ผู้เขียน | สัตตบงกช เยาวโยธิน |
---|---|
เผยแพร่ |
ขนมเทียน ขนมมงคลประจำเทศกาลตรุษจีน ที่รัชกาลที่ 2 ทรงพระราชนิพนธ์ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
ตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวจีนทุกหมู่เหล่า เป็นเทศกาลใหญ่ที่กินเวลายาวนาน ในประเทศไทยก็มีการจัดเทศกาลนี้เช่นกัน แต่ขั้นตอนจะรวบรัดกว่าในเมืองจีนมาก ช่วงเทศกาลจะมี 3 วัน คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันถือหรือวันเที่ยว นอกจากนี้คนไทยที่ไม่มีเชื้อสายบางกลุ่มก็รับวัฒนธรรมนี้ไปด้วย
ของไหว้ประจำเทศกาลตรุษจีนนั้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ หมู ไก่ เป็ด และขนมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขนมเข่ง หรือขนมเทียน
แม้แต่ในพระราชสำนักก็ยังมีงานพระราชกุศลเลี้ยงพระตรุษจีน ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสิบสองเดือนอีกด้วย
ขนมเทียนถือเป็นขนมมงคลที่นิยมมากไม่เพียงแต่ตรุษจีนเท่านั้น ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ก็นำขนมชนิดนี้มาใช้ด้วยเช่นกัน โดยสื่อความหมายถึงการมีชีวิตที่ราบรื่น เพราะเป็นขนมที่มียอดแหลมคล้ายกับยอดเจดีย์
สันนิษฐานว่าขนมเทียนเป็นขนมที่ชาวไทยเชื้อสายจีนคิดมาเอง เป็นขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากเหนียนเกาหรือขนมเข่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงเคยกล่าวถึงขนมชนิดนี้ ในพระราชนิพนธ์เรื่อง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน บทหนึ่งว่า
“รสรักยักลำนำ ประดิษฐ์ทำขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม”
ขนมเทียนจึงได้กลายมาเป็นขนมประจำเทศกาลตรุษจีนอีกหนึ่งอย่างคู่กับขนมเข่ง

ขนมเทียนทำมาจากแป้งข้าวเหนียว หรือแป้งข้าวเจ้า กวนกับน้ำตาล แล้วนำไปนึ่ง มีไส้ ห่อด้วยใบตองเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ไส้เค็มทำจากถั่วทองนึ่ง ผัดให้เข้ากันกับพริกไทย เกลือ และน้ำตาลทราย ส่วนไส้หวานทำจากมะพร้าวขูดฝอย ผัดให้เข้ากันกับน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย คล้ายกับไส้ของขนมใส่ไส้ สื่อถึงความหวานชื่น ราบรื่น และสมบูรณ์พูลผลนั่นเอง
เหตุที่ได้ชื่อว่าขนมเทียน เพราะเนื้อแป้งมีลักษณะเนียนคล้ายกับเนื้อเทียน ในภาษาจีนกลางไม่มีคำเรียกขนมเทียน ส่วนในภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกด้วยคำในภาษาไทยว่า หนุมเทียน
นอกจากจะใช้ขนมเทียนในเทศกาลตรุษจีนแล้ว สำหรับคนในภาคเหนือก็นำเอาขนมเทียนหรือที่เรียกว่า “หนมจ็อก” มาใช้ในงานปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ของชาวล้านนาด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ขนมเทียนจึงถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ของคนไทยเชื้อสายจีน โดยไม่เพียงแค่เป็นขนมที่มีรสชาติอร่อย แต่ยังเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมไทย และการรักษาเอกลักษณ์ผ่านขนมที่มีความหมายทางวัฒนธรรม


อ่านเพิ่มเติม :
- ตรุษจีน ทำไมในซีรีส์จีนเขากินเกี๊ยว แต่จีนในไทยเรากินขนมเข่ง ?!?
- รู้จัก “อั่งถ่อก้วย” ขนมทีเด็ดจากจีน หน้าตาแทบเหมือน “กุยช่าย” แต่ไม่ใช่กุยช่าย!
- “ตรุษจีน” เลี้ยงขนมจีนนั้นไม่ใช่ของจีน ดูการแปรเปลี่ยนพิธีเลี้ยงพระตรุษจีนในราชสำนัก
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ถาวร สิขโกศล. (2557). เทศกาลจีนและการเซ่นไหว้. กรุงเทพมหานคร : มติชน.
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. ขนมเทียน. 4 มีนาคม 2555. (ออนไลน์)
https://www.silpa-mag.com/history/article_44570
https://www.thansettakij.com/lifestyle/travel-shopping/511416
http://mdc.library.mju.ac.th/article/90984/334743/182179.pdf
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 มกราคม 2568