้วยเช่นกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรับมอบ

เก็บไว้ที่กู่อัฐิ วัดพระเจ้าตนหลวง (ศรีโคมคำ) แต่ก่อนที่นี่ยังอยู่ใน อ. พะเยา และขึ้นตรงกับเชียงราย เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญที่ครูบาศรีวิชัยทุ่มเทบูรณะเสนาสนะอย่างมากและใช้เวลาหลายเดือน
จนเมื่อพะเยาขึ้นเป็นจังหวัด เชียงรายจึงต้องขอแบ่งอัฐิมาไว้ที่ วัดพระธาตุเจ้าดอยตุง อ. แม่สาย และฝังอัฐิของท่านไว้ในแท่นแก้วประดิษฐานพระพุทธรูป นำรูปเหมือนของท่านในท่ายืนมาวางทับกู่ไว้อีกทีหนึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่รับมอบ
เก็บอัฐิไว้ที่ วัดพระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดของครูบาศรีวิชัย นั่นคือปีขาล และเป็นวัดแห่งเดียวใน จ. แพร่ ที่ครูบาศรีวิชัยผูกพัน รวมถึงเป็นวัดที่อยู่ทางตะวันออกสุดของล้านนา ที่ครูบาศรีวิชัยเคยไปบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม

ส่วนข้อมูลของจังหวัดน่าน บทความกล่าวว่าไม่พบหลักฐานใด ๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนบทความนี้ยังกล่าวอีกว่า ยังมีอีกหลายวัด ที่มีอัฐิของครูบาศรีวิชัยนอกเหนือจากวัดที่ปรากฏหลักฐาน โดยส่วนนี้ได้มาจากบุคคลสำคัญและลูกศิษย์ลูกหา ที่ได้รับอัฐิของครูบาศรีวิชัยมาหรือขอแบ่งมาจากวัดต่าง ๆ ในบันทึกนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :
- “พัดดำรงธรรม” พัดที่กรมดำรงทรงสั่งถวาย “ครูบาศรีวิชัย” โดยเฉพาะ
- ครูบาศรีวิชัย : “เจ้าตนบุญแห่งล้านนา” กับความขัดแย้งในคณะสงฆ์
- “วัดเจดีย์หลวง” จ. เชียงใหม่ วัดกลางเมืองสำคัญที่ “ครูบาศรีวิชัย” ไม่เลือกบูรณะ
- “ครูบาศรีวิชัย” มรณภาพวันไหนกันแน่?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
https://www.matichonweekly.com/column/article_8279
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 เมษายน 2568